"ภูมิธรรม" ถกกรรมการประชามตินัดแรก วางกรอบการทำงานให้เป็นไปตามเป้าหมาย ต้องมี รธน.ที่เป็นประชาธิปไตยให้มากขึ้น ชี้ไม่มี "ก้าวไกล" ร่วม ไม่ได้ทำให้ความน่าเชื่อถือลดลง พยายามดึงทุกฝ่ายเข้าร่วมแล้ว
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธาน คณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทาง ในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ 2560 ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการฯนัดแรก กรณีที่พรรคก้าวไกลไม่ได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการฯจะทำให้กระทบความน่าเชื่อถือของคณะกรรมการชุดนี้หรือไม่ว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีหลักประกันความน่าเชื่อถือ วันนี้เราพยายามเชิญทุกฝ่ายมากที่สุดอยู่แล้ว ในคณะกรรมการก็มีตัวแทนจากพรรคฝ่ายค้านเข้าร่วมจากทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยสร้างไทย ยืนยันว่าความน่าเชื่อถือไม่ได้อยู่ที่พรรคไหนเข้าหรือไม่เข้า แต่ความน่าเชื่อถือคือบุคลากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมดที่เราได้เชิญมา
เมื่อถามว่าการที่พรรคก้าวไกลไม่เข้าร่วม เพราะเป็นเกมหวังดิสเครดิต เพื่อให้คณะกรรมการไม่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า ไม่อยากคิดเช่นนั้น ตนเคารพในสิทธิของแต่ละฝ่ายที่อยากจะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วม แต่รัฐบาลแสดงความจริงใจดึงทุกฝ่ายเข้ามา และทุกอย่างเป็นไปด้วยความโปร่งใส เมื่อถามว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องสำเร็จภายใน 4 ปีที่รัฐบาลมีวาระอยู่ และตั้งเป้าว่าต้องทำให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
เมื่อถามว่ามีความคาดหวังให้รัฐธรรมนูญชุดนี้ได้รับการยอมรับเหมือนรัฐธรรมนูญปี 40 จะเป็นไปได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่ารัฐธรรมนูญที่จะได้มา จะเป็นรัฐธรรมนูญที่สอดรับกับสถานการปกติ และเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดโดยสอดคล้องกับความคิดเห็นที่ประชาชนปราถนา และขอย้ำว่าการดำเนินการรอบนี้จะไม่แตะหมวดหนึ่ง หมวดสอง และพระราชอำนาจที่มีอยู่ในมาตราต่างๆ ซึ่งถือเป็นความปราถนาของคนส่วนใหญ่ในสังคม และไม่คิดว่ามีส่วนไหนของสังคมที่มีปัญหากับหลักการข้อนี้
จากนั้นนายภูมิธรรม เป็นประธานประชุมคณะกรรมการฯโดยมีคณะกรรมการเข้าร่วมอย่างพร้อมเรียง โดยกล่าวเปิดการประชุมว่า ว่าถือเป็นการประชุมครั้งแรก เราอยากให้เร่งและมีการดำเนินการให้เต็มที่ เราจะเริ่มต้นการทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยการขอประชามติ ตามแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญที่ได้วินิจฉัยมา โดยจะยึดถือเป็นหลัก เพราะสิ่งที่สำคัญคือรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เราจะไม่ไปแตะพระราชอำนาจหมวด1 และหมวด 2 และพระราชอำนาจที่อยู่ในมาตราต่างๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องหลัก และเราตั้งใจจะให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จบภายใน 4 ปี พร้อมมีกฎหมายลูกประกอบ เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และตั้งมั่นที่จะให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านเพื่อนำมาใช้ให้ได้ ต้องพยายามรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ตามคำที่ว่าเราจะทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นประชาธิปไตยให้ได้มากที่สุด และไม่ให้มีข้อถกเถียงที่แตกต่างกัน เพื่อให้สามารถดำเนินการได้
นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า การทำรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย จำเป็นต้องมีวิวัฒนาการและเป็นจุดเริ่มต้นของการเลือกตั้งที่ดี ถือเป็นกรอบใหญ่ที่ครม. ได้พูดคุยกัน วันนี้เราจะกำหนดกรอบการทำงานและดูถึงวิธีการทำงานว่าจะทำอย่างไรให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามามีส่วนร่วม เพราะทุกคนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ทุกสาขาวิชาชีพ มั่นใจในเกียรติยศของทุกคน ที่เข้ามาและหวังว่าจะเห็นแก่ประเทศชาติเดินหน้าไปได้ และเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น สามารถที่จะลดความขัดแย้งไม่อยากให้การสร้างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นการสร้างความขัดแย้งใหม่ให้เกิดขึ้น