นายกฯ พร้อมคณะบินตรวจราชการเชียงราย - เชียงใหม่ ลั่น 2 เดือนรู้แน่ ที่มาเงินดิจิทัล 10,000 บาท พร้อมทยอยตั้งที่ปรึกษาเพิ่ม ยังไม่รู้ ป.ป.ช.เตรียมส่งเรื่อง "เพิ่มพูน" เอี่ยวคดีบอส ให้จัดการ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โดยนายกฯ มีกำหนดการเดินทางไปตรวจราชการที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 15-17 ก.ย. 66
นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ระบุว่า ภายในสองสัปดาห์จะชัดเจนเรื่องที่มาของงบประมาณในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทว่า “ใช่ครับ อีก 2 สัปดาห์จะมีความชัดเจน ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง”
เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาในคดีกลับคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ในกรณีของพล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีตผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำรวจแห่ง (ผบ.ตร.) ปัจจุบันเป็น รมว.ศึกษาธิการการนั้น ป.ป.ช. มีมติส่งเรื่อง ให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งหรือถอดถอนดำเนินการทางวินัยตามอำนาจหน้าที่เนื่องจากเห็นว่ามิใช่ เป็นความผิดร้ายแรง นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว หากมีเรื่องส่งมาต้องขอดูเรื่องทั้งหมดก่อน จึงยังไม่ได้ทำความเข้าใจว่ามีการตัดสินอย่างไร มีคำเสนอแนะอย่างไร มีวิธีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร คงต้องขอดูเรื่องเสียก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะมีผลกระทบหรือไม่ หากเรื่องดังกล่าวส่งมาให้นายกฯ พิจารณาโทษทางวินัยรัฐมนตรี นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่างที่บอกแล้วว่าตนไม่ทราบเรื่อง ยังไม่ได้เห็นตัวเอกสาร ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐมนตรีด้วย นิดหนึ่ง ใจเย็น
เมื่อถามถึงกรณีที่นายกฯ ได้กล่าวกับนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 65 วานนี้ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องคอนเน็กชัน นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องคอนเนกชันหรือเรื่องการใช้สิทธิ์ใด ซึ่งตนเห็นว่า วปอ. เป็นสถาบันที่มีเกียรติ เป็นแหล่งฟูมฟักกำลังสำคัญของประเทศชาติ ก็อยากจะให้ดูให้ดีด้วยว่า จริงๆ แล้วไม่ใช่เป็นแค่คอนเน็คชั่นอย่างเดียว ที่มาใช้ระหว่างพวกกันเอง อยากให้มาดูแลพี่น้องประชาชนด้วย โดยใช้คอนเน็คชั่เหล่านั้นให้เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีก การใช้ทรัพยากรของรัฐก็อยากให้ใช้ให้มันถูกต้อง ไม่ใช่แค่มีสิทธิ์อย่างเดียวต้องดูที่หน้าที่และความเหมาะสม เพราะมีคนที่เฝ้าดูกันอยู่หลายคนหลายภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนที่เขาอยากมีตัวอย่างผู้นำที่ดีก็ขอฝากด้วย ไม่ได้มีอะไรหรอก คงเป็นอะไรที่อาจจะแตกต่างจากคำกล่าวของคนอื่นเท่านั้นเอง แต่ก็เป็นความตั้งใจของตน และเป็น ความหวังดีของตนต่อสถาบัน
เมื่อถามว่าแต่การพูดดังกล่าวนายกฯใช้คำว่าอภิสิทธิ์ชน นายเศรษฐา กล่าวเพียงว่า “ครับ”
เมื่อถามถึงกรณีที่นายกฯลงนามแต่งตั้งที่ปรึกษานายกฯ 9 คน นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการแบ่งส่วนงานแต่อย่างใด ได้พยายามตั้งให้มีครอบคลุมทุกภาคส่วน และจะพิจารณาแต่งตั้งเพิ่มอีก อย่างที่ตนเคยบอกแล้วว่าอะไรทำได้ตนทำก่อน เช่น นายพิมล ศรีวิกรม์ ก็จะให้มาช่วยดูแลเรื่องกีฬา ก็จะให้ไปดูแลกองทุนที่สนับสนุนกีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ 1 ประเภทกีฬา รัฐบาลนี้ยืนยันว่าก็จะทำก่อน เดี๋ยวจะมีรายชื่อเข้ามาเสริมอีก