ปิดฉาก 3 ป.อำลาการเมืองหลังคุมอำนาจร่วมทศวรรษ

ปิดฉาก 3 ป.อำลาการเมืองหลังคุมอำนาจร่วมทศวรรษ
ปิดฉากอำนาจทางเมืองของ3ป.ลงไปเรียบร้อยแล้ว แม้จะมี"องคาพยพ"หลงเหลืออยู่บ้าง ก็คงเพียงแค่เพื่อไว้คอยระวังหลัง แต่เชื่อว่าโอกาสที่ 3 ป.จะกลับมายิ่งใหญ่ คงยากยิ่ง

หลังการยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 จนถึงปัจจุบันนานร่วมทศษวรรษ นั้น อำนาจในการบริหารประเทศตกอยู่ในมือ อดีตผู้บัญชาการทหารบก กลุ่มพี่น้อง 3 ป.นั้น คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุรรณ หรือบิ๊กป้อม เป็นพี่ใหญ่ ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา หรือบิ๊กป๊อก  เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย  และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือบิ๊กตู่ เป็นนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม 

เมื่อครองอำนาจมายาวนาน ความนิยมก็เริ่มเสื่อม ความขัดแย้งก็บานปลาย ท้ายสุดต้องแยกวง " บิ๊กป้อม"ยึดพรรคพลังประชารัฐไว้ ในขณะที่  "บิ๊กตู่"ไปตั้งพรรคใหม่รวมไทยสร้างชาติ โดยมีสัญญาทางใจ ใครได้เสียงมากกว่ากันเป็นนายกฯ ส่วน "บิ๊กป๊อก"เก็บตัวเงียบรออำลาการเมือง 

ภายหลังการเลือกตั้ง เมื่อ 14 พ.ค.2566 พรรคของสองลุง พ่ายแพ้การเลือกตั้งหมดรูป ทำให้ 3 ป.ไปต่อทางเมืองไม่ได้ จำต้องยอมถอยทางการเมือง โดยทิ้งทายาทให้เข้าร่วมรัฐบาลไว้คอยระวังหลัง โดยการหันมาโหวตหนุนให้พรรคเพื่อไทยของ "ทักษิณ ชินวัตร" เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมี "เศรษฐา ทวีสิน" แคนดิเดตพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี 

เมื่อรัฐบาลเพื่อไทยมา การอำลาทางการเมืองของ 3 ป.จึงเกิดขึ้น ซึ่ง "บิ๊กตู่"ได้กำหนดทำงานวันสุดท้ายในทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 31 ส.ค.2566 โดย "บิ๊กตู่"ได้อำลาด้วยการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล 

ขณะเดียวกัน มีเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 12 และ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) อาทิ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ พล.อ.ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ 'พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ พล.อ.อ.อดิศักดิ์ กลั่นเสนาะ พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ พล.อ.โปฎก บุนนาค  พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร พล.ร.อ.ชุมนุม อาจวงษ์ ร.อ.ประยุทธเสาวคนธ์ พล.อ.อู๊ด เบื้องบน พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร  พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษานายกฯ มาร่วมอำลา บนตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่ "บิ๊กตู่" จะร่วมรับประทานอาหารกับสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลเพื่ออำลา หลังทำงานร่วมกันมากว่า 9 ปี บริเวณด้านหน้ารังนกกระจอก 

นอกจากนี้ในวันเดียวกัน "บิ๊กป้อม"ได้ประกาศ จะลาออกจาก สส.ในเร็วๆ นี้ แต่จะยังคงไม่ทิ้งเก้าอี้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

 "บิ๊กป้อม"ยังบอกว่า บ้านป่ารอยต่อฯปิดแล้ว ทำแต่มูลนิธิอย่างเดียว พร้อมอวยพรสื่อมวลชน ขอให้โชคดีทุกคน ก่อนขึ้นรถกลับออกไป

ทั้งนี้ มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด  มี พล.อ.ประวิตร เป็นประธานกรรมการ ซึ่งรู้กันทั่วไปว่าที่นี่เป็นสำนักของ พล.อ.ประวิตร ที่ใช้ปฏิบัติหน้าที่ทั้งทางทหารการเมืองและบ้านพักในระหว่างเวลาทำงาน เพราะที่ตั้งของที่ทำการมูลนิธิแห่งนี้ อยู่ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1.รอ.) เรียกว่าเป็นกองบัญชาการของของกองทัพในยุคปัจจุบัน และเหตุการณ์เบื้องหลังทางการเมืองหลายเหตุการณ์ก็เกิดขึ้น ณ ค่ายทหารแห่งนี้ ทั้งการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หรือ การประชุมพรรคพลังประชารัฐครั้งสำคัญ 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้า วันที่ 30 ส.ค.2566 "บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ ในฐานะ รมว.มหาดไทย ได้จัดเลี้ยงอำลา  ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย และสื่อมวลชน

"บิ๊กป๊อก" บอกว่า หากจะถามว่าหลังจากนี้จะไปทำอะไร อายุขนาดนี้คงต้องรักษาสุขภาพในช่วงท้ายของชีวิต ไม่ให้มีปัญหาสุขภาพมาก ต้องดูแลร่างกายพักผ่อน ออกกำลังกาย ทำในสิ่งที่ควรทำ หลายคนบอกให้ไปเลี้ยงหลาน ไอ้เราก็ยังไม่มีหลาน ลูกไม่ยอมมี เป็นเด็กรุ่นใหม่ มีครอบครัวแต่ไม่มีหลาน

"ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ทำให้ผม มีวันนี้ได้ อยู่มาถึง 9 ปีเต็มในวันนี้(30ส.ค.) หลังจากนี้ จะใช้เวลาพักผ่อน โดยตั้งใจจะไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่น ที่สำคัญทะเลอันดามันในประเทศไทย ก็จะไปให้ได้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา มีแต่ไปทำงาน ไม่เคยเห็นทะเล แม้แต่ภูทับเบิกก็อยากจะเดินทางไปเพราะสวย"บิ๊กป๊อก กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งหมดจึงถือเป็นการปิดฉากอำนาจทางเมืองของ3ป  แม้จะมี"องคาพยพ"หลงเหลืออยู่บ้าง เพื่อไว้คอยระวังหลัง แต่เชื่อว่าโอกาสที่ 3ป.จะกลับมายิ่งใหญ่ คงยาก เพราะด้วยช่วงวัยของอายุที่ทุกคนล้วนแล้วที่อยู่ในช่วงบั้นปลายของชีวิต และทายาทโดยตรงก็ไม่ปรากฏจะเข้าสู่วงจรการแย่งชิงอำนาจทางการเมือง

ฉะนั้นจึงเป็นการปิดฉากอำนาจ  3 ป. อย่างสมบูรณ์ 

สำหรับในอนาคตบิ๊กทหารจะหวนกลับมายึดครองอำนาจทางการเมืองได้อีกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับฝีมือรัฐบาล  "เศรษฐา" จะแก้ปัญหาฝ่าวิกฤตประเทศได้หรือไม่ สถานการณ์การเมืองไทยยังอ่อนไหว อะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้

 

TAGS: #นายทหาร3 #ป. #บิ๊กตู่ #บิ๊กป๊อก #บิ๊กป้อม