"เศรษฐา" ชี้ต้องคุยนโยบายรวมก่อนร่วมรัฐบาล ให้เครดิตพรรคร่วมคัด รมต. ตัวเอง

"เศรษฐา" มอง 315 เสียงทำรัฐบาลมีเสถียรภาพ ชี้ต้องถกนโยบายรวมก่อนร่วมรัฐบาล ขีดเส้นภารกิจให้ชัดจะได้ไม่ทะเลาะกัน พร้อมให้เครดิตพรรคร่วมคัดเลือกรัฐมนตรีตัวเองถ้าไม่ผิดกฎหมายก็เป็นได้

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคสามารถรวมเสียงโหวตแคนดิเดตนายกฯ พรรคพท.ได้ถึง 315 เสียง มั่นใจจะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพหรือไม่ว่า ตนมองว่าเสียง 300 ต้นๆ ถือว่ามีเสถียรภาพ แต่ถ้าต้องบริหารเรื่องความคาดหวังของแต่ละพรรคร่วม ก็ต้องมาพูดคุยถึงนโยบายรวม ซึ่งจะเป็นนโยบายของรัฐบาล ต้องมาพูดคุยกันให้ดี 

เมื่อถามว่าการมาเป็นนายกฯ ในขณะที่ประเทศเจอวิกฤติเช่นนีเหนื่อยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า การมาเป็นผู้นำรัฐบาล การทำงานการเมือง ตนมองว่าก็เหนื่อยตลอด คณิตศาสตร์ที่ออกมาจากการเลือกตั้ง ตัวเลขที่ออกมายิ่งทำให้เหนื่อย มันจะง่ายขึ้นถ้าพรรคพท.ได้แลนด์สไลด์ แต่ก็ไม่ได้ซึ่งเราก็ต้องยอมรับ  

เมื่อถามอีกว่าการเป็นรัฐบาลผสมเช่นนี้จะพาประเทศออกจากหล่มที่เป็นอยู่ในตอนนี้ได้หรือไม่ นายเศษฐา กล่าวว่า มั่นใจว่าพรรคใดก็ตามที่จะเข้าร่วมรัฐบาล ต้องเข้าใจปัญหาที่มีในปัจจุบัน ทั้งความเป็นอยู่ประชาชนที่ต้องยกระดับ ปัญหาของรัฐธรรมนูญ ปัญหาความขัดแย้งด้านความคิด เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลเข้าใจดี และจากการแถลงร่วมกันของแต่ละพรรค ทุกคนเข้าใจปัญหาดี ฉะนั้นการมาร่วมด้วยช่วยกันในรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้น ตนเชื่อว่าต้องร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาประเทศและแก้ไขปัญหาดังกล่าว
"หน้าที่ของผู้นำรัฐบาลก็ต้องพยายามหล่อหลอมให้ทุกคนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและไปสู่จุดมุ่งหมายได้ จะเป็นพรรคไหนก็ตาม เชื่อว่าความเป็นห่วงบ้านเมืองต้องมีอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าเมื่อได้เป็นนายกฯ จะทำหน้าที่เลือกบุคคลที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีของแต่ละพรรคการเมืองหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เชื่อว่าต้องพูดคุยกัน และต้องให้เกียรติพรรคร่วมด้วย ซึ่งตรงนี้มีความสำคัญ เมื่อถามอีกว่าบางคนถูกสังคมตั้งคำถามเกี่ยวกับความเหมาะสมหากมารับตำแหน่งรัฐมนตรี จะคัดเลือกอย่างไรให้คณะรัฐมนตรีสง่างาม นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องให้เกียรติผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อด้วย และหากใครที่มีเรื่องคดีความก็ต้องไปว่าตามกฎหมาย ถ้าเป็นไปได้ก็เป็นไปได้ 

เมื่อถามว่าการมีพรรคร่วมจำนวนมากในฐานะผู้นำรัฐบาล จะสามารถบริหารให้รัฐบาลไปรอดได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า นโยบายรวมเป็นเรื่องสำคัญการพูดคุยกันก่อนที่จะเข้ามาร่วมรัฐบาล ความคาดหวังผลงานของแต่ละกระทรวง จึงเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยและตกลงกัน และต้องตั้งเป้าหมายให้เป็นจริง และมีระยะเวลาของแต่ละภารกิจให้ชัดเจน จะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกัน เราอย่าบอกว่ารัฐมนตรีมาจากพรรค ก หรือ ข แต่เราเป็นรัฐบาลของประเทศไทย จึงถือเป็นภารกิจร่วม นายกฯ มีหน้าที่หล่อหลอมให้บรรลุไปถึงจุดมุ่งหมายให้ได้

TAGS: #เศรษฐา #พรรคร่วมรัฐบาล #โหวตนายกฯ