"อนุสรณ์" เพื่อไทย ชี้ 4 ข้อ "ประยุทธ์" จนมุมกลางสภา สอบตก เหตุตอบคำถามฝ่ายค้านไม่ได้ ใช้วิธีตัดตอนความจริง สร้างวาทกรรมการเมืองแบบเก่าหวังเอาตัวรอด
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ระบุ จากการอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ 2560 เมื่อวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2566 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถตอบให้ตรงคำถามของฝ่ายค้านได้เลย ซ้ำยังพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น เฉไฉ ปฏิเสธความรับผิดชอบ ในหลายประเด็นดังนี้
1.การที่พลเอกประยุทธ์ บอกว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้ขายบ้านแถมสัญชาติ ถือเป็นการตอบที่ต่ำกว่ามาตรฐานของคนเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเลือกใช้วาทกรรมการเมืองเก่า โดยเลือกที่จะมองข้ามข้อเท็จจริง ไม่มีใครในโลกนี้ซื้อบ้านแถมสัญชาติ หรือซื้อบ้านทั้งโครงการ ข้อเท็จจริงที่ปรากฎคือ ทุนจีนสีเทาซื้อบ้านหลายโครงการ ไม่ใช่โครงการเดียว ส่วนการซื้อเป็นไปตามกฎหมาย ที่ผู้ประกอบการจะขายให้คนสัญชาติไทย บริษัทผู้ขายก็เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สามารถตรวจสอบได้
ส่วนเรื่องสัญชาตินายตู้ห่าว ในกระบวนการเป็นไปตามขั้นตอนของระบบราชการที่มีคณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาตามลำดับชั้น แต่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นผู้เซ็นอนุมัติในขั้นตอนสุดท้ายไม่ใช่หรือ พลเอกประยุทธ์ไปโทษรัฐบาลก่อนหน้าได้อย่างไร อย่าบิดเบือนประเด็นหลัก เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสัญชาติ แต่เป็นเรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ปล่อยปละละเลยให้ทุนจีนสีเทาระบาดในยุคนี้ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ตอบคำถามในเรื่องนี้แต่อย่างใด
2.กรณีนายตู้ห่าว ทุนจีนสีเทาที่เฟื่องฟู ในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมาในขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้า คสช.และเป็นนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การที่ทุนจีนสีเทาเกิดขึ้นในช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ นอกจากนี้ กรณีที่นายตู้ห่าวบริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่เสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ก็ยังไม่ตอบคำถาม รวมถึงยังไม่ตอบข้อกล่าวหาและไม่ชี้แจงกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติ เช่าที่ของ ส.ว.ทรงเอ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือไม่ ความเกี่ยวข้องกับทุนจีนสีเทาที่พลเอกประยุทธ์ ไม่ตอบ แต่เลือกที่ะตัดตอนความจริงด้วยการกล่าวหารัฐบาลในอดีต ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา
3. ส่วนประเด็นที่ฝ่ายค้านอภิปรายกล่าวหาพฤติกรรมของหลานพลเอกประยุทธ์ ที่ส่อถึงความไม่ชอบมาพากลในการได้มาซึ่งงานของรัฐ และตั้งคำถามว่าเกี่ยวข้องกับทุนจีนสีเทาหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ยังไม่ตอบคำถาม ชี้แจงไม่ได้ หรือเป็นเพราะจำนนด้วยหลักฐานหรือไม่
4.การที่พลเอกประยุทธ์พูดถึงหลักนิติธรรม และประชาธิปไตยที่ถูกต้องนั้น พลเอกประยุทธ์ควรละอายแก่ใจที่จะกล้าสอนผู้อื่นบ้าง พลเอกประยุทธ์ เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน ถือเป็นอาชญากรรมรุนแรงฐานกบฎ มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต แต่มีการเขียนนิรโทษกรรมไว้ พลเอกประยุทธ์จึงไม่ต้องรับโทษ ดังนั้นการพูดถึงหลักนิติธรรมและประชาธิปไตยจากปากของคนที่เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ดูย้อนแย้ง ทำให้คนทั่วไปฟังแล้วรู้สึกน่าสมเพชเวทนาเป็นอย่างยิ่ง
“ไม่ว่าพลเอกประยุทธ์ จะเฉไฉ ไม่ตอบคำถามด้วยการเปิดตำราการเมืองแบบเก่า เบี่ยงเบนประเด็นเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดอย่างไร แต่ความจริงก็คือความจริง พลเอกประยุทธ์สอบตกกลางสภาแล้ว เพราะปล่อยปละละเลยให้ทุนจีนสีเทาเฟื่องฟูตามที่ฝ่ายค้านได้อภิปราย พิสูจน์ได้จากภาพลักษณ์การทุจริตคอร์รัปชัน โดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ปี 2565 ประเทศไทยมีการทุจริตอยู่อันดับที่ 101 ได้ 36 คะแนน ซึ่งทั้งอันดับและคะแนนตกต่ำกว่าในสมัยรัฐบาล ดร.ทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีคะแนนและลำดับที่สูงกว่านี้ หากท่านไม่ยอมรับความจริงในสภา ก็จงรับความจริงที่นานาชาติแปะป้ายประจานรัฐบาลพลเอกประยุทธ์เสียบ้างก็ยังดี”