ทนายวันชัย คอนเฟิร์ม สว.ส่วนใหญ่พร้อมไปกับขบวนเพื่อไทย ทุกคนพร้อมยิ่งกว่าพร้อม
นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ขบวนเสียงส่วนใหญ่ ใครๆก็พร้อมจะไปด้วย สว.ส่วนใหญ่พร้อมจะไปกับขบวนนี้ ทุกคนพร้อมยิ่งกว่าพร้อม เต็มที่เต็มขบวน
ก่อนหน้านี้ นายวันชัย ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับแจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่า วันที่22 สิงหาคมที่ประชุมรัฐสภาจะโหวตพิจารณารายชื่อบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งกรณีการตีความข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ41 ในวันที่16สิงหาคมนี้ จากนั้นตามขั้นตอนรัฐสภาจะต้องแจ้งวาระการประชุมให้สมาชิกทราบล่วงหน้า 3 วัน แต่ติดเงื่อนเวลาวันเสาร์ - อาทิตย์ จึงมาลงตัววันที่ 22 สิงหาคม มั่นใจการโหวตนายกรัฐมนตนีในวันดังกล่าวทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สลายขั้ว ก้าวข้ามความขัดแย้ง หลายพรรคการเมืองที่เป็นศัตรูคู่ขัดแย้งมาตลอด แต่วันนี้เป็นสถานการณ์พิเศษ ทำให้หลายพรรคการเมืองมารวมกันได้ จะเป็นรัฐบาล 300 กว่าเสียง เหลือแค่พรรคก้าวไกลกับบางพรรคเป็นฝ่ายค้าน
นายวันชัย กล่าวว่า สว.จะโหวตให้บุคคลที่พรรคการเมืองเสียงข้างมากเสนอชื่อมาได้เป็นนายกฯแบบเต็มคาราเบล ไม่ต้องกังวล สว.จะไปขัดขวางการเลือกนายกรัฐมนตรี ส่วนที่ชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ถูกกล่าวหาปมคุณสมบัติที่มีปัญหาการเลี่ยงภาษีซื้อขายที่ดินนั้น อาจมีสว.บางคน ตั้งแง่เป็นประเด็นบ้าง แต่เวลาโหวตจะไม่มีอะไรเป็นอุปสรรค ที่ผ่านมา สว.มีหนามตำใจมาตั้งแต่การโหวตนายกฯรอบที่แล้ว ถูกประชาชนมองเป็นอุปสรรคตั้งรัฐบาล ดังนั้นการโหวตนายกฯรอบนี้สว.ส่วนใหญ่อยากถอดสลักแผลที่ถูกฝังออก ให้การโหวตนายกฯและตั้งรัฐบาลสำเร็จ
ส่วนการที่สว.จะโหวตสนับสนุนนายกฯรอบนี้เกี่ยวกับกรณีที่มีข่าวพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติจะมาร่วมตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายวันชัย ตอบว่า แม้ไม่มี 2พรรคนี้ก็ประเมินว่าจะมีเสียงสว.สนับสนุนเป็นร้อยอยู่แล้ว แต่การมีพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติมาด้วยอาจเป็นความมั่นใจของคนที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ขอใช้คำว่าสว. 90 กว่าเปอร์เซ็นต์จะโหวตสนับสนุนให้เต็มคาราเบล
ส่วนการจับมือของพรรคเพื่อไทยกับพรรค “2 ลุง “ อาจทำให้เกิดความขัดแย้งของมวลชนปลุกคนลงถนนนั้น สว.วันชัยมองว่า เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองต้องรับผิดชอบ 1-2 เดือนแรกอาจขลุกขลักจากความไม่พอใจของมวลชน แต่ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยยอมเสี่ยง เมื่อกล้าเสี่ยงก็ต้องทำให้ได้ ถ้าบริหารประเทศแก่งแย่งผลประโยชน์ให้ตัวเองก็เตรียมหายนะ เมื่อกล้าเสี่ยงต้องทำงานทุ่มเทจริงจัง เอาผลงานเป็นตัวตั้ง ถ้าทำได้เรื่องๆจะบรรเทาเบาบางลง อีกทั้งประเมินแล้วโอกาสที่จะเกิดเหตุส่งไม้ต่อให้พรรคอันดับ3 หรือส่งต่อให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวน้าพรรคพลังประชารัฐ ตั้งรัฐบาลนั้นยากมาก เพราะผู้ใหญ่ในพรรคการเมืองต่างๆรู้ว่าสถานการณ์ขณะนี้ต้องใช้ใคร การตกลงเช่นนี้เพราะรู้ถึงสถานการณ์บ้านเมือง หวยจึงออกให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ เพราะเป็นพรรคอันดับ 2 และทำงานการเมืองมากกว่า 20ปี มีกำลังคน มวลชน ประสบการณ์มากมาย 17ปีคนก็ยังเลือกพรรคเพื่อไทยมาตลอด แม้บางคนไปไกลนานแล้ว แต่ก็ยังอยู่มาได้ ถ้าไม่ลุกมาสู้ด้วยตัวเองตอนนี้ พรรคตัวเองอาจถูกกลืนไปในที่สุด ถ้าไม่ใช้พรรคเพื่อไทยจะใช้พรรคใด