นายกฯ เศรษฐา พร้อมแจง หลัง "ทนายอนันต์ชัย" ร้อง ป.ป.ช.สอบจริยธรรม กรณีแต่งตั้ง ผบ.ตร. มั่นใจได้ศึกษากฎหมายดีแล้ว
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ที่จีน ถึงกรณีที่ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อไต่สวนชี้มูลความผิดกรณีการฝ่าฝืนจริยธรรมนักการเมือง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 219 แต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยมิชอบว่า เชื่อว่าการตัดสินใจของตนในวันนั้นตั้งอยู่บนบรรทัดฐานของความยุติธรรม ไม่ได้ลุด้วยอำนาจ และได้ตามรัฐธรรมนูญไทยทุกประการ และในวันที่เข้าประชุมได้มีการเสนอ 4 ชื่อขึ้นมาเพื่อพิจารณา แสดงว่าทั้ง 4 ท่านมีสิทธิได้รับการคัดเลือก และคุณสมบัติในการพิจารณาคือเรื่องของอาวุโส เรื่องของความรู้ ความสามารถ และความเหมาะสม ตรงนี้ได้ให้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง ทุกท่านก็ได้มีการอภิปรายกันอย่างไม่มีการจำกัด ได้มีการพูดคุยกันและมีการโหวตกันอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา
“แล้ววันนั้นผลที่ออกมาคือ 9-0-2 หมายถึง 9 คะแนน คือผู้ที่สนับสนุนเห็นด้วย 0 คือไม่มีใครปฏิเสธ และ 2 คือการยกเว้นออกเสียง ผมมั่นใจว่าการกระทำของผมวันนั้นทำด้วยความชอบธรรม ไม่ได้ลุด้วยอำนาจ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
เมื่อถามว่า มีการระบุด้วยว่าการแต่งตั้ง ผบ.ตร. มี 2 ก.ตร. คือ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง และ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ซึ่งเป็นกรรมการสอบสวนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้นบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. นายเศรษฐากล่าวว่า มีการเช็กกับฝ่ายกฎหมายแล้วว่าแม้ทั้ง 2 ท่านจะอยู่ในคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องที่อยู่ข้างๆ ก็ไม่ได้เป็นข้อห้ามในการปฏิบัติหน้าที่ ยืนยันว่าได้มีการตรวจสอบมาอย่างดีแล้ว พร้อมที่จะชี้แจง
ทั้งก่อนหน้านี้ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ยื่นหนังสือต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบจริยธรรมของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 14
นายอนันต์ชัย ระบุว่า ร้องเรียนนายกรัฐมนตรีในฐานะประชาชนคนหนึ่ง เนื่องจากเห็นว่าการประชุมคัดเลือก ผบ.ตร.ในวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา นายกฯ ในฐานะประธาน ก.ตร. ได้เสนอชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ซึ่งมีลำดับอาวุโสเป็นลำดับที่ 4 และไม่ได้มีผลงานโดดเด่นไปมากกว่า พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ที่มีอาวุโสลำดับ 1
ซึ่งเป็นการขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 258 ง.(4) ซึ่งมีหลักว่า การแต่งตั้งต้องคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน และยังเป็นการผิดต่อ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 78 (1)
บัญญัติว่า “มาตรา 78 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 77 (1) ให้นายกรัฐมนตรี คัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 77 (1) โดยคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวนหรืองานป้องกันปราบปราม เสนอ ก.ตร. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน แล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง”