“ภูมิธรรม” เตรียมชงชื่อคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้นายกฯเคาะพรุ่งนี้ คาดสิ้นปีนี้รู้ต้องทำประชามติหรือไม่

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการ ซึ่งคณะนี้มีจำนวนเกินกว่าที่ตั้งไว้ ซึ่งพยายามให้เป็นตัวแทนจากทุกฝ่าย จึงใช้วิธีการให้กลุ่มต่างๆมีเวทีได้พูดคุยกัน ซึ่งขณะนี้มีจำนวน 35 คน

โดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล เป็นรองประธานคนที่ 1 นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ เป็นรองประธานคนที่ 2, นายนิกร จำนง เป็นโฆษกฯ รวมไปถึงมีตัวแทนจากพรรคการเมือง เช่น นายศุภชัย ใจสมุทร จากพรรคภูมิใจไทย, นายธนกร วังบุญคงชนะ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายเดชอิศม์ ขาวทอง พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนพรรคก้าวไกลขณะนี้ตอบรับแล้วแต่ยังไม่ได้มีการส่งรายชื่อมาแต่อย่างใด

ส่วนฝ่ายความมั่นคงเป็นพล.อ.ชัชวาลย์ ขำเกษม อดีตเจ้ากรมเสมียนตรา, พล.ต.อ.สุเทพ บุญรักษา อดีตรองผบ.ตร.จากฝั่งตำรวจ, พล.ต.อ.วินัย ทองสอง จากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. นอกจากนี้มีสภาทนายความ, ตัวแทนเอ็นจีโอ, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท ตัวแทนจากคนเสื้อแดง ส่วนสื่อมวลชนจะมีการเชิญสมาคมต่างๆ มาร่วมนั่งคุยกัน นอกจากนี้ยังมีประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล และนายรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว อีกด้วย

โดยนายภูมิธรรม ระบุว่า จะมีการนำรายชื่อของคณะกรรมการชุดดังกล่าวทั้งหมด เสนอต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณา หากผ่านก็จะรีบดำเนินการเพื่อวางไทม์ไลน์ และเริ่มประชุมหลังจากนั้น

ส่วนคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะใช้เวลานานเท่าใดว่าจะทำประชามติหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ต้องหารือกันในกลุ่มคณะกรรมการ โดยตนวางคร่าวๆว่าในช่วงปลายปีนี้น่าจะสามารถเคาะได้ว่าจะทำประชามติหรือไม่ โดยจะมีการวางไทม์ไลน์ให้ทราบว่าจะทำอะไรบ้าง เพราะขณะนี้มีประเด็นที่ต้องพูดคุยกันว่าจะต้องทำประชามติกี่ครั้ง

ส่วนจะใช้ทำเนียบเป็นฐานประชุมหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า คงต้องเป็นเช่นนั้น แต่สามารถเปลี่ยนแปลงโยกย้ายได้ พร้อมตรงไหนก็ประชุมตรงนั้นได้ โดยประเด็นหลักที่ได้พูดคุยกัน คือการทำประชามติกี่ครั้ง ส่วนคำถามประชามติจะออกมาเป็นเช่นไร ขอให้คณะกรรมการคุยกันก่อน รวมถึงกำหนดกรอบเวลา การทำงานทุกอย่าง เมื่อลงตัวก็จะแจ้งให้ทราบต่อไป

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า เรื่องรัฐธรรมนูญ รัฐบาลนี้ก็ได้เดินหน้าตั้งคณะกรรมการเพื่อเริ่มดำเนินการแล้ว โดยจะดำเนินการทำประชามติ เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน มาตรการระยะสั้นที่กล่าวไปทั้งหมดจำเป็นต้องมีงบประมาณสนับสนุน แต่จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ต่อชีวิตให้กับประชาชนและภาคธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ เพื่อให้มีกำลังไปสร้างพลังทางเศรษฐกิจต่อไป