โฆษกรัฐบาล แจงยิบ รายละเอียดงานนายกฯ ร่วมประชุม UNGA78 ตลอด 3 วัน ภารกิจแน่นเอี้ยด ยืนยัน คุ้มค่าค่าเครื่องบินแน่ ติง พวกคอยจับผิด ย้ำ ลูกสาวนายกฯ ร่วมคณะ ออกค่าใช้จ่ายเอง
นายชัย วัชวรงค์ โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงภารกิจเดินทางต่างประเทศครั้งแรกของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงการคลัง ที่เกิดข่าวลือและการวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่เป็นความจริง ว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ความตั้งใจของนายกรัฐมนตรี ในการเดินทางมาปฏิบัติภารกิจครั้งแรกที่ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ครั้งนี้ ถูกด้อยค่า และจับผิด จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดตลอดเวลา
ภารกิจนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้มี 3 ด้านหลัก คือ 1.การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 UNGA78 ซึ่งมีประเด็นหลักเรื่องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ที่นายกรัฐมนตรียังเป็นเจ้าภาพการประชุมในกรอบของอาเซียน โดยนายกรัฐมนตรี ยังได้แสดงวิสัยทัศน์ในเรื่องดังกล่าว และยังจะกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก ขณะที่ช่วงเย็นของวันที่ 19 ก.ย.นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรอง ซึ่งประธานาธิบดีโจไบเดน ของสหรัฐฯ จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เข้าร่วมประชุม
นายชัย กล่าวว่า นอกจากนี้การเดินทางครั้งนี้ยังมีกำหนดหารือทวิภาคีกับผู้นำโลก เช่น ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และเลขาธิการสหประชาชาติ UNSG รวมถึงประธาน FIFA ซึ่งนายกรัฐมนตรี มีเป้าหมายที่จะแสวงหาโอกาสพัฒนาทีมฟุตบอลไทยในเวทีโลก รวมถึงการจัดการแข่งขันระดับโลกในประเทศไทย
“สิ่งที่สำคัญที่สุด นายกรัฐมนตรี เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ และดึงการลงทุนจากต่างชาติให้ไหลเข้าประเทศไทย เนื่องจากในช่วง 8-9 ปีที่ผ่านมา การลงทุนขนาดใหญ่แทบไม่เคยเกิดขึ้น ในครั้งนี้นายกรัฐมนตรีมีกำหนดพบผู้บริหารขนาดใหญ่ 8-9 บริษัท อาทิ Black Rock ซึ่งเป็นบริษัทจัดการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีเงินทุน 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 250 ล้านล้านบาท แค่เพียงบริษัทเดียวจะเห็นว่ามีเงินลงทุนมากขนาดไหน” นายชัย กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว ว่า นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังจะได้พบกับผู้บริหาร SpaceX ,Tesla , Google,GoldMan Sachs ,CitiBank,J.P.Morgan และ estee Lauder ,Microsoft, บริษัทเหล่านี้เมื่อรวมกันแล้วมีเม็ดเงินลงทุนนับพันล้านบาท ซึ่งถือว่า เป็นเป้าหมายสำคัญในเรื่องเศรษฐกิจการเงินการลงทุน นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังจะพบหารือกับทีมประเทศไทย ทีมีทูตพาณิชย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือสร้างโอกาสการค้าการลงทุนในประเทศไทย เพื่อให้ทิศทางว่าประเทศไทยจะเดินไปข้างหน้าทางเศรษฐกิจอย่างไร และยังจะมีโอกาสพบปะกับชุมชนชาวไทยในสหรัฐฯ เพื่อรับฟังว่าคนไทยในสหรัฐฯ มีปัญหาอย่างไร และต้องการให้รัฐบาลไทยช่วยเหลือในประเทศไทยทำอะไรบ้าง กิจกรรมทั้งหมดอัดแน่นเพียงเวลา 3 วันกว่าจนถึง 22.00 น.วันที่ 22 ก.ย.และกลับถึงไทยในวันที่ 24 ก.ย.
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงอีกครั้งว่า ระยะเวลาในการเดินทางจากกรุงเทพฯมายังนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ใช้เวลาเดินทางร่วม 20 ชั่วโมง เวลาไทยก็เร็วกว่าเวลาในนิวยอร์ก 11 ชั่วโมง ดังนั้นเมื่อออกเดินทางจากนิวยอร์ก เวลา 22.00 น.วันที่ 22 ก.ย.66 ซึ่งในประเทศไทยเป็น 09.00 น.ของวันที่ 23 ก.ย.66 และการเดินทางกลับใช้เวลาประมาณ 20 ชม.ดังนั้น นายกรัฐมนตรี จะเดินทางถึงไทย เวลา 08.40 น.ของวันที่ 28 ก.ย. จึงไม่เข้าใจว่าทำไมจึงมีบางคนเอาเวลาไปตามจับผิด ซึ่งเป็นความเท็จทั้งหมด
นายชัย กล่าวถึงการใช้เครื่องเช่าเหมาลำ ว่า รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร ซึ่งรับผิดชอบการบริหารจัดการเที่ยวบิน ได้ชี้แจงไปแล้ว และการที่ไม่นำข้าราชการการเมืองมาด้วยนั้น เนื่องจากนายกรัฐมนตรี เป็นผู้มีความคิดก้าวหน้า มองว่าบุคคลใดมีความสามารถทางเศรษฐกิจ หากเดินทางมาร่วมคณะ จะสามารถช่วยงานได้และเป็นประโยชน์กับประเทศ ให้บรรลุเป้าหมายในการทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดี ซึ่งบางคนเป็นคณะทำงานของนายกรัฐมนตรีมาแต่ต้น บางคนก็เพิ่งเข้ามา
“สำหรับกรณีบุตรสาวของนายกรัฐมนตรี นั้น เดินทางมาด้วยการออกค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งวิธีการคำนวณนั้นมีอยู่แล้ว หารเป็นค่าใช้จ่ายต่อหัว คิดเป็นเท่าไหร่ ก็จ่ายเป็นราคาเต็ม และรัฐบาลไทย ก็จ่ายน้อยลง จึงขอยืนยันว่าการเดินทางมาสหรัฐฯ เพื่อร่วมประชุมของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ โปรแกรมแน่นเอี้ยด และประเทศไทยได้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่าอย่างแน่นอน”โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว