นายกฯ ยัน แบ่งงานรองนายกฯ "ภูมิธรรม" คุมเกษตรฯ เหมาะสม ยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ขออย่ามองกลุ่มไหน ฝั่งไหน แจงรวบอำนาจดูแลทั้งความมั่นคง-การคลังเอง เพราะเป็นเรื่องสำคัญ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เผย กรณีที่รัฐบาลเตรียมดำเนินการยกเลิกคำสั่ง คสช. ที่เป็นอุปสรรคในการบริหารนั้น ต้องปรึกษาสำนักงานคณะกฤษฎีกาว่ามีคำสั่งไหนที่เป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิต ต้องยกเลิกไป ถ้ายกเลิกไม่ได้ก็ต้องนำเข้าที่ประชุม ครม. แต่ต้องไม่ขัดกับหลักนิติธรรมในการบริหารประเทศ
เมื่อถามว่า จะมีรองนายกรัฐมนตรี มาดูเฉพาะกฎหมายหรือไม่ นายเศรษฐา ยอมรับว่า กลับไปปรับปรุงแล้วจะแจ้งมาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะยังไม่ครบทั้งหมด ประชาชนอยากทราบเรื่องที่รัฐบาลทำอยู่ อะไรที่ยังไม่ครบ 100% ก็อาจยังไม่แถลง จะมีรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมายมาแจ้งอีกครั้ง
สำหรับการแบ่งงานของกระทรวงกลาโหม นายเศรษฐา ชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดูแลด้านความมั่นคงเอง อธิปไตยของประเทศก็เป็นเรื่องสำคัญ เช่นเดียวกับปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และปัญหาด้านการค้า เราเป็นประเทศที่ไม่ใหญ่มากแต่มีความภาคภูมิใจในเอกราช เราอยู่บนโลกที่มีความขัดแย้งสูง ดังนั้นการเดินทางไปต่างประเทศ มีการพบปะพูดคุยกับผู้นำระดับประเทศ ในการประชุมสหประชาชาติ เป็นมิติของความมั่นคง ภายนอก
"ในอดีตมีการพูดจาที่รุนแรง ต้องพยายามลดช่องว่างระหว่างสถาบันทหารกับประชาชนให้มีการสื่อสารที่ดีขึ้น และต้องมีกิจกรรมที่ทำประโยชน์ให้ประชาชน การสมัครใจเกณฑ์ทหารบางส่วน นำพื้นที่ของทหารมาแบ่งสรรให้ประชาชนทำกิน และการนำกำลังทหารมาช่วยแก้ปัญหาภัยพิบัติ"
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ดูแลทั้งด้านการคลังและด้านความมั่นคงเอง ไม่เกี่ยวกับการสร้างภาพลักษณ์ แต่เป็นเรื่องที่ต้องทำ และสมควรจะทำ โดยต้องดูแลให้ครบทุกมิติ ถือเป็นภารกิจที่หนักหน่วง แต่ต้องเข้าใจว่าเป็นเรื่องสำคัญ จึงต้องทำต่อไป
สำหรับการตั้งคณะกรรมการ Soft Power ที่ปรากฏชื่อของบุคคลสำคัญหลายฝ่ายมานั่งเป็นคณะกรรมการ รวมถึง นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า พยายามนำบุคคลจากทุกภาคส่วน ที่ทางรัฐบาลเชิญเข้ามาเพื่อผลักดันให้ Soft Power ผลักดันให้ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น
นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงสาเหตุที่แต่งตั้ง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ให้ดูแลด้านการเกษตรควบคู่ด้วย แทนที่จะเป็น พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับพรรคพลังประชารัฐซึ่งกำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่ ขณะที่รองนายกฯ จากพรรคการเมืองอื่น ก็ได้ดูแล ด้านที่สอดคล้องกับกระทรวงในโควต้าของพรรคการเมืองนั้น
นายเศรษฐา กล่าวทันทีว่า อย่าดูเรื่องโควตาของพรรคการเมือง เพราะได้พูดตั้งแต่วันแรกว่า แม้รัฐบาลนี้จะมี 11 พรรคการเมือง แต่ก็เป็นรัฐบาลของประชาชน
"อย่าดูว่าเป็นซีกไหน คุ้มไหน ฝ่ายไหน ใครดูแลใคร คิดว่าเป็นการดูแลที่ถูกฝาถูกคน เพราะ นายภูมิธรรม เอง ก็ดูแลด้านพาณิชย์ และการเกษตรควบคู่กัน เป็นการเอาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าไม่มีเรื่องความขัดแย้ง"
ส่วนจะมีเกณฑ์ชี้วัด หรือ KPI วัดผลในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นอย่างไรนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกันในรายละเอียด เพราะหากพูดไปแล้วจะมีคำถามเยอะกว่าคำตอบ ขอไปพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงก่อน และหากมีแผนงานระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว จะรายงานให้ทราบอีกที แต่ขอให้สบายใจ เรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง