เราเป็นพรรคใหม่ ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง แต่กำลังเชิญชวนคนไทยทุกคน มาร่วมกันสร้างประเทศไทยให้ดีที่สุด เพื่อส่งมอบให้กับลูกหลาน และต้องยืนฝ่าวงจรอุบาทว์ทางการเมือง และเราจะยืนไม่ได้ถ้าประชาชนไม่สนับสนุน

หมายเหตุ - คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษ สำนักข่าว THE BETTER ถึงมุมมองแนวทางการพัฒนาฟื้นฟูประเทศให้ดีกว่านี้ได้อย่างไร ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง โดยมีสาระน่าสนใจดังนี้

***************************

คุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่า ในช่วงเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา ต้องบอกว่า เป็นช่วงที่ประเทศไทยตกต่ำมากที่สุด มีประชาชนทุกข์ยากมากทึ่สุด และมองไม่เห็นอนาคตของคนรุ่นต่อไปเลย ดังนั้นจึงเป็นความตั้งใจที่ออกมาสร้างพรรคไทยสร้างไทย เพื่อที่จะชวนคนไทยมาช่วยกันสร้างประเทศไทยให้มันดีกว่านี้ เพื่อส่งมอบให้กับรุ่นต่อไป

"เราต้องไม่ส่งมอบความยากจน ต้องไม่ส่งมอบภาระหนี้สิน ต้องให้มันจบที่รุ่นเรานี่คือภาระที่อยากมาทำ"

ทั้งนี้สิ่งที่จะทำให้ประเทศไทยดีขึ้นกว่านี้นั้น เห็นว่า ปัญหาของประเทศในขณะนี้ คืออำนาจนิยมที่กดทับประเทศมายาวนาน จะเห็นว่ารัฐประหารบ่อยที่สุด รัฐราชการที่มากดทับ รวมทั้งกฏหมายต่างๆที่มาเป็นอุปสรรคมาขวางกั้นการทำงานของประชาชน 

ดังนั้นเราทำให้ประเทศดีกว่านี้ได้ด้วยนโยบายที่เรียกสั้นๆว่า 3 สร้าง โดย สร้างอย่างแรกคือ ต้องสร้างอำนาจให้กับประชาชนก่อน ให้ประชาชนสามารถปลดปล่อยศักยภาพได้อย่างเต็มที่ อุปสรรคขวางกั้นมากที่สุดใหญ่ที่สุดก็คือกฏหมาย โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับใบอนุญาติต่างๆ มี 1,000 กว่าฉบับ ซึ่งเราได้เสนอให้ยกเลิกกฏหมายที่เกี่ยวกับใบอนุญาติและโทษทางอาญา ประมาณ 1300 ฉบับ และบางฉบับจะขอพักใช้ไว้ 3-5 ปีเพื่อให้คนไทยทำมาหากินได้เร็วขึ้น อย่างเช่น จะไม่ต้องไปขออนุญาติ อย. นอกจากยา อาหาร อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ เครื่องดื่ม ไปจดแจ้ง ซึ่งมีเว็บไซต์ให้ไปจดแจ้ง อนุมัติทำมาหากินได้ทันที ภายใน 7 วัน แต่ทำผิดกฏหมายก็มีโทษ เพื่อเป็นการปลดล็อคให้คนไทยทำมาหากินได้ 

ในขณะอีกเรื่องที่สำคัญคือการกดทับเรื่องรัฐราชการ ข้าราชการเราต้องเปลี่ยน Kpi ใหม่ ต้องมีส่วนให้ประชาชนในการที่จะโหวตเหมือนในต่างประเทศ รวมทั้งรัฐวิสาหกินอย่างค่าไฟที่แพงขึ้น ก็เพราะไปอุ้มนายทุน ต้องเปลี่ยนกฏเกณฑ์ใหม่เลยว่า รัฐวิสาหกิจและข้าราชการมีหน้าที่ทำให้ประชาชนทำมากินได้สะดวกขึ้น ง่ายขึ้น ลดต้นทุนขึ้น ถ้าทำแบบนี้ได้คุณเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งได้ 

