วิธีคิดถูกต้องหรือไม่? "พิธา" ถาม "อนุพงษ์" เอาเบี้ยบำนาญตัวเองไปตัดสินเบี้ยผู้สูงอายุ

วิธีคิดถูกต้องหรือไม่?
"พิธา" ถาม "อนุพงษ์" เอาเบี้ยบำนาญตัวเองไปตัดสินเบี้ยผู้สูงอายุคนอื่น เป็นวิธีคิดที่ถูกต้องหรือไม่ จี้แจงรายละเอียดให้ชัดเจน ชี้ ไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย ต้องเพิ่มงบ ไม่ใช่ตัดงบ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เผย กรณีการแก้เกณฑ์รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ว่า เข้าใจว่าเป็นราชกิจจานุเบกษาจากกระทรวงมหาดไทย ส่งลูกให้คณะกรรมการผู้สูงอายุ เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ เป็นเรื่องใหญ่และต้องสื่อสารให้ชัดเจน เพราะไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย ซึ่งมีแต่จะต้องเพิ่มงบประมาณ ไม่ใช่ตัดงบประมาณดูแลผู้สูงอายุ

“สิ่งที่เขาต้องการพูดว่ามีผู้สูงอายุ 11 ล้านคน ใช้งบประมาณ 9 หมื่นล้านบาท เพราะยังไม่มีความชัดเจน ตอนนี้ที่เราลงพื้นที่ระยองก็ยังมีความกังวลใจกัน ความชัดเจนเท่าที่เห็น ผมอ่านจากบีบีซีไทยว่าการกระทำครั้งนี้ของรัฐบาลรักษาการจะสามารถลดลงประมาณ 5 ล้านคน ประหยัดงบประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ผมฟังแล้วผมก็รู้สึกว่าจริงๆ แล้วเรือดำน้ำก็ 3 หมื่นกว่าล้านบาท แล้วความท้าทายในการใช้เรือดำน้ำต่อสู้แทบจะไม่มี แต่ความท้าทายของสังคมสูงวัยที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ เป็นสิ่งที่ต้องเพิ่มงบประมาณรับมือสังคมสูงวัย เทรนด์โลกเป็นแบบนั้น น่าเสียดายที่สภาผู้แทนราษฎรยังไม่ได้เปิดและทำงานประชุมเต็มรูปแบบ ยังไม่มีกระทู้ถาม ไม่เช่นนั้นจะให้ สส.ก้าวไกลตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีอนุพงษ์วันพฤหัสนี้ ว่าแท้จริงแล้วมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ใช้งบประมาณเท่าไร กระทบกี่คน ทำไมไม่มีงบประมาณ และจะใช้กฎเกณฑ์อะไร จะตกสำรวจหรือไม่ และทำไมสวัสดิการถ้วนหน้าไม่ต้องพิสูจน์ความจนถึงทำไม่ได้ จึงขอฝากพี่ๆ สื่อมวลชน เหมือนเราตั้งกระทู้กันสดๆ แบบนี้” นายพิธา กล่าว

หัวหน้าพรรคก้าวไกล ทิ้งท้าย ถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีรักษาการกระทรวงมหาดไทย ว่า การเอาความรู้สึกของคนเป็นรัฐมนตรีว่ามีบำนาญเท่าไร แล้วเอาไปตัดสินแทนพี่น้องประชาชน ชาวระยอง แกลง เขาชะเมา เป็นวิธีกระบวนการคิดที่ถูกต้องหรือไม่

TAGS: #พิธาลิ้มเจริญรัตน์ #เงินคนแก่ #เบี้ยผู้สูงอายุ #มหาดไทย #อนุพงษ์ #เบี้ยบำนาญ