ก้าวไกล ขนทัพใหญ่ปราศรัยเลือกตั้งซ่อมระยองโค้งสุดท้าย "พิธา" ประกาศเข้าทำเนียบฯ เป็นนายกฯ คนที่ 31 "วิโรจน์" ฉะเดือดเป็นศึกระหว่างประชาชนกับไดโนเสาร์ศักดินานิยม "ชัยธวัช"ย้ำเลือกตั้งที่มีความหมายมาก
ก่อนการเลือกตั้งซ่อมระยองเขต 3 จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ย.โดยพรรคก้าวไกลได้ส่ง พงศธร ศรเพชรนรินทร์ (เบอร์ 1) วันนี้ พรรคก้าวไกล นำโดย นาพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค พร้อม สส.ร่วมปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้าย
ขณะที่วานนี้ มีการปราศรัยที่ตลาดนัดคลองถม อ.แกลง จ.ระยอง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า การเมืองวันนี้ได้เดินทางมาถึงจุดที่เกิดการผสมพันธุ์ข้ามขั้ว โดยพรรคการเมืองกลุ่มหนึ่งที่เคยถูกเรียกว่าฝ่ายประชาธิปไตย เวลานี้กลับมองการเลือกตั้งเป็นแค่พิธี มองว่าสัญญาใดๆ ที่ให้ไว้กับประชาชนเป็นเพียงเทคนิคในการหาเสียง และถดถอยในความทะเยอทะยานและกล้าหาญที่จะรับปากประชาชน ตกต่ำเหลือแค่ความขี้ขลาดหวาดกลัว
นายวิโรจน์ กล่าวว่า การเลือกตั้งที่แกลงและเขาชะเมา จึงไม่ใช่แค่การเลือกตั้งในพื้นที่ เมื่อเส้นแบ่งใหม่เกิดขึ้นระหว่างการเมืองแบบเก่ากับการเมืองแบบใหม่ การเลือกตั้งที่นี่จึงกลายเป็นการเลือกตั้งระหว่างพรรคก้าวไกล สู้กับฝ่ายที่มองว่าประชาชนเป็นแค่เครื่องมือกากบาท หากก้าวไกลชนะ มันคือชัยชนะของประชาชนทั้งประเทศ ต่อไดโนเสาร์ที่อยากรักษาการเมืองแบบเก่าเอาไว้ ดังนั้น ในวันที่ 10 ก.ย. นี้ จะเป็นศึกสำคัญระหว่างฝ่ายประชาชนกับศักดินาอนุรักษนิยม ตนจึงขอให้ชาวแกลงและเขาชะเมาทุกคน ช่วยเป็นแรงกายแรงใจ เป็นผู้กากบาทแทนให้กับประชาชนทั้งประเทศ
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค กล่าวว่าวันนี้พรรคก้าวไกลกำลังจะเข้าสู่บทบาทฝ่ายค้านเชิงรุก ที่จะไม่ใช่แค่เป็นฝ่ายค้านอย่างเดียว เราจะใช้สถานะความเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนสนับสนุน สถานะความเป็นผู้แทนราษฎร จับมือกับประชาชนไปผลักดันการแก้ปัญหาและนโยบายต่างๆ ไปด้วย ตอนนี้รัฐบาลยังไม่เริ่มทำงาน แต่เราเริ่มทำงานแล้วด้วยการผลักดันกฎหมายกว่า 40 ฉบับ ตามที่สัญญาไว้กับประชาชน ยื่นไปแล้ว 24 ฉบับ ที่เหลือจะทยอยยื่นทุกเดือน มาตรการใดของรัฐบาลที่ดีเราจะสนับสนุน อะไรที่ยังดีไม่พอก็ต้องวิพากษ์วิจารณ์ผลักดันให้ดีกว่านี้ พรรคก้าวไกลก็จะเดินหน้าตรวจสอบกดดัน และผลักดันต่อในนโยบายด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสวัสดิการ ที่ดินป่าไม้ สิ่งแวดล้อม
