“นายกฯ” มอนิเตอร์สถานการณ์น้ำกรมชลฯ ยอมรับห่วง จ. สุโขทัยที่สุดเช้านี้ น้ำทะลัก ขอเจ้าหน้าที่อย่าแก้ปัญหาระยะสั้น
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ติดตามสถานการณ์น้ำ โดยมีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายพีรพันธ์ คอทอง รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ว่าที่ร.ต.ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ให้การต้อนรับ พร้อมรายงานสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด ที่กรมชลประทาน เมื่อเวลา19.00น.วันที่ 1 ต.ค.
โดยนายกฯ ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ โดยรองอธิบดีกรมชลประทานได้รายงานสรุปภาพรวมสถานการณ์น้ำและเขื่อนต่างๆในประเทศ รวมถึงยังได้วิดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่อยู่ระหว่างลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำที่จ.สุโขทัย
โดยช่วงหนึ่ง นายเศรษฐา ระบุว่า เรื่องน้ำกินน้ำใช้เราไม่มีปัญหา ปัญหาใหญ่ที่มักมีการพูดถึงคือเรื่องเกษตรกรรม แต่อย่างหนึ่งที่คนมักมองข้าม คือ เรื่องอุตสาหกรรมเพราะภาคอุตสาหกรรม เราให้นักลุงทุนต่างประเทศเข้ามาเยอะมาก ถ้าต้นปีหน้าหรือกลางปีหน้า มีข่าวออกไปว่าเรามีน้ำไม่เพียงพอเราจะเสียหายเยอะมาก ขอฝากตรงนี้ และขอขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาทำงาน น้ำท่วม 3 วันนี้ ตนติดตามใกล้ชิดประชาชนเดือดร้อนถ้วนหน้า เรามีความเป็นห่วงเป็นที่มาที่ต้องมาดูที่ศูนย์บริหารจัดการน้ำแห่งนี้ เพื่อติดตามสถานการฟังข้อคิดในการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญมาเป็นกำลังใจ เพราะไม่ใช่เรื่องเล็ก เป็นเรื่องใหญ่ จึงต้องมาเป็นกำลังใจให้ วันนี้สำนักงานชลประทานทั่วประเทศ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ร่วมกับประเมินสถานการณ์เพื่อให้การทำงานคล่องตัวที่สุด เบื้องต้นจากการรับฟังรายงาน ตนเป็นห่วงสถานการณ์ที่ จ.แพร่ ลำปาง และอุบลราชธานี ที่แม้สถานการณ์จะคลี่คลายลงไปแล้วบ้างแต่ต้องเผ้าระวังอย่างใกล้ชิด แต่ต้องดูแลฟื้นฟูความเสียหายบ้านเรื่อนประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จ.สุโขทัย น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะต้องรองรับมวลน้ำจาก จ.แพร่ สู่พื้นที่เกษตรกรรมและตัวเมืองบางส่วน เรื่องสำคัญวันนี้ต้องวางแผนรับมือมวลน้ำที่เข้ามาอีกระลอก และขอว่าอย่ามองระยะสั้น อย่างเดียว เช่นอุบลราชธานี ที่ระบุน่าเป็นห่วงปีก่อนโดนเป็นสัปดาห์ ดังนั้นจึงอย่าห่วงแค่เรื่องเฉพาะหน้า
จากนัันนายกฯ ได้สั่งการว่า 1.การจัดการน้ำ ให้กรมชลประทานบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดจราจรน้ำในน้ำชี-มูล ลุ่มน้ำยม-น่าน และลุ่มน้ำเจ้าพระยา 2.การจัดการอาคารกั้นน้ำ ให้หน่วยงาน ได้แก่ จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมโยธิการและผังเมือง กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และกรมชลประทาน ตรวจสอบความมั่นคงของพนังกั้นน้ำ สะพาน และอาคารชลประทาน ให้มีความมั่นคงและพร้อมใช้งานตลอดช่วงฤดูน้ำหลาก 3.การช่วยเหลือประชาชน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน เช่น เร่งซ่อมแชมที่อยู่อาศัย กำจัดขยะที่มากับน้ำ และตามที่ประชาชนร้องขอ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บูรณาการระดมสรรพกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองทัพ หน่วยงานท้องถิ่น 4.พยากรณ์อากาศ ให้กรมอุตุนิยมวิทยาติดตามสภาพอากาศ และแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแจ้งเตือนสภาพอากาศกับประชาชน เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด 5.การแจ้งเตือน ให้กรมชลประทานร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมประชาสัมพันธ์ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนในพื้นที่ให้ทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ภายหลังการประชุมเพียงสั้นๆ ว่า เป็นห่วงจ. สุโขทัย โดยวันที่ 2 ต.ค.นี้ เวลา 08.00 น. จะมีน้ำไหลเข้าจ.สุโขทัย ซึ่งได้สั่งการไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการพัฒนาระบบเตือนภัย เช่น SMS หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ยังไม่ได้ดูทั้งหมดเลยครับ" ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับออกไปทันที