"นายกฯเศรษฐา" ให้คำมั่นลดความเหลื่อมล้ำจากรุ่นสู่รุ่น ภายในปี 2573 จัดให้คนไทยทุกคนมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลให้เหลือต่ำกว่า 0.25%
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า คำแถลงแรก ณ ที่ประชุม #UNGA78 SDG Summit 2023 เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นของไทยในการบรรลุ "เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน" #SDGs และการมุ่งสู่เป้าหมาย ดังนี้
1. ภายในทศวรรษนี้ เราตั้งใจสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เข้มแข็ง รัฐบาลของผมจะมีบทบาทเชิงรุกที่สร้างสรรค์บนเวทีโลก ผ่านความร่วมมือกับนานาประเทศเพื่อเสริมสร้างระบบพหุภาคีที่สามารถก้าวข้ามความท้าทายที่จะบรรลุถึงเป้าหมาย
2. ประชาคมระหว่างประเทศต้องสรรหาแหล่งเงินทุน จัดการกับช่องว่างด้านเงินทุนสำหรับ SDG เพิ่มการลงทุนเพื่อบรรลุ SDG และแสวงหาแหล่งเงินทุนใหม่ ๆ รวมถึงพันธบัตรสีเขียวและผ่านเศรษฐกิจดิจิทัล
3. สร้างความเสมอภาคในระบบการเงินระหว่างประเทศ ดังนั้น ไทยจึงสนับสนุนข้อเรียกร้องของเลขาธิการ UN ให้มีการปฏิรูปและอัดฉีดเงินทุนกระตุ้น SDG 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีจนถึงปี 2573
4. ในระดับชาติ ไทยได้ออกพันธบัตรสีเขียว (Green Bond) 2 ชุด ซึ่งช่วยระดมเงินทุนได้ถึง 12,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อการลงทุนลดก๊าซเรือนกระจกและเพื่อสังคม รวมทั้งได้จัดทำมาตรฐานสำหรับการประเมินการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
5. บริษัทในไทยกว่า 100 บริษัทที่อยู่ใน Global Compact Network Thailand ได้ให้คำมั่นว่าจะลงทุนมูลค่า 43,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในโครงการที่เกี่ยวข้องกับ SDG ภายในปี 2573
6. ในปีหน้า เราตั้งเป้าจะออกพันธบัตรส่งเสริมความยั่งยืนเพื่อกระตุ้นการเติบโตของตลาดพันธบัตรสีเขียว โดยเพิ่มแรงจูงใจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อบรรลุ SDG
ไม่เพียงเท่านั้น รัฐบาลของผมให้คำมั่นที่จะลดความเหลื่อมล้ำจากรุ่นสู่รุ่น ภายในปี 2573 รวมทั้งจัดให้คนไทยทุกคนมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลให้เหลือต่ำกว่า 0.25% ในด้านสิ่งแวดล้อม เรามีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือ 40% ภายในปี 2583 เพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2583 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือ 0 ภายในปี 2608