นายชัยธวัชกล่าวว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ยังมีความสำคัญต่อการเมืองระดับชาติด้วย นี่จะเป็นหมุดหมายใหม่ของการเมืองไทย จะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่ของการเมืองไทย ตนอยากย้ำว่าการเลือกตั้งซ่อมที่นี่มีความหมายมาก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันเลือกตั้งจนจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ สะท้อนว่ามีผู้มีอำนาจ ชนชั้นนำทางเศรษฐกิจ เป็นนายทุนใหญ่ มีอำนาจทางการเมือง ที่ปกครองควบคุมประเทศมาอย่างยาวนาน รวมหัวจับมือกันเพื่อขัดขวางการเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องการให้ก้าวไกลมาเป็นฝ่ายบริหาร เมื่อมีการเมืองแบบก้าวไกลก็เลิกทะเลาะขัดแย้งกัน มาร่วมมือกันเพื่อไม่ให้การเปลี่ยนแปลงในแบบที่ประชาชนต้องการเกิดขึ้น การเลือกตั้ง 10 ก.ย. จะเป็นเส้นแบ่งว่าประชาชนต้องการการเมืองแบบเดิมที่แก้ไขปัญหาของประชาขนไม่ได้ นำพาประเทศให้มีอนาคตกว่านี้ไม่ได้ หรือการเมืองแบบใหม่
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค กล่าวว่าเหลือเวลาอีกไม่ถึง 48 ชั่วโมงแล้ว ที่เราจะได้ร่วมกันกำหนดอนาคตของชาวแกลงและเขาชะเมา ส่งสัญญาณไปถึงทำเนียบฯ ว่าประชาชนเลือกตั้งแบบไหนก็ต้องได้แบบนั้น เพื่อยืนยันว่าในระบบประชาธิปไตย ประชาชนไม่ใช่แค่ตัวประกอบหรือตัวประกัน แต่คือประธานที่จะบ่งบอกว่าประเทศจะเดินหน้าไปทางไหน และเราเชื่อว่าพวกเราจะทำมันได้ เพราะระยองคือก้าวไกล และก้าวไกลคือระยอง
เหตุผลแรก เพราะเราคือที่หนึ่งไม่เป็นรองใคร ในจังหวัดแห่งนี้มีรายได้เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ แต่ประชาชนก็ยังคงเหลื่อมล้ำอยู่ วันหนึ่งที่เราได้เข้าทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ตนเป็นนายกฯ คนที่ 31 เราจะเข้าไปแก้ปัญหานี้ด้วยกัน เหตุผลที่สอง ทั้งระยองและก้าวไกลต่างโอบรับในความหลากหลาย เต็มไปด้วยทรัพยากร เต็มไปด้วยโอกาส พรรคก้าวไกลก็ไม่ต่างกัน เรามีคนที่หลากหลาย อย่างเช่น สส. ที่มาร่วมกับเราในเวทีนี้ที่นี่กว่า 30 คน มีตั้งแต่เชียงใหม่ไปจนถึงภูเก็ต เราหลากหลายแต่เรามีความตั้งใจเดียวกัน เราแยกกันทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน ไม่มีคำว่าเหนื่อย ไม่มีคำว่าสิ้นหวัง ประชาชนเลือกเรามาทำงาน ไม่ใช่เพื่อมาผิดหวัง
.
และเหตุผลที่สาม พรรคก้าวไกลและระยองต่างก็คือความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เชื่อถือได้ คนระยองซื้อไม่ได้ พรรคก้าวไกลไม่ยอมให้ใครมาปลูกกล้วย 50 - 60 หวี เหมือนกับชาวระยองที่ไม่มีใครเอาเงินมาฟาดหัวได้ง่ายๆ คุณมีหัวคะแนนจ่ายเงิน แต่เรามีหัวคะแนนธรรมชาติ และจะเป็น กกต.ธรรมชาติในวันอาทิตย์นี้ด้วย
.
“เราคือครอบครัวเดียวกัน เรามีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แยกออกจากกันไม่ได้ วันที่ 10 ก.ย. นี้ตื่นแต่เช้าไปกาก้าวไกล คนอื่นอาจมองว่าเป็นชัยชนะเพียงเล็กน้อย แต่สำหรับเรานั่นคือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ เพื่อให้สังคมเราดีขึ้นกว่านี้ ให้ระยองดีกว่าเดิม และผมสัญญาว่าเราจะมาเปลี่ยนระยอง เปลี่ยนภาคตะวันออก เปลี่ยนประเทศไทย และเปลี่ยนโลกใบนี้ไปด้วยกัน” นายพิธากล่าว