ส่วนเรื่องของการคอรัปชั่น คือมะเร็งร้ายที่กัดกินประเทศ วันนี้งบประมาณกว่า 3 ล้านล้าน มันละลายหายหมด มันไปไม่ถึงประชาชน เราถึงยากจนกันอยู่แบบนี้ ดังนั้นต้องปลดเรื่องการคอรัปชั่น พรรคไทยสร้างไทย ชูธงเรื่องของการปราบคอรัปชั่น และเรามีวิธีการเป็นโมเดลเลย และมั่นใจถ้าเรามา คอรัปชั่นจะเป็นศัตรูร้ายที่ต้องปราบให้ได้ 

ด้านเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง คือเลือกฝั่งนี้ก็ติดล็อค เลือกอีกฝั่งก็ติดหล่ม เป็นอย่างนี้มา 17 ปีแล้ว เป็นเหตุให้พวกทหารลากปืนมารัฐประหาร คนที่แย่ทุกข์หนักคือประชาชน ดังนั้นทางพรรคไทยสร้างไทยได้เสนอการแก้รัฐธรรมนูญเข้าสภาไปเรียบร้อยแล้ว รัฐธรรมนูญเป็นกฏหมายสูงสุดของประเทศต้องไม่เขียนมาจากปลายกระบอกปืนของพวกที่รัฐประหาร แต่ต้องเขียนจากมือจากปากกาของประชาชน นี่คือการปลดล็อคให้ประชาชนได้ระเบิดศักยภาพของตัวเองได้ 

ขณะเดียวกันต้องเพิ่มพลังการสร้างอำนาจของประชาชน ต้องเพิ่มโอกาสให้เข้าถึงแหล่งทุน แหล่งความรู้ แหล่งตลาด วันนี้คนจนกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยร้อยละ 240 ต่อปี ขณะที่คนรวยเสียสองถึงสามเปอร์เซ็นต่อปี แล้วประเทศนี้จะเปลี่ยนจากคนจนให้เป็นคนที่มีฐานะได้อย่างไร 

"เราต้องแก้ให้เขาเข้าถึงแหล่งทุน ดอกเบี้ยถูก เราถึงได้เสนอให้มีกองทุนเครดิตประชาชน และกองทุนเอสเอมอีเป็นหลัก กองทุนตัวเล็กมีไว้ให้กับเด็กจบใหม่ หรือพ่อค้าแม่ค้าที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันต้องไปกู้นอกระบบ ได้กู้เริ่มต้น เอาเครดิตตัวเอง ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน เครดิตบูโรไม่เกี่ยว กู้ได้ตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท รักษาเครดิตได้กองทุนนี้อยู่กับคุณไปตลอดชีวิต คุณจะสามารถไปปลดหนี้นอกระบบ สามารถไปตั้งตัวได้ รวมถึงทั้งเอสเอ็มอีเราให้ความสำคัญเป็นวาระแห่งชาติ" 

ทั้งนี้ เอสเอ็มอี มี 3 ล้านกว่าราย แต่จ้างงานคนถึง 17 ล้านคน ทั้งในระบบและนอกระบบ 17 ล้านคน เกือบ 1 ใน 3 ของประเทศ จึงต้องให้ความสำคัญกับเอสเอมอี ต้องให้เข้าถึงแหล่งเงิน เป้าหมายที่จะทำให้ประเทศไทยดีกว่านี้ คือการเพิ่มพลังอำนาจประชาชนคือ เรื่องของระบบเศรษฐกิจ ตอนนี้เศรษฐกิจไทยเป็นสามเหลี่ยม คือมีคนรวยอยู่บนสุดกระจุกเดียว ส่วนคนจนกระจาย เราจะเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจจากสามเหลี่ยมให้เป็นรูปรักบี้ มีคนจนนิดเดียวมีคนรวยไม่มากแต่คนที่พอกินพอใช้เป็นส่วนใหญ่ของประเทศ นี่คือสิ่งที่เราจะทำให้ประเทศไทยดีขึ้น 

ต้องลดความเหลื่อมล้ำเรื่องของความเข้าถึงแหล่งทุนแล้วต้องเข้าถึงแหล่งตลาด เข้าถึงแหล่งความรู้ในการพัฒนา เราจะมีศูนย์พัฒนาสินค้าเกษตรและโลจิสติกส์ทุกจังหวัด รัฐลงทุนให้คนตัวเล็กตัวน้อยขายข้าว ขายข้าวเปลือกได้กิโลละไม่ถึง 10 บาท แต่มาซื้อข้าวในห้างสะดวกซื้อ กิโลละ 60-70 บาท เงิน 50-60 บาท หายไปไหนต่อกิโล หายไปอยู่ในกระเป๋าคนรวยหมด แต่ถ้าทำศูนย์นี้เงินจำนวนนี้จะกลับไปอยู่ที่เกษตรกร จะทำให้ จีดีพี ของจังหวัดคนตัวเล็กเกษตรกรดีขึ้น อย่างน้อยมั่นใจว่าในสองปีแรกจะดีขึ้น 30-40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดีขึ้นค่าแรงจะดีขึ้นเอง ต้องให้รายได้คนฐานรากดีขึ้นก่อน นี่คือการสร้างพลังอำนาจให้กับประชาชน 

สร้างที่สองคือสร้างรายได้ วันนี้ประเทศไทยต้องไม่โตจากการกู้ เศรษฐกิจไทย โตจากการกู้ไม่ได้ เศรษฐกิจจะโตจากการสร้างรายได้และคิดให้เป็น ซึ่งต้องมองเป็น 3 เรื่อง

1.ความแข็งแรงเดิมของประเทศไทย ประเทศไทยมีความแข็งแกร่ง ในเรื่องเกษตรเรื่องอาหาร ซึ่งทั้งโลกกำลังขาดแคลนอาหาร นี่คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของไทยจะส่งออกอาหารไปขายยังทั่วโลก เป็นมหาอำนาจด้านอาหาร

2.ท่องเที่ยว มีการท่องเที่ยววัฒนธรรมมีธรรมชาติสวยงาม ต้องยกระดับการท่องเที่ยวละอนุรักษ์สภาพแวดล้อมไปด้วยกัน เพื่อให้การท่องที่ยวยั่งยืน เพื่อห้าเงินได้ต่อไป

3.เราแข็งแกร่งเรื่องการรักษาพยาบาล เรื่องสปา ซึ่งเราต้องเป็นศูนย์กลางในการฟื้นฟูสุขภาพที่จะซ่อมสุขภาพของคนทั้งโลก หรือถ้ามีโรคบาดเราต้องเป็นหลุมหลบภัยของโรคระบาด และในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขมาก่อน มั่นใจว่าสามารถทำได้

นอกจากนี้ยังมีนโยบายสร้างความสุขดูแลคนตั้งแต่เกิดจนแก่ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้ที่ดี และอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี เราจะมีนโยบายเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี เราจะลงทุนกับการสร้างคน เพราะการสร้างคนคือการสร้างชาติ ตอนนี้การศึกษาไทยแย่ ไปดูผลสอบพิซซ่า ตกหมดทุกวิชา แล้วเด็กไทยจะไปสู้กับใครได้ และเมื่อเรียนฟรีแค่จบม.ปลาย ที่เหลือเด็กต้องหลุดออกจากนอกระบบ ทั้งๆที่เขามีความสามารถ แต่เขาไม่มีปัญญาไปกู้ กยศ. ดังนั้นให้เรียนฟรีจนจบปริญญาตรีไมต้องกู้ กยศ. 

ขณะเดียวกันผู้สูงอายุต้องทำให้แข็งแรงและกลับมาทำงานต่อได้ จึงมีนโยบายบำนาญประชาชน เดือนละ 3,000 บาท เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมผู้สูงวัย เราเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกในโลก ที่มีสัดส่วนประชากรผู้สูงวัยสูงที่สุดในโลกอันตรายมาก และเป็นโชคร้ายด้วยผู้สูงวัยของไทยนั้นแก่ก่อนรวย เป็นภาระลูกหลานเป็นภาระของการรักษาพยาบาลเป็นแสนล้าน ดังนั้นจึงต้องมีบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท เพื่อให้ผู้สูงวัยอยู่อย่างมีรายได้อยู่อย่างมีศักด์ศรี 

