"ก้าวไกล" เลือกแล้วขอยึดเก้าอี้ผู้นำฝ่ายค้าน คุย "ปดิพัทธ์" พรุ่งนี้หาข้อยุติ
นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า พรรคก้าวไกลมีมติที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเอาไว้ ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุม สส. และ กรรมการบริหารพรรคจะได้พูดคุยกับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ว่า เมื่อนโยบายของพรรคเป็นเช่นนี้ จะตัดสินใจอย่างไร ส่วนจะถึงขั้นขับนายปดิพัทธ์ ออกจากพรรคหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคจะตัดสินใจ
นายกรุณพล ย้ำว่า ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรสามารถผลักดัน ประเด็นที่แหลมคม และสามารถทำการตรวจสอบรัฐบาลได้ชัดเจน เปิดเผย รวมทั้งก็ไม่ได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการหลายคณะ ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านฯ จึงจำเป็น เพื่อการตรวจสอบให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับกรณีที่นายปดิพัทธ์ ระบุว่าอยากอยู่ตำแหน่งรองประธานสภาฯ เพื่อผลักดันงานหลายเรื่องนั้น รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนก็ได้ยินมาเช่นกันว่า นายปดิพัทธ์อยากทำให้สภาฯ โปร่งใส ทันสมัยเทียบเท่าโลกที่พัฒนาแล้ว โดยทำให้สภาฯ เป็นที่รวมของทุกคน ดังนั้นทั้งหมดขึ้นอยู่กับการพูดคุยของกรรมการบริหารในวันพรุ่งว่าสุดท้ายแล้วเมื่อมติที่ประชุม สส.ออกมาแบบนี้ ก็ต้องดูว่าแนวทางในการทำงานของนายประดิพัทธ์จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับพรรคได้หรือไม่ หากไม่ได้ ก็คงต้องมีการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งจากกรรมการบริหารพรรค ซึ่ง สส.ของพรรคก็ไม่มีสิทธิ์ก้าวล่วง
นายกรุณพล กล่าวว่า ส่วนตัวก็อยากเห็นนายปดิพัทธ์ มีบทบาทในตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะนายปดิพัทธ์อยากให้สภาฯ นี้ เป็นสภาฯ ที่ขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งที่ผ่านมาหลายสิบปี จะเห็นว่าประชาชนไม่ค่อยมั่นใจในตัวนักการเมือง เนื่องจากมีการทุจริตคอรัปชั่นและสภาฯ แห่งนี้ มีงบประมาณหลายพันล้านบาทต่อปี ในการบริหารจัดการ รวมถึงบุคลากรกว่า 3,000คน
จึงจำเป็นต้องทำให้เกิดความกระชับรวดเร็ว ให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชน สื่อมวลชนและข้าราชการทุกคน และคิดว่านายปดิพัทธ์เหมาะสมที่จะดูแลสภาแห่งนี้ต่อ แต่ยอมรับว่า ความจริงก็รู้สึกเสียดายหากต้องออกจากพรรคไป และความจริงแล้วหากขับออกก็ยอมรับได้แต่ให้อยู่ก็ยินดี
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ที่ นายปดิพัทธ์ รับตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่เคยเข้าร่วมประชุมใดๆ กับพรรคก้าวไกลอีกเลย สส.ได้เจอเฉพาะตอนรับประทานอาหารกลางวันที่สภาฯ เท่านั้น ซึ่งเสมือนเป็นคนนอกพรรคมาตั้งแต่รับ ตำแหน่งรองประธานสภา
ส่วนกังวลข้อครหาว่าพรรคก้าวไกลจะใช้เทคนิค เพื่อรักษาทั้ง 2 ตำแหน่งเอาไว้ นายกรุณพล กล่าวว่า ความจริงก็ไม่ค่อยกังวล เพราะเรามีคำตอบในทุกคำถามอยู่แล้ว และเชื่อว่ากรรมการบริหารของพรรค และ สส.ของในภายหน้าจะมีคำตอบ ที่ชัดเจนตรงไปตรงมาให้กับพี่น้องประชาชน
หากนายปดิพัทธ์ต้องลาออกแล้วตำแหน่งนี้ตกไปเป็นของพรรคการเมืองอื่นจะคุ้มหรือไม่กับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านฯ นายกรุณพล กล่าวว่า หากเป็นไปตามรัฐธรรมนูญจะบอกว่าคุ้มหรือไม่คุ้มไม่ได้ เพราะเป็นไปตามข้อกฎหมายที่กำหนด และเราจำเป็นที่จะต้องเลือกซึ่งในเมื่อพรรคก้าวไกลมีส.ส 151 คน การที่เราจะปล่อยให้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไปอยู่ในมือของพรรค สส.ที่มีหลักสิบ ก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนักและผิดกับความรู้สึกของพี่น้องประชาชนที่อยากจะให้พรรคก้าวไกล ซึ่งพลาดจากการเป็นรัฐบาลแล้วก็ควรจะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน