“กัณวีร์” โพสต์เนื่องใน “วันมนุษยธรรมโลก” อยากเห็นการเมืองไทย ใช้หลักการมนุษยธรรมนำการเมือง ตรงไปตรงมา ทำประโยชน์ให้ประชาชนเป็นหลัก เป็นอิสระไม่ถูกควบคุมจากกลุ่มอิทธิพล ออกจากกลุ่มก้อนผลประโยชน์
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ปีที่แล้วในวันมนุษยธรรมโลก ผมได้รำลึกถึงคุณ Sérgio Vieira de Mello ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของผมในการทำงานด้านมนุษยธรรมและสันติภาพ สำหรับปีนี้ผมขออุทิศวันมนุษยธรรมสากลให้กับความจำเป็นเร่งด่วนต่อกระบวนการปรับโครงสร้างการเมืองไทยโดยใช้หลักการ “มนุษยธรรมนำการเมือง”
การเมืองที่ไม่ตรงไปตรงมา ระบบการเมืองการปกครองที่บิดเบี้ยว เป็นสิ่งที่คู่กับระบอบประชาธิปไตยไทยมาเป็นเวลา 91 ปี นี่คือสิ่งย้ำเตือนถึงความผิดพลาดของความพยายามในประวัติศาสตร์การสร้างประชาธิปไตยไทย การใช้หลัก “ทหารนำการเมือง” “รัฐราชการนำการเมือง” “เศรษฐกิจนำการเมือง” ฯลฯ ไม่ตอบโจทย์ต่อการปักเสาหลักประชาธิปไตยในประเทศไทย
สิ่งที่น่าแปลก คือ ทำไมความเข้าใจง่ายๆ ในคำนิยามพื้นฐานของคำว่า “ประชาธิปไตย” มันถึงยากเย็นต่อความเข้าใจของนักการเมืองและพรรคการเมืองของไทยผู้ซึ่งเสนอตัวมาเป็นผู้รับใช้ประชาชน ??
ทำไมถึงไม่เข้าใจหัวใจสำคัญของ “ประชาธิปไตย” ที่ต้อง “นำประชาชนมาเป็นศูนย์กลางเป็นลำดับแรกสุด นำความต้องการสูงสุดของประชาชนมาเป็นตัวตั้งในการดำเนินงานทางการเมืองทั้งปวง” แค่นี้สั้นๆ น่าจะเข้าใจง่ายนะผมว่า หากเรามีความเข้าใจที่ตรงกันดังนี้ กฏและกติกาทางการเมืองต่างๆ จะไม่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกีดขวางการเดินหน้าการสร้างประชาธิปไตยในไทย
ผมได้เสนอ หลักการมนุษยธรรมนำการเมือง มาตั้งแต่การเข้ามาทำงานการเมืองแรกๆ เพราะทราบดีว่าการการเมืองไทยผ่านสถานการณ์เลวร้ายมาอย่างยาวนาน และปัจจุบันอยู่ในภาวะฉุกเฉินที่ต้องมีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน จากการที่ผมได้ทำงานในภาวะฉุกเฉินและภาวะสงครามที่ใช้หลักการมนุษยธรรมเป็นเกราะป้องกันในการทำงานและช่วยเหลือบุคคลในความห่วงใยมาโดยตลอดและทำได้จริง คนสามารถยืนด้วยขาตัวเอง และเดินได้เองอย่างเข้มแข็งอย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ผมจึงคิดว่าหลักการมนุษยธรรมนี้ต้องนำมาปรับใช้กับการเมืองไทยอย่างจริงจัง
“การเอาประชาชนเป็นศูนย์กลางเพื่อกำหนดนโยบาย กติกา แผนงาน และโครงการ ในการตอบสนองต่อความต้องการที่แท้จริงของคนที่เราทำงานให้เป็นสิ่งแรกที่ต้องยึดมั่น โดยต้องดำเนินงานทุกอย่างอย่างไม่เอนเอียง โดยต้องนำตัวเราเองผู้ซึ่งรับใช้ประชาชนออกจากความต้องการของกลุ่มก้อนทางผลประโยชน์ต่างๆ ที่จะมามีอิทธิพลเหนือความต้องการที่แท้จริงของประชาชน ทั้งนี้ ผู้รับใช้ประชาชนต้องไม่เข้าข้างกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพื่อเอื้อประโยชน์อย่างไม่เป็นธรรมต่อกลุ่มใดๆ และการทำงานเพื่อรับใช้ประชาชนต้องเป็นอิสระไม่ถูกควบคุมจากกลุ่มอิทธิพลต่างๆ นอกเหนือจากความต้องการของประชาชน“
ดังนั้นเนื่องในวันมนุษยธรรมโลก ผมจึงอยากเห็นการนำหลักการของงานด้านมนุษยธรรมมาปรับใช้กับการนำมาซึ่งระบอบการปกครองประชาธิปไตยในประเทศไทย และหากเป็นได้อยากเห็นว่าหลักการมนุษยธรรมนำการเมืองนี้ควรเป็นธรรมนูญพรรคการเมืองทุกพรรค เพื่อคำนึงต่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน จนเป็นรากฐานของระบอบประชาธิปไตยของไทยต่อไป
สุขสันต์วันมนุษยธรรมสากลครับทุกท่าน