"นายกฯ" ยัน "ดิจิทัลวอลเล็ต" ได้ใช้แน่ กพ.67 มีเงินพอ-หาเงินได้ จ่ายผ่านบล็อคเชน วอนอย่าพูดจนประชาชนสับสน บอกไม่จำเป็นต้องมี ‘ครม.เศรษฐกิจ’เสียเวลาเตรียมเอกสาร หวั่นทำงานช้า

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่เช้า ในเวลา 08.35 น. โดยนายกฯ ทักทายสื่อมวลชน ว่ามากันแต่เช้าเลยนะ 

จากนั้น นายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์กรณีเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่มีการพูดถึงแหล่งเงินแล้วหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวว่า จะได้งบประมาณจากการกู้ยืมจากรัฐวิสาหกิจ หรือไม่ โดยนายเศรษฐา ระบุว่า เรื่องนี้ต้องพูดคุยกัน เพราะอยู่ในช่วงการทำงบประมาณ ว่าจะเอาเงินมาจากไหน เมื่อวาน(6 ก.ย.) ได้หารือร่วมกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เคลียร์กันไปหลายเรื่อง พร้อมให้คำแนะนำหากออกนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ระยะกลางกับระยะยาวจะเป็นอย่างไร อาทิ ตัวเลขหนี้สาธารณะจะขึ้นจะลงอย่างไร ซึ่งตนไม่อยากให้พูดคุยกันไปหลายอย่าง จะขอทำการบ้านให้ดีก่อน วันนี้ยังเข้าบริหารงานเต็มตัวไม่ได้ ต้องแถลงนโยบายก่อน ถึงจะสั่งการได้ ระหว่างนี้จะขอเก็บข้อมูลไปก่อนจะดีกว่า 

“อย่าไปพูดให้เกิดความสับสน แต่ยืนยันว่ามีเงินแน่นอน และจะมาจากหลายภาคส่วน อย่าพูดสับสน ขอความกรุณายังเข้าบริหารงานไม่ได้เลย ต้องรอให้แถลงนโยบายให้เสร็จก่อน ไม่อยากตอบไป แล้วเอาไปเขียนกันผิดๆ ผมอยากขอความกรุณา เพราะมีหลายส่วนที่สามารถทำได้ แต่ยืนยัน ใช้ระบบบล็อกเชนแน่นอน และใช้ทันในไตรมาสแรกของปีหน้า ”

สำหรับคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) จะมีเรื่องใดบ้างนั้น นายกฯ เปิดเผยว่า มีหลายเรื่อง ส่วนคำถามที่ค้างไว้ตั้งแต่ก่อนถวายสัตย์ ว่าจะมี ครม.เศรษฐกิจ และ ครม.สัญจรหรือไม่นั้น ได้พูดคุยกันแล้วว่า ครม.นอกสถานที่ มีแน่นอน ส่วนเมื่อไหร่จะขอแจ้งอีกที ส่วน ครม.เศรษฐกิจ คิดว่า รัฐบาลสมัยนี้ ไม่จำเป็นต้องมานั่งล้อมวง เสียเวลา เตรียมเอกสารค่อนข้างเยอะ เราใช้วิธีทำงานอย่างรวดเร็ว และจับกลุ่มพูดคุย และแยกตัวกันทำงานดีกว่า ไม่จำเป็นต้องเตรียมเอกสารเยอะแยะ ปัจจุบันมีวิธีการสื่อสารหลายวิธี ทั้งนี้ตนจึงคิดว่า ครม.เศรษฐกิจ คงไม่จำเป็น และมั่นใจว่า ทุกเรื่องจะเดินหน้าได้เร็วกว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้ 

