สส.ก้าวไกล - เสื้อแดง ตบเท้าร่วมรำลึก 17 ปี “ลุงนวมทอง” ขับแท็กซี่ชนรถถังต้านรัฐประหาร 49 พร้อมสืบสานภารกิจต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย หวังไม่มีการรัฐประหารและการสูญเสียเกิดอีก
.
บริเวณใต้สะพานลอยหน้าสำนักข่าวไทยรัฐ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสดมภ์อนุสรณ์ นวมทอง ไพรวัลย์ มีการจัดงานทำบุญครบรอบ 17 ปีการเสียชีวิตของ “ลุงนวมทอง” นวมทอง ไพรวัลย์ ผู้ขับแท็กซี่ชนรถถังของทหาร และตัดสินใจกระทำอัตวินิบาตกรรมเพื่อแสดงออกต่อต้านการรัฐประหารเมื่อปี 2549 โดยมีทั้งกลุ่มคนเสื้อแดง อดีตแกนนำ นปช. ประชาชน รวมถึงน.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ และนายปิยรัฐ จงเทพ สส.กรุงเทพ พรรคก้าวไกล เข้าร่วมกิจกรรมรำลึกในวันนี้
.
น.ส.ศศินันท์ระบุว่า ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 17 ปีที่ลุงนวมทองเสียชีวิต โดยตอนนั้นตนยังเป็นนักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งที่สนใจติดตามการเมือง และไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นการรัฐประหารกับตา ทั้งในปี 2549 และ 2557 แม้วันนี้ตนจะได้มาเป็น สส.แล้ว แต่ก็ยังคงมีความทรงจำถึงการเสียสละในวันนั้น จึงมาร่วมรำลึกเพื่อตอกย้ำและเตือนตัวเองว่าเรามาจากไหน มีภารกิจอะไร และจะต้องสานต่อสิ่งที่วีรชนรุ่นก่อนได้ทำไว้ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยหลาย ๆ ครั้ง รวมทั้งในปี 2553 ด้วย
อย่างไรก็ตาม ตนคาดหวังว่าจะไม่มีคำว่าวีรชนเกิดขึ้นอีก เพราะมันหมายถึงการสูญเสีย ดังนั้น ทุกองคาพยพในสังคมไทย ทั้งพรรคการเมือง ประชาสังคม และประชาชนต้องร่วมกันหาทางทำให้การรัฐประหารไม่เกิดขึ้นอีก โดยในส่วนของพรรคก้าวไกลก็มีนโยบายการปฏิรูปกองทัพ แม้วันนี้จะไม่ได้มีบทบาทเป็นรัฐบาล แต่ในฐานะฝ่ายค้านก็จะพยายามขับเคลื่อนเท่าที่จะทำได้ ทั้งในส่วนของการผลักดันกฎหมายและการทำงานในกรรมาธิการต่าง ๆ
.
แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ จากผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาและการแสดงออกของประชาชนในที่สาธารณะ ทำให้เราเห็นว่าคนรุ่นใหม่สนใจการเมืองมากขึ้น ประชาชนยังคงติดตามการเมืองและมีความตื่นตัวทางการเมืองสูง ดังนั้น ตนเชื่อว่าคนไทยเริ่มเข้าใจสถานการณ์การเมืองและข้อเสียของการรัฐประหารมากขึ้น หลังการรัฐประหารปี 2549 เราได้เห็นบรรยากาศหนึ่ง แต่ในปี 2557 เราเห็นการต่อต้านมากขึ้น และตนเชื่อว่าถ้ามีรัฐประหารอีกครั้ง ผลลัพธ์จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
.
“ทุกคนเห็นแล้วว่าการรัฐประหารทำให้เกิดผลลัพธ์อย่างไร และประเทศถอยหลังเพราะการรัฐประหารขนาดไหน ทุกครั้งที่ลงพื้นที่และได้เจอเด็กรุ่นใหม่ ใครจะคิดว่าวันหนึ่งจะมีเด็กสนใจการเมืองมากขนาดนี้ ตอนเป็นเสื้อแดง เราจำได้ว่าป้า ๆ ดีใจมากเวลาได้เห็นเด็กในที่ชุมนุม เพราะตอนนั้นคนรุ่นใหม่ยังสนใจการเมืองน้อย แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปมากแล้ว เรามาไกลมากแล้ว” น.ส.ศศินันท์กล่าว