ทั้งนี้ เราอยากเดินไปสู่การออม เพราะทุกวันนี้มีแต่หนี้แต่ชวนให้ออมไม่มีใครออม แต่ไปถามทุกคนเล่นหวยกันหมด ซื้อลอตเตอร์รี่หมดทุกงวด ดังนั้นเราจะเปลี่ยนเงินหวยเป็นเงินออม ด้วยสลากการออมแห่งชาติ เงินต้นที่ซื้อสลากจะไม่หายไปสะสมครบอายุ 60 ปี เราจะคืนเงินต้นให้ เช่น ซื้อลอตเตอรี่หรือสลากการออม 30,000 บาท ครบ 10 ปี เมื่ออายุ 60-80 ปี จะคืนเงินให้สามช่วง ซื้อมา 30,000 บาท คืนให้เลยเงินต้น ส่วนรางวัลไปลุ้นกันเอาเอง คิดอย่างเป็นระบบแบบนี้ที่จะเปลี่ยนประเทศไทย 

"ถ้าไม่คิดให้เป็นระบบแบบนี้ กับความเลวร้ายที่มีอยู่ในปัจจุบัน เราเห็นแล้วว่ามีการซื้อตัว สส. บอกได้เลยว่าจะมีการซื้อเสียงมากที่สุดตั้งแต่เลือกตั้งมา วันนี้ถ้าไม่ได้สร้างเกราะป้องกันให้ประชาชนได้รู้ และมีพรรคการเมืองที่ยืนหยัดสู้จะไม่ใช้เงินซื้อประชาชน แต่จะสร้างความมั่นคงความมั่งคั่งทางด้านเศรษฐกิจอย่างไร คิดแบบยั่งยืนให้กับประชาชน ประชาชนอาจจะรับเงินซื้อเสียงหัวละ1,000-2,000 ใช้ได้ไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ แต่หากเเลือกไทยสร้างไทย จะได้รับบำนาญประชาชนทุกเดือน เดือนละ3,000 บาทจนเขาเสียชีวิต"

คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุอีกว่า  เราเป็นพรรคใหม่ ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง แต่กำลังเชิญชวนคนไทยทุกคน มาร่วมกันสร้างประเทศไทยให้ดีที่สุด เพื่อส่งมอบให้กับลูกหลาน และต้องยืนฝ่าวงจรอุบาทว์ทางการเมือง และเราจะยืนไม่ได้ถ้าประชาชนไม่สนับสนุน ประชาชนต้องมีความเชื่อมั่นและมีความหวังว่าเราจะร่วมกันฝ่าฟันทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ดีที่สุดได้ คอรัปชั่นต้องหมดไป โอกาสประชาชนต้องมี สวัสดิการประชาชนต้องได้รับ ความทัดเทียมต้องมี

สำหรับโอกาสที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งทางการเมืองนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่า มองวิกฤตเป็นโอกาส ตอนนี้ประเทศไทยติดหล่มจากการแบ่งขั้วเป็นสองขั้วที่ต่อสู้กัน ทางออกคือต้องแก้รัฐธรรมนูญ เพราะฉบับนี้สืบทอดอำนาจ ซึ่งสว.จะหมดไปในอีกปี ไม่ต้องไปแก้ เพราะกว่าจะเลือกตั้งก็หมดอำนาจ แต่ปัญหันไม่ใช่แค่ สว. ปัญหามันคือ แผนยุทธศาสตร์ชาติ ที่เขียนอยู่ในนั้น ที่คอยคุมกำเนิดประเทศนี้ไม่ให้พัฒนาหรือเติบโตจึงต้องแก้ 

"รัฐบาลถ้าไม่ใช่ฝั่งของผู้มีอำนาจที่ยึดอำนาจมา รับรองเลยว่าเป็นรัฐบาลได้ไม่ถึง 3-6 เดือน เขาคว่ำด้วยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ง่ายๆ คนเป็นนายกฯเตรียมติดคุกได้เลย เพราะมันเขียนให้ปฏิบัติไม่ได้สักอย่าง แผนยุทธศาสตร์ชาติ คือแผนคุมกำเนิดชาติ เพื่อไม่ให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทำอะไรได้อย่างอิสระ ทุกอย่างต้องผ่านต้องรายงาน"

ทั้งนี้สิ่งแรกเลยแถลงนโยบายต่อสภา ต้องบอกที่มาของเงิน เขาสามารถบอกได้เลยว่าที่มาของเงินคุณไม่ถูกต้องคุณผิด ดังนั้นวันนี้เลยเสียใจตอนที่เคยเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคเก่า เราได้ผลักดันรัฐธรรมนูญจนไปถึงวาระสาม และ อยู่ๆ พรรคใหญ่จับมือกันไม่เอารัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ไม่ต้องให้เลือก สสร. เลี้ยวมาแก้แค่กติกาเลือกตั้ง และ เกิดหากอีกฝั่งได้เป็นรัฐบาลคุณก็อยู่ไม่ได้ด้วยกติกาแบบนี้

