“อดุลย์” หนุนตั้งรัฐบาลสลายขั้ว วอนพวกสุดโต่งปล่อยวาง

“อดุลย์” หนุนตั้งรัฐบาลสลายขั้ว วอนพวกสุดโต่งปล่อยวาง
ประธานญาติวีรชนพฤษภา’35 หนุนตั้งรัฐบาล สลายขั้วสร้างความสามัคคีปรองดอง วอนพวกสุดโต่งทั้ง 2 ฝ่ายรู้จักปล่อยวาง ยอมรับความจริง ชี้การจัดตั้งรัฐบาลยืดเยื้อกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด-ตั้งโจทย์ผิดตั้งแต่แรก

 ประธานญาติวีรชนพฤษภา’35 หนุนการจัดตั้งรัฐบาล สลายขั้วสร้างความสามัคคีปรองดอง วอนพวกสุดโต่งทั้ง 2 ฝ่ายรู้จักปล่อยวาง ยอมรับความจริง ชี้การจัดตั้งรัฐบาลกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด-ตั้งโจทย์ผิดตั้งแต่แรก ย้ำต้องมีรัฐบาลช่วยชาติโดยเร็ว เพื่อเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทุกฝ่ายต้องได้ประโยชน์ ประเทศชาติจึงจะเดินหน้าไปได้

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 และอดีตคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ  ระบุ การจัดตั้งรัฐบาลด้วยการสลายขั้วความขัดแย้ง  เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับข้อเสนอของคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35มาโดยตลอด เพราะความขัดแย้งทางการเมืองเกือบ2ทศวรรษที่ผ่านมา มีการแบ่งกลุ่ม แบ่งสี ผลัดกันขึ้นมีอำนาจมาหลายรอบแต่ความขัดแย้งก็ยังไม่ยุติ ปัจจุบันยังลุกลามไปถึงเด็กเยาวชนและสถาบันหลักของชาติ หากไม่หาทางยับยั้งจะเป็นภัยอันใหญ่หลวงต่อประเทศชาติ ทั้งนี้คณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง ได้เสนอแนะทางการสร้างความปรองดองต่อรัฐบาลประยุทธ์ ตั้งแต่ปลายปี58 แต่รัฐบาลไม่นำพา   บัดนี้คงได้บทเรียนแล้วว่าหากไม่สร้างความสามัคคีปรองดอง บ้านเมืองเดินต่อไปไม่ได้  จึงขอสนับสนุนแนวทางพรรคเพื่อไทยที่พยายามสลายขั้วในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่จะมีแรงเสียดทานทางการเมืองเช่นเดียวกับการแก้ปัญหาความขัดแย้งในประเทศอื่นๆทั่วโลก ก็จะมีพวกสุดโต่งทั้ง2ขั้วที่ไม่ยอมรับ ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน จึงขอวิงวอนพวกสุดโต่งทั้ง2ฝ่าย รู้จักปล่อยวางบ้าง เพราะในความเป็นจริงทุกฝ่ายก็มีส่วนผิดและถูกด้วยกันทั้งนั้น หากสู้กันต่อไป ก็ไม่มีใครชนะ แม้จะชนะก็ปกครองไม่ได้  ครอบครัวญาติวีรชนฯก็ผ่านความเจ็บปวดมาไม่น้อย เมื่อได้ให้อภัย อโหสิกรรม พล.อ.สุจินดา คราประยูร   บ้านเมืองก็มีสันติสุขเรื่อยมา   ดังนั้นหากทุกฝ่ายร่วมกันสร้างความสามัคคีปรองดองครั้งนี้สำเร็จ จะเป็นคุณูปการต่อการเมืองไทยในระยะยาว 

สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลที่เยื้อมานานเนื่องจาก "กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด" ตั้งแต่แรกโดยให้พรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งอันดับหนึ่งกับพรรคที่ได้เสียงอันดับสองซึ่งเสียงใกล้เคียงกัน ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งตามหลักสากลแล้วไม่มีประเทศไหนเขาทำแบบนี้  เมื่อให้พรรคอันดับหนึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว พรรคที่ได้อันดับสองจะต้องไปเป็นฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล มิเช่นนั้นหาก2พรรคใหญ่ร่วมรัฐบาลด้วยกัน ฝ่ายค้านก็จะอ่อนแอ และหากพรรคใดพรรคหนึ่งถอนตัว รัฐบาลก็ล้มคว่ำทันที  นอกจากนี้ยัง”ตั้งโจทย์ผิด”ตั้งแต่แรกด้วย ที่ยัง”แบ่งขั้วทางการเมือง” เพราะจะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียประโยชน์ ความขัดแย้งทางการเมืองก็จะไม่มีทางยุติได้  ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องได้ประโยชน์จึงถูกต้อง เพราะเมื่อแบ่งผลประโยชน์ไม่ครบถ้วนย่อมไม่มีทางเป็นไปได้ เปรียบเสมือนร่างกายมนุษย์ทุกสัดส่วนได้รับอาหารเสริมแข็งแรงขึ้น ขาดแต่”หัว”กับ”ตีน” ที่ไม่ได้เลย ในที่นี้ตีนหมายถึงประชาชน ที่ถูกปลูกปั่นให้แบ่งขั้วแบ่งข้าง เสียประโยชน์ลูกเดียว ตลอดเกือบสองทศวรรษที่ผ่านมา   

“ในความเป็นจริงแล้วพรรคการเมืองไทย ล้วนมีความต้องการและมีจุดอ่อนที่แตกต่างกัน  พรรคเพื่อไทย  เจ้าของพรรคตัวจริงต้องการกลับบ้าน พรรคก้าวไกล ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศทันที พรรคภูมิใจไทย ต้องการอำนาจเพื่อรักษาอาณาจักรของตัวเอง พรรครวมไทยสร้างชาติชาย รักษาอำนาจโดยไม่คำนึงถึงการปฏิรูป พรรคประชาธิปัตย์ ยังล้าหลังไม่เหลือความเป็นสถาบันแล้ว พรรคพลังประชารัฐ  ภาพลักษณ์ไม่ดี แต่แนวทางถูกต้อง ดังนั้นพรรคการเมืองต่างๆจึงแย่งชิงอำนาจเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น  ไม่ได้ยึดเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวตั้ง การจัดตั้งรัฐบาลจึงตกลงกันไม่ได้ สุดท้ายต้อง สลายขั้ว ตั้งรัฐบาลช่วยชาติ ตามแนวทาง  5 ข้อ ที่ได้เสนอไปแล้ว จึงจะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ และเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างแท้จริงได้” 

นายอดุลย์ กล่าวด้วยว่า   ขอตั้งคำถามต่อพรรคการเมืองต่างๆ ว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่มีความยุ่งยากจากการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เสียเวลาอันมีค่าของชาติบ้านเมือง จนป่านนี้ยังไม่สามารถมีรัฐบาลที่แท้จริงได้ เป็นประโยชน์แก่ประชาชนตรงไหน โผครม.ที่ออกมาสะท้อนภาพลักษณ์นักการเมืองที่ยังแย่งผลประโยชน์กันล้วนไม่ตอบโจทย์ประชาชน จึงขอย้ำว่าต้องไม่ยึดโควตา ต้องเอาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถจากทุกพรรคมาร่วมกันแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง  มิเช่นนั้นปัญหาจะวนอยู่ในวงจรเดิม   ส่วนรัฐบาลรักษาการนั้นมีอำนาจจำกัดในการบริหารบ้านเมือง ไม่สามารถเดินหน้าวางแผนงบประมาณได้และแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและหน่วยงานของรัฐได้  การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลตัวจริงไม่เกิดขึ้น ทั้งที่ภาวะเศรษฐกิจขณะนี้มีปัญหามากมาย รายได้ประชาชนหดหาย การท่องเที่ยวฟื้นน้อยกว่าที่คาดไว้มาก หนี้ครัวเรือนมีขนาดใหญ่โต และเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มแผ่วลงทุกวัน รวมทั้งมีปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ต้องวางแผนโดยผู้รู้ที่เชี่ยวชาญแต่เนิ่นๆ จึงขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองเลิก ยึดแนวทางประโยชน์พรรค จับมือสามัคคีเพื่อแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมือง จำเป็นต้องมีรัฐบาลตัวจริงโดยเร็วที่สุด

TAGS: #รัฐบาลช่วยชาติ #รัฐบาลสลายขั้ว #รัฐบาลเพื่อไทย