ถามว่า ครม.นัดแรก ในวันที่ 13 กย.แล้ว นอกจากเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ และ ราคาพลังงาน มีเรื่องใด จะเป็นเรื่องเร่งด่วนในวาระแรกบ้าง นายกฯ ขอให้อดใจกันนิดนึง มีหลายเรื่องเตรียมไว้แล้ว มีลิสต์ยาวมาก ซึ่งมีการประกาศใน ครม.นัดแรกว่าจะทำอะไร ต้องไปดูด้วยว่าวันที่จะใช้ได้จริงนั้น จะเริ่มได้เมื่อไหร่ ถ้าพูดไปแล้ว อาจจะมีความสับสน ตอนนี้อยู่ในช่วงเฟ้นหาโฆษกรัฐบาล ซึ่งเข้าใจว่าได้แล้ว และจะได้มีการพูดคุยกันทันที จะได้ไม่มีความสับสนและพูดกันไปกันมา ไม่ให้สื่อมวลชนและประชาชนสับสน วันนี้ยังเป็นครั้งแรกก่อน นอกจากโฆษกรัฐบาลแล้ว ถามว่า จะมีการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ในวาระ ครม.นัดแรกเลยหรือไม่ นายเศรษฐา เผยว่า ก็มีบางส่วน ได้เตรียมไว้แล้ว ก็ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนเช่นกัน มีหลายเรื่องจริงๆ 

นายกฯ กล่าวว่า “วันนี้นายกฯคิวแน่น ผมมีแดชบอร์ดไว้ว่า เรื่องที่นายกฯต้องทำนั้นมีอะไรบ้าง ต้องมาไล่ดูกันก่อนเวลาทำงาน ย้ำอีกครั้ง ครม.นัดแรกมีหลายเรื่องจริงๆ ไม่ได้มีแค่เรื่องเดียว แต่เมื่อแถลงไปแล้ว ก็จะต้องบอกวันที่ ที่ทำให้เกิดขึ้นจริงได้ด้วย” ส่วนตารางในการทำงาน 100 วันแรกของ ครม.เศรษฐา 1 จะทำอะไรนั้น จะนำเรื่องนี้พิจารณา แต่ยืนยันว่าเห็นผลงานแน่นอน พร้อมกันนี้ ในวันประชุม ครม.นัดแรก จะมีการแบ่งงานให้รองนายกฯทุกคนด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งเรื่องที่จะพูดคุยกันในวันนี้

ส่วนเรื่องการแถลงนโยบาย ที่ทางพรรคก้าวไกล ออกมาเชิญชวนประชาชนให้จับตาเรื่องการแถลงนโยบาย ของนายกฯ และเอกสารที่หลุดออกมา ถูกมองว่าหลายนโยบายที่พรรคเพื่อไทยหาเสียง กลับไม่ได้อยู่ในคำแถลงนโยบาย นายเศรษฐา ชี้แจงว่า ขอให้ดูฟังคำแถลง ต้องเข้าใจว่าหน้าที่ของฝ่ายค้าน ก็ต้องมีหน้าที่ในการตรวจสอบกันไป ฝ่ายบริหารมีหน้าที่อธิบาย ให้เข้าใจถึงสิ่งที่ถูกต่างๆ เท่าที่ทำได้ 

ถามว่า ไม่กังวลใช่หรือไม่ ที่จะถูกซักและถูกจี้ ในวันแถลงนโยบาย นายเศรษฐา มองว่า เรื่องนี้เราอาสาเข้ามาทำงานการเมืองก็ต้องพร้อมที่จะถูกตรวจสอบเป็นธรรมดา “ก็ดีครับที่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นด้วย” 

นายเศรษฐา เผยว่า วันนี้เจอเลขา BOI เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ดูเรื่องการลงทุนจากต่างประเทศว่าติดขัดอะไรหรือเปล่า เพราะการลงทุนจากต่างประเทศเป็นเรื่องสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ วันนี้ ตารางแน่นเต็มเอี๊ยด ขอให้มั่นใจได้ว่า เราทำงานเต็มที่ครับ 

ส่วนนายกฯ จะเป็นประธาน ก.ตร. และ ก.ตช. เองเพื่อเลือก ผบ.ตร. คนใหม่นั้น นายกฯจะมาดูเรื่องความมั่นคงเองใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องมาพูดคุยกันในการประชุม ครม.ในครั้งต่อไป ซึ่งตนจะกำกับดูแล 

ส่วนบรรยากาศที่หน้าพรรคเพื่อไทย มีทหารผ่านศึกเดินทางมา เพื่อแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา พร้อมกันนี้ตามกำหนดการมีหลายหน่วยงานที่จะเดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรีตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 09.30 น. ถึงเวลา 13.00 น.