สำหรับถ้ามีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรี สิ่งที่ต้องทำทันทีนั้น คุณหญิงสุดารัตน์  บอกว่า ต้องแก้ความขัดแย้งทางการเมือง ต้องเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยประชาชน เลือก สสร. เพื่อลบแผลในหัวใจ และก็สร้างอนาคตปลดล็อคให้ประเทศไทยไม่ถูกคุมกำเนิด ด้วยรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจนี้ 

ขณะเดียวกันต้องเพิ่มพลังอำนาจประชาชนทันทีด้วยการปลดล็อคกฏหมายและเรื่องของทุจริตคอรัปชั่นต้องเร่งทำอย่างด่วนเพราะทุกวันนี้หากินจากงบประมาณแบบนี้ประเทศไทยเดินไปไม่ได้ และต้องพุ่งไปที่คนการพัฒนาเด็ก ให้โอกาสคนเข้าถึงโอกาสการทำมาหากินอย่างง่ายดาย อย่างสะดวก 

ดังนั้นหากมีโอกาสเข้ามาเป็นผู้นำ มี5เรื่องที่ต้องทำทันที 1.ปลดล็อคความขัดแย้งทางการเมืองแก้รัฐธรรมนูญให้ประชาชนเขียนรัฐธรรมนูญ 2.ปลดล็อคเรื่องรัฐราชการและกฏหมายให้ประชาชนนำมาหากินได้รวดเร็วเพื่อเศรษฐกิจที่ดีขึ้น 3.เราต้องเปลี่ยนทันทีต้องให้เด็กไทยมีคุณภาพทันโลก 4.ลดความเหลื่อมล้ำกระจายโอกาสให้กับประชาชนด้วยนโยบายต่างๆที่พูดไป และ 5.ต้องปราบคอรัปชั่น 

สำหรับวิธีการปราบคอรัปชั่นนั้น  คุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่า รัฐธรรมนูญนี้อ้างว่าปราบคอรัปชั่น แต่ดัชนีคอรัปชั่นสูงที่สุดในประวัตการณ์ ดังนั้นมันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นเอง ไทยสร้างไทยมีโมเดล อย่างแรกเลยผู้นำต้องเอาจริงเอาจังกับการปราบคอรัปชั่น อย่างที่สอง เรื่องของการเปลี่ยนอำนาจ เช่น เรื่องอำนาจของการเรียนฟรี อำนาจงบประมาณทั้งหมด จะไม่ได้ให้ราชการจัด จะมีการออกกฏหมายเลือกสภาชุมชน เงินแต่ละบาทที่เข้าหมู่บ้านประชาชนจะเป็นคนใช้ และประชาชนจะเป็นคนตรวจรับงาน จะไม่เห็นเสาไฟกินรี ประชาชนเดือดร้อนอะไรจะได้เอาไปใช้อันนั้น 

ขณะเดียวกัน ได้ทำแอพพลิเคชั่นจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ เป็นแอพพลีเคชั่นที่ให้ประชาชนแจ้งเรื่องคอรัปชั่น เรื่องของการโหวตความพึงพอใจต่อราชการที่ประชาชนสัมผัสตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาคถึงระดับส่วนกลาง ซึ่งตรงนี้จะทำให้ประชาชนแจ้งเรื่องทุจริต และเราจะเปลี่ยนอำนาจให้ประชาชนฟ้องร้องตรงได้ไม่ต้องผ่าน ป.ป.ช. เป็นต้นทางของเรื่องการปราบทุจริต และการฟ้องร้องทุจริตจากประชาชน ประชาชนจะไม่ต้องเสียเงิน รัฐจะดูแลให้ และจะมีการคุ้มครองพยานรวมทั้งในแอพพลิเคชั่น จะมีการปิดข้อมูลว่าใครเป็นคนแจ้ง  เรามั่นใจว่าด้วยโมเดลนี้จะลากคนโกงไม่ว่าจะเบอร์ใหญ่ขนาดไหนทั้งนักการเมือง ทั้งข้าราชการมาลงโทษได้