นายกฯ ต้อนรับทีม USAR Thailand 42คนพร้อมสุนัขค้นหาK9 “น้องเซียร์ร่า-ซาฮาร่า” 2 ตัว กลับถึงไทยแล้ว พร้อมขอบคุณในความเสียสละ ชื่นชมยกเป็น วีรบุรุษที่คนไทยต้องภาคภูมิใจ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไท มาต้อนรับคณะชุดบรรเทาสาธารณภัยจากประเทศไทย Urban Search and Rescue (USAR) Thailand ด้วยตัวเอง โดยคณะมีทั้งหมด จำนวน 42 คน และสุนัขK9 จำนวน 2 ตัว น้องเซียร์ร่าและน้องซาฮาร่า เดินทางมาด้วยสายการบิน ตุรกีส แอร์ไลน์ เที่ยวบิน KT64 จากสนามบินอิสตันบูล สาธารณรัฐตุรกี ถึง สุวรรณภูมิวันนี้
ซึ่งได้ร่วมภารกิจ Thailand for Türkiye เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในตุรกี โดยคณะดังกล่าวออกเดินทางไปตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ และกลับถึงไทยในวันนี้ 18 ก.พ.66 รวมการปฎิบัติภารกิจรวม 9 วัน ช่วยนำร่างผู้ประสบภัย ได้ 25 ร่าง และตรวจค้นหาคนไทยในตุรกี
โดยนายกฯ กล่าวกับทีมกู้ภัย ว่า การปฎิบัติภารกิจถือเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมปฎิบัติภารกิจร่วมกับนานาชาติ ได้ปฎิบัติตามมาตรฐานสากล ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไทยกับตุรกีเพื่อความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ขอชื่นชมทุกคนและขอขอบคุณทุกคนตั้งแต่ผู้บังคับบัญชาลงไป เพราะการตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจโดยเร่งด่วนฉับพลันเพราะสถานการณ์ของตุรกีมีความน่าห่วงใย โดยได้ปรึกษาพลเอกอนุพงษ์ ได้รับ การตอบรับว่าพร้อมและสามารถเดินทางไปได้ทันทีในวันต่อมาเลย ก็ทำให้ตนใจชื้นมาก
ทั้งนี้โลกเราทั้งใบมีความเชื่อมโยงกันไม่ว่าจะมีความทุกข์หรือความสุขต้องดูแลซึ่งกันและกันซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการร่วมกันรวมพลังกันทั้งโลก เพื่อจะร่วมมือกันเฝ้าระวังป้องกันบรรเทาสาธารณะภัย พร้อมทั้งขอขอบคุณเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย ที่มีการประสานกันและทีมงานทั้งหมดได้ช่วยเหลือและทำงานอย่างสมศักดิ์ศรีได้สานสัมพันธ์ไทย-ตุรกี ให้มีความก้าวหน้าที่ดีมาอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เมื่อกลับมาแล้ว ขอให้พักผ่อน ให้คณะทีมแพทย์พยาบาลช่วยดูแลสุขภาพ สำหรับน้องหมา K9 เซียร์ร่า และน้องซาฮาร่า ที่น่ารัก ทั้งหมดนี้ทุกคนคือวีรบุรุษ ขอให้ทุกคนปรบมือให้กับทีมกู้ภัยทุกคนอีกครั้ง ขอชื่นชมยกย่องในความเสียสละของทุกคน พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบเหรียญวีรบุรุษ “the Kingdom of Thailand, Prime Minister”ให้กับทีมUSAR ไทยแลนด์ทุกคนด้วย
พลเอกประยุทธ์ ระบุ ไทยกับตุรกี มีความสัมพันธ์กันดีอยู่แล้วและยิ่งมีความสัมพันธ์ที่ดียิ่งยวด และมีการขับเคลื่อนเดินหน้าไปในด้านต่างๆหลายอย่างด้วยกัน ทั้งในอาเซียน ,เอเปค ซึ่งมีหลายอย่างที่มีความก้าวหน้าให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันทุกประเทศ และประเด็นสำคัญที่จะมีการเจรจาเอฟทีเอที่ค้างมายาวนาน ซึ่งยอมรับว่ามีปัญหาหลายอย่าง พยายามหาจุดกึ่งกลางให้ได้ โดยหลาย10 ประเทศใน EU ได้มาพบตน ก็พร้อมที่จะสนับสนุนเรา แต่ก็ต้องดูคุณภาพมาตรฐานสินค้า ตรวจสอบที่มาต่างๆให้เกิดความเข้มงวด ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ประเทศไทยกำลังเดินไปข้างหน้าขอให้ช่วยกันเถอะคนละไม้คนละมือ เรื่องอะไรที่มีปัญหาก็ต้องแก้ไขกันไปเป็นเรื่องธรรมดา เรามี 70 กว่าล้านคนต้องมีปัญหากันบ้าง ซึ่งเรื่องการมอบกำลังใจ ให้กับทีมกู้ภัย USAR Thailand นั้นทางกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเป็นการปฏิบัติภารกิจตามปกติแต่เป็นการเดินทางไปต่างประเทศซึ่งรัฐมนตรีมหาดไทยได้เตรียมการดูแลไว้อยู่แล้ว
ทั้งนี้สิ่งที่ตนมีความภาคภูมิใจ และอยากจะขอบคุณพลเอกอนุพงษ์คือเมื่อตนถามวันนี้แต่วันพรุ่งนี้พร้อมเดินทางไปเลย นับถือจิตใจที่ทุกคนมีความพร้อมและอยากจะไปช่วยเหลือเขา และโชคดีที่ทุกคนเดินทางกลับมาไม่มีใครบาดเจ็บสูญเสียสักคน เมื่อเดินทางกลับมาก็ถือมีความภูมิใจ คนไทยต้องภูมิใจในความเป็นไทยของเรา เพราะไทยเรามีสิ่งที่ดีเยอะแยะ เอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทยก็พูดถึง คนไทยพูดถึงรัฐบาลไทยและที่สำคัญคือได้กล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ที่ส่งพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือ บอกว่า คนไทยน่ารัก เราต้องรักกัน คนอื่นเขามองมายังรักเราเลย
