สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ งานฉลองครบรอบ “145 ปี บี.กริม” พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการทรงคุณค่าประวัติศาสตร์ขององค์กรหกแผ่นดินยึดมั่นการทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อประชาสังคม
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปเป็นองค์ประธานงานเฉลิมฉลองครบรอบการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยปีที่ 145 ของ บี.กริม องค์กรที่อยู่เคียงคู่สังคมไทย จากรากฐานปรัชญาการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี
ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่อ “บี.กริม 145 ปี แห่งการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี รับใช้และเติบโตเคียงข้างกับประเทศไทย” พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการ “145 ปี บี.กริม” ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อช่วงค่ำวันพุธที่ 15 พฤศจิกายน 2566 โดยมี มร.ฮาราลด์ ลิงค์ และคณะผู้บริหาร บี.กริม ร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จ
นิทรรศการ “145 ปี บี.กริม” ถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาของบี.กริม องค์กรหกแผ่นดินที่ยึดมั่นการทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อประชาสังคม โดยพาทุกคนย้อนอดีตในปี พ.ศ.2421 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางมายังประเทศไทย ของเภสัชกรชาวเยอรมัน แบร์นฮาร์ด กริม และหุ้นส่วนชาวออสเตรีย แอร์วิน มุลเลอร์
ภายในนิทรรศการ “145 ปี บี.กริม” ที่จัดรายล้อมรอบบริเวณพระปรางค์วัดอรุณ บอกเล่าประวัติความเป็นมาร้อยเรียงเรื่องราวของบี.กริมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จนถึงรัชกาลปัจจุบัน อีกทั้งยังมีซุ้มนำเสนออาหารประจำแต่ละรัชสมัย อาทิ สมัยรัชกาลที่ 5 นำเสนอเมนูอาหารเลิศรส อาทิ หมี่กรอบ, ฝอยทอง, ข้าวขวัญ และเมนูกระเช้าสีดา
สมัยรัชกาลที่ 6 นำเสนอเมนู ข้าวตังหน้าตั้ง และมะกรูดแช่อิ่ม สมัยรัชกาลที่ 7 นำเสนอเมนูก๋วยเตี๋ยวผัดไทย, ดาราทอง ส่วนสมัยรัชกาลที่ 8 ประกอบด้วยเมนู นกกระจาบแตกรัง (ดอกแคสอดไส้หมูสับปรุงรส), ขนมนึ่ง
สมัยรัชกาลที่ 9 นำเสนอเมนูที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงโปรด อาทิ ไข่พระอาทิตย์, กล้วยหักมุกเชื่อม, ส้มตำไทยส้มตำลาว และ เมนูไข่ สมัยรัชกาลที่ 10 ประกอบด้วยเมนูยอดนิยมของประเทศไทย ข้าวเหนียวมะม่วง, ปลากุเลาแดดเดียว (ทอด ยำ ต้มส้ม) และ ต้มข่าไก่ เป็นต้น
นอกจากความวิจิตรงดงามของสถานที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารแล้ว ภายในงานยังมีการแสดงโขน“เรื่องรามเกียรติ์” ตอนศึกแสงอาทิตย์ โดยคุณพิเชษฐ กลั่นชื่น ศิลปินไทยร่วมสมัย แสดงควบคู่กับเพลงคลาสสิกร่วมสมัย ซึ่งประพันธ์โดย ศ.ดร.ณรงค์ฤทธิ์ ธรรมบุตร ศิลปินแห่งชาติ และบรรเลงโดยวง Royal Bangkok Symphony Orchestra (RBSO) ควบคุมวงดนตรีโดยวาทยกรชื่อดัง ดร.วานิช โปตะวนิช
โดยการแสดงโขน เรื่องราวรามเกียรติ์ ตอนศึกแสงอาทิตย์ เป็นการแสดงโดยคณะศิลปศึกษา สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของ แสงอาทิตย์ ยักษ์ที่มีอาวุธวิเศษเป็นแว่นแก้วสุรกานต์ ส่องผู้ใดผู้นั้นจะต้องตาย ทศกัณฐ์ออกคำสั่งให้แสงอาทิตย์ยกทัพไปรบกับพระรามพร้อมกับจิตรไพรีผู้เป็นพี่เลี้ยง พิเภกรู้ว่าแว่นแก้วสุรกานต์นั้นเก็บอยู่ที่พระพรหม จึงทูลพระรามว่า เมื่อแสงอาทิตย์มารบก็จะให้จิตรไพรีขึ้นไปเอาแว่นมาใช้
พระรามจึงได้สั่งให้องคตแปลงเป็นจิตรไพรีไปเอาแว่นมาเก็บไว้ก่อน เมื่อแสงอาทิตย์รบกับพระราม จนเพลี่ยงพล้ำและคิดว่าอาวุธทั้งหลายคงใช้ไม่ได้ จึงสั่งให้จิตรไพรีขึ้นไปเอาแว่นวิเศษจากพระพรหม เมื่อจิตไพรีไปพบพระพรหมเพื่อขอแว่นแก้วสุรกานต์ก็พบว่าถูกกลจากพระรามหลอกเอาแว่นไปเสียแล้ว แสงอาทิตย์จึงรู้ว่าเสียทีแก่ศัตรูแล้ว และในที่สุดแสงอาทิตย์ก็ต้องศรพรหมาสตร์ของพระรามจนถึงแก่ความตาย
บี.กริม ภายใต้การบริหารของ มร.ฮาราลด์ ลิงค์ ทายาทตระกูลลิงค์รุ่นที่ 3 ยังคงสืบทอดแนวคิดการทำงานจากบรรพบุรุษ ด้วยการ “การดำเนินธุรกิจด้วยความโอมอ้อมอารี” ทุกวันนี้ บี.กริม ที่ดำเนินกิจการในประเทศไทยมา 145 ปีแล้ว ได้แบ่งสายธุรกิจหลักไว้ 6 กลุ่ม
ได้แก่ ธุรกิจด้านพลังงาน ดำเนินกิจการโรงไฟฟ้า, ธุรกิจอุตสาหกรรม ให้บริการโซลูชันในการจัดการพลังงานและเชื่อมต่อระบบภายในอาคารและภาคอุตสาหกรรม (กลุ่มผลิตภัณฑ์ก่อสร้างและโซลูชันสำหรับอาคาร กลุ่มระบบทำความเย็น เครื่องปรับอากาศ กลุ่มอุปกรณ์พลังงาน และกลุ่มคมนาคม), ธุรกิจสุขภาพ จัดหาเวชภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการทางการแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง, ธุรกิจเทคโนโลยีดิจิตอล นำเสนอเทคโนโลยี่ที่ล้ำสมัย เสริมสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในการพัฒนาสินค้าและการบริการในตลาด, ธุรกิจไลฟ์สไตล์ เป็นตัวแทนสินค้าแฟชั่นหลายกลุ่ม และ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
“145 ปี บี.กริม” ครั้งนี้ จึงเปรียบเสมือนการถ่ายทอดประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า และเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษในฐานะที่ บี.กริมได้ร่วมทำกิจการรับใช้ประเทศเสมอมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 145 ปี