นายกฯ รับนอนไม่หลับตั้งแต่เกิดสงคราม ห่วงแรงงานไทย ขอให้รีบตัดสินใจกลับหวั่นอิสราเอลจู่โจมภาคพื้นจะอพยพลำบาก เตรียมส่งรัฐมนตรีไปเจรจาช่วยเหลือตัวประกัน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยความคืบหน้าช่วยเหลือแรงงานไทยกลับ ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นายกรัฐมนตรี ก็นอนไม่หลับ สงครามควรจะให้จำกัดอยู่ในพื้นที่ แต่ตอนนี้ความอันตรายเริ่มจะขยายไปในภาคพื้นไม่อยากให้เกิดขึ้นเพราะมีแรงงานไทยอยู่ในพื้นที่เยอะ
ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็เป็นห่วงเรื่องนี้ แรงงานของจังหวัดอุดรธานีก็ทำงานอยู่ในพื้นที่สู้รบเยอะหน่วยงานในจังหวัดรวมถึง สส. ช่วยกันกระจายบอกกล่าวหากจะเดินทางกลับมาพร้อมกันแล้วมีขีดจำกัด ซึ่งตอนนี้รับคนกลับมาได้มากสุด 1,000 คนต่อวันแล้ว หากเกิดสงครามในภาคพื้นดินถนนจะถูกตัดขาดการจะเดินทางจะยิ่งลำบากมากขึ้น
ขณะที่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดยังอยู่ที่มาเลเซียและจะมี 1 ในคณะรัฐมนตรี เตรียมจะบินไปประเทศแถบตะวันออกกลางในเร็วๆนี้เพราะหารือการช่วยเหลือตัวประกันคนไทย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่าตลอด 2 วันที่ผ่านมามีความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก อยากให้แรงงานไทยรีบกลับมา แต่ยังคาดหวังว่าจำนวนคนที่เปลี่ยนใจไม่เดินทางกลับจะมีน้อย
พร้อม ย้ำว่ารัฐบาลที่จะเพิ่มเที่ยวบินรับคนไทยกลับให้มากขึ้นทั้งฝ่ายความมั่นคงและกลาโหมให้ความสำคัญกับ การลำเลียงคนแต่มีปัญหาเรื่องของการเดินทางอยู่เหมือนกันจึงต้องขอให้รีบแจ้งว่าจะเดินทางกลับ
ทั้งนี้ในวันอังคารนี้(31ต.ค.)รัฐบาลจะออกมาตรการเสริมสำหรับแรงงาน ทั้งการออกมาตรการเงินกู้ระยะต่ำและระยะยาวเพื่อให้ไปใช้หนี้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้รวบรวมข้อเสนอมาแล้วและจะนำเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารนี้
นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่าไม่อยากให้คิดหรือประเมินถึงขั้นเลวร้าย ว่าจะรับคนไทยกลับไม่ได้ หากนำคนไทยกลับมาประเทศผ่านสายการบินไม่ได้ ก็ต้องอาศัยทางบก หากทางบกก็มีปฏิบัติการภาคพื้นก็เดินทางลำบาก มีความเสี่ยงอีกความโหดร้ายของสงครามแต่ละฝ่ายก็ไม่ยอมยึดกติกาในการทำสงครามผู้เสียหายผู้บริสุทธิ์ก็จะเป็นเหยื่ออย่างที่ผ่านมา
โดยตนได้ย้ำไปตั้งแต่วันแรกที่มีการสู้รบว่า ประเทศไทยไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งและไม่อยากให้มีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำงานอย่างหนักที่จะต้องนำคนไทยกลับมาให้โดยเร็วที่สุด
นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงกรณีที่อิสราเอลเปิดคลิปแรงงานไทยถูกทำร้ายในเวทียูเอ็นว่ากำลังให้ตรวจสอบอยู่ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไรแต่เป็นเรื่องที่น่าเสียใจเพราะไม่ใช่เรื่องที่จะมาเปิดเผย เป็นอะไรที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แค่นี้สงครามก็โหดร้ายพอแล้ว อย่าไปเติมน้ำมันเข้าไปในไฟ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ตรงกลาง ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง ต้องการเพียงแค่ให้คนของเราปลอดภัยและตัวประกันออกมาเร็วที่สุด
ส่วนที่จะให้กองทัพอากาศเพิ่มเที่ยวบินไปรับคนไทยนั้นก็ต้องดูจำนวนคนที่แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับหากเพิ่มเที่ยวบินไปแล้วคนเดินทางกลับมาน้อยก็จะไม่คุ้ม ขณะเดียวกันก็มีความเป็นห่วงเจ้าหน้าที่ไทยที่ปฏิบัติงานอยู่ที่อิสราเอล แต่มีหลายคนที่สมัครใจที่จะไปปฎิบัติภารกิจช่วยเหลือเอาคนไทยกลับย้ำว่าบุคลากรที่เสนอตัวไปไม่มีขีดจำกัดทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่าวันนี้ยังไม่อยากคิดว่าอิสราเอลจะปฏิบัติการภาคพื้นดินเร็วขึ้นยังไม่มีข้อมูลมา ไม่อยากจะแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้แต่เชื่อว่าทุกฝ่ายพยายามอย่างเต็มที่