ชื่นมื่น!!"โรม" หยอดหวาน เชื่อมือ "บิ๊กทิน" จัดการไอโอ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร

ชื่นมื่น!!
"รังสิมันต์ โรม" หยอดหวาน เชื่อมือ "บิ๊กทิน" จัดการไอโอ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร เลิกกฎหมายพิเศษ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ปี 70 รมว.กลาโหม น้อมรับข้อเสนอปฏิบัติ

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคง แห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป สภาผู้แทนราษฎร และคณะ แถลงข่าวร่วมกันภายหลังหารืองานด้านความมั่นคง 

นายสุทิน กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่ กมธ.ความมั่นคง สภาผู้แทนราษฎร ได้มาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูล วันนี้มีผู้แทนของเหล่าทัพมาด้วย โดยการพูดคุยเป็นไปด้วยบรรยากาศที่ดี ซึ่งทาง กมธ.ได้มาสอบถามภารกิจในหลายเรื่อง โดยเฉพาะที่มีผลกระทบกับประชาชน ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมได้ชี้แจงไปหลายประเด็น รวมถึงเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน โดย กมธ.ความมั่นคงให้ข้อเสนอแนะว่ากระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพควรจะปรับอะไร ซึ่งเราก็รับได้และถือว่าเป็นประโยชน์ และจะหาแนวทางในการปฏิบัติต่อไป

ด้าน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณ รมว.กลาโหม ซึ่งเราได้ประโยชน์และมีหลายคำถาม ทั้งเรื่องที่ดินของกองทัพและได้รับคำอธิบายที่ดี รมว.กลาโหมก็ให้ทิศทางที่ชัดเจน สุดท้ายก็ต้องไปใช้วันแมพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อน ซึ่งชาวบ้านที่อยู่มาก่อนจะได้เอกสารสิทธิ์ที่จะมีโอกาสดำเนินชีวิตต่อไป ส่วนใครที่ไม่ได้อยู่มาก่อนก็ได้สิทธิการเช่าที่เป็นช่องทางในการทำมาหากิน ก็เห็นทิศทางที่ดี

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังมีความคิดเห็นในเรื่องของการใช้กฎหมายพิเศษ ซึ่งเราก็เข้าใจมากขึ้น กองทัพอาจมีความรู้สึกว่ายังจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษอยู่ แต่อย่างน้อยคำสัญญาในปี 2570 ในทุกๆ อำเภอต้องยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษถือเป็นเรื่องที่เรารอคอย

ส่วนปฏิบัติการไอโอ นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า กองทัพก็ให้คำสัญญา โดยนายสุทินได้พูดเองว่าจะกวดขัน จะไม่ให้มีปฏิบัติการไอโอ ตนคิดว่าเป็นสัญญาณเชิงบวก

“ผมได้ฝากเรื่องไอโอไว้เป็นพิเศษ ที่ไม่อยากให้มีผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่ง กมธ.ของเราหลายคนที่มีประสบการณ์ของไอโอ เราก็พยายามจะอธิบายว่ามีผลกระทบอย่างไร ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าสุดท้ายการแก้ปัญหาจริงๆ แล้วจะได้ประมาณไหน ทางคณะกรรมาธิการเราก็ไม่ได้กำหนดระยะเวลา แต่ก็ให้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเราก็ไม่ได้หยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นว่าจะต้องใช้ระยะเวลาโดยทันทีหรือไม่ ด้วยบรรยากาศคงไม่ขนาดนั้น แต่เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่ง เราก็คงไปติดตามในการทำงาน” นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ไม่อยากจะพูดว่าการทำไอโอหนักขึ้นหรือเบาลง เพียงแต่ว่าเราเห็นการหยิบยกการพรีเซนต์ของผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งก็ได้รับคำชี้แจงมาว่าไม่ได้ด้อยค่าใคร ซึ่งเราก็คาดหวังว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าจะเป็นในลักษณะการประชาสัมพันธ์เราเข้าใจ แต่ถ้าเป็นในลักษณะที่เป็นไอโอดำหรือไอโอเทา คือเป็นการด้อยค่าสร้างมลทินให้กับศัตรูทางการเมือง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราไม่อาจยอมรับได้ เราก็เลยฝากกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโดยท่านสุทินก็รับปากกับเราว่าจะคุยกันในเรื่องนี้

นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า ส่วน ปัญหาเรือดำน้ำ ยังอยู่ในกระบวนการและมีข้อแลกเปลี่ยน และตนเข้าใจว่าทางกองทัพเข้าใจความกังวลใจของสังคมต่อเรื่องนี้ และวันนี้เราเห็นทิศทางที่ยังอยู่ในกระบวนการเจรจา ซึ่งตนในฐานะประธาน กมธ.ความมั่นคงได้เสนอว่าภาคส่วนสังคมเข้าใจสุดท้ายในเรื่องของเรือดำน้ำ หากไม่ได้เครื่องยนต์ของเยอรมันเราก็อาจใช้รูปแบบหาอาวุธประเภทอื่นที่ไม่เกินกรอบวงเงินทดแทน

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมยังยืนยันถึงความจำเป็นต้องมีเรือดำน้ำ ถือเป็นภารกิจที่สำคัญและมีความจำเป็นที่จะต้องมีในอนาคต ก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้เพื่อให้ กมธ.ความมั่นคงได้เข้าใจมากขึ้น

“ผมยอมรับอีกว่าเรื่องเรือดำน้ำที่ได้มาพูดคุยดังกล่าวนี้ เข้าใจว่าเป็นเรื่องยาก ซึ่งอาจจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่เราก็ได้เสนอแนะไปแล้ว โดยทางนายสุทินกล่าวว่าจะให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นยังอยู่ในกระบวนการเจรจา” นาย รังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์ระบุว่า สำหรับ การเกณฑ์ทหาร ได้เห็นทิศทางเชิงบวกว่ากองทัพต้องการที่จะลดจำนวนทหารเกณฑ์ ซึ่งในอนาคตเราคาดหวังว่าจะไม่มีการเกณฑ์ทหารอีกต่อไป แต่ความท้าทายสำคัญคือเรื่องความยั่งยืน ซึ่งต้องฝาก รมว.กลาโหม

“ผมเชื่อว่าพี่สุทินทำได้แน่นอน ซึ่งเราน่าจะมีความใกล้ชิดกันในเรื่องของทิศทางความมั่นคง ส่วนปัญหาอื่นๆ เช่น ป่า ปัญหาเสียงดังของการซ้อมยิงของทหารเรือก็ฝากไว้กับพี่สุทินและกองทัพ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาต่อไป โดยภาพรวมทั้งหมดเราได้รับเกียรติจากกระทรวงกลาโหม โดยพี่สุทินเชิญผู้บริหารของเหล่าทัพต่างๆ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่เราได้มีการพูดคุยกันต่อไปและในอนาคตข้างหน้าปัญหาชายแดนการค้ามนุษย์ต่างๆ ต้องหวังว่าวันนี้เป็นการเริ่มต้นจะนำไปสู่การสร้างช่องทางการสื่อสารรวดเร็วเพื่อที่จะแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นให้ประชาชน

“ผมต้องขออนุญาตใช้บริการกองทัพโทรหารวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนต่อไปถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีต่อไปแน่นอน เพราะผมมีเบอร์โทรส่วนตัวของพี่สุทินอยู่แล้ว” นายรังสิมันต์กล่าว

ขณะที่นายสุทินย้ำว่า ได้สั่งให้รวบรวมเบอร์ของผู้แทนเหล่าทัพที่เกี่ยวข้องกับงานด้านต่างๆ ให้กับ กมธ.ความมั่นคง เพื่อใช้เป็นอีกช่องทางในการประสานงาน
 

TAGS: #รังสิมันต์โรม #ไอโอ #เลิกเกณฑ์ทหาร #สุทินคลังแสง