"ภูมิธรรม" ควง "ธรรมนัส" เข้าคุยปัญหา "พีมูฟ" เร่งหารือให้จบ 2 สัปดาห์ ก่อนตั้งคณะกรรมการบูรณาการปัญหา เพราะเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน เผยนายกฯ มีความห่วงใยประชาชนที่มาแสดงออกถึงความลำบาก
ผู้ชุมนุมขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ได้ร่วมกันเดินขบวนไปส่งตัวแทนพีมูฟจำนวน 13 คน ที่บริเวณหน้าประตู 6 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าไปพูดคุยและทำความเข้าใจกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว. เกษตรและสหกรณ์ ที่ตึกบัญชาการ 1
นายภูมิธรรม แถลงผลการหารือกับพีมูฟ ว่า ปัญหาพีมูฟมีต่อเนื่องมาหลายรัฐบาลแล้ว บางส่วนก็มีการคลี่คลายไปบ้าง ซึ่งใช้เวลาแก้ปัญหากันมานาน นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วง เพราะมีประชาชนมารวมกลุ่มแสดงตนยืนยันถึงความยากลำบาก จึงได้กราบเรียนนายกรัฐมนตรีให้ทราบว่าขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนและกำลังมีการพูดคุยเจรจากัน นายกรัฐมนตรีจึงได้มอบหมายตนในฐานะกำกับดูแลหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส ให้มาช่วยดูแล จึงมีตนที่จะมาช่วยดูแลแก้ปัญหา ร่วมกันรับผิดชอบตามคำบัญชาของนายกรัฐมนตรี เพราะ ร.อ.ธรรมนัสดูแลโดยตรงกับกรมที่เกี่ยวข้องกับที่ดิน อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดูจากข้อเสนอของพีมูฟแล้ว ไม่ได้มีปัญหาที่ดินอย่างเดียว แต่ยังมีความคิดเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องการดำรงอยู่ ที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน จึงมีแนวโน้มที่ตนจะขอให้ ร.อ.ธรรมนัส รับผิดชอบและประสานงาน เพื่อให้มีการพูดคุยแก้ปัญหากันให้เสร็จโดยเร็ว ภายใน 2 สัปดาห์นี้จะให้จบ และถ้าสามารถทำได้เลย เราจะเริ่มทำทันที
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ได้ขอร้องกลุ่มผู้ชุมนุมพีมูฟ ให้ขยับสถานที่ชุมนุมไปอยู่ในจุดที่ได้ขออนุญาตไว้เนื่องจากมีหลายเหตุผลด้วยกัน ยืนยันว่าไม่ได้มาพูดหลอกลวงให้ย้ายสถานที่ชุมนุม แต่สิ่งที่สำคัญคือเรื่องของการพูดคุย และพูดถึงเนื้อหาที่จะแก้ไขกันมากกว่า เชื่อว่าจะตกลงกันได้ด้วยดี และมอบให้ ร.อ.ธรรมนัสพูดคุยต่อในรายละเอียด โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ซึ่งจะมีขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไปเพื่อให้เกิดความคล่องตัว รวมทั้งจะเรียกหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วม เมื่อคณะกรรมการชุดนี้ได้ทำงาน ตนจะรายงานให้ ครม.ทราบ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องหาทางคลี่คลายให้ได้ทางออกโดยเร็วที่สุด สำหรับปัญหา 9 ด้านที่พีมูฟเสนอมานั้น เกี่ยวพันกับหลายกระทรวง และสามารถแก้ไขได้โดยเร็ว แต่อีกหลายเรื่องต้องใช้เวลา อาจต้องออกกฎหมาย ดังนั้น ต้องทำความเข้าใจในขั้นพื้นฐานกัน ว่ารัฐบาลจะมีทิศทางแบบนี้
