สสว. ปลื้มความสำเร็จงานพัฒนาสิทธิประโยชน์ “SME Privilege Club คลับพิเศษสำหรับ SME” เสริมแกร่งผู้ประกอบการให้แข่งขันได้ในระดับสากล คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 254 ล้านบาท
นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังร่วมเสวนา แลกเปลี่ยนแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ กับผู้แทนหน่วยงานพันธมิตร ที่ร่วมทำงานภายใต้งานเผยแพร่และพัฒนาความร่วมมือด้านสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการ MSME ของ สสว. ประกอบด้วย Line /บริษัทโอวีวา คอร์ป จำกัด และบริษัท เดอะเกรท โออีเอ็ม จำกัด โดยผู้แทนหน่วยงานที่ได้ร่วมเสวนา ประกอบด้วยนางสาวนันทิศา อัครเกษมพร Strategy and Partnerships Team Lead, LINE Thailand และผู้ประกอบการ นางสาวอภัสนันท์ อภิธนาบุญเศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอวีวา คอร์ป จำกัด และนางสาวแวววรรณ วัฒนสิริวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะเกรท โออีเอ็ม จำกัด พร้อมทั้งตอบคำถามผู้เข้าร่วมงานในประเด็นเกี่ยวข้องกับงานพัฒนาสิทธิประโยชน์ SME ของ สสว.
รักษาการ ผอ.สสว. เปิดเผยว่า “SME Privilege Club คลับพิเศษสำหรับ SME” คืองานพัฒนาสิทธิประโยชน์ SME ของ สสว. ซึ่งใช้แนวทางการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนผู้รับบริการภาครัฐ (SME One ID) โดยมุ่งเน้น 3 ด้าน ได้แก่ การเพิ่มผลิตภาพ/ลดต้นทุน เน้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การยกระดับมาตรฐาน เน้นลดต้นทุน อาทิ ค่าใช้งานบริการ การวิเคราะห์วัตถุดิบ ฯลฯ การขยายช่องทางการตลาด เน้นการเพิ่มช่องทางตลาดใหม่ๆ เข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย อาทิ พื้นที่จำหน่ายสินค้าร่วมกับโมเดิร์นเทรดชั้นนำ พร้อมส่วนลดสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น ค่า GP/ Entry Fee ไปจนถึงสิทธิพิเศษด้านระยะเวลา หรือ Credit Term และการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน เน้นสิทธิพิเศษจากสถาบันการเงิน หรือการสนับสนุนจากแหล่งทุนต่างๆ อาทิ เงินกู้เสริมสภาพคล่อง และบริการให้คำปรึกษาทางการเงิน
รักษาการ ผอ.สสว. กล่าวต่อว่า ในปีที่ผ่านมามีหน่วยงานพันธมิตรที่ลงนามความร่วมมือ (MOU) กับ สสว. ให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ประกอบการ รวม 25 หน่วยงาน ได้แก่ การเพิ่มผลิตภาพ/ลดต้นทุน ได้แก่ สถาบันการสร้างชาติ บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ทรูสเปซ จำกัด บริษัท โฟโนไรท์ จำกัด กรมทรัพย์สินทางปัญญา บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท โอเพน เอเชีย จำกัด บริษัท ดิจิลิงค์ (ประเทศไทย) จำกัด องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council หรือ HKTDC) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร สถาบันอนุญาโตตุลาการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโนโลยี บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรูดิทริบิวชั่น แอนด์ เซลล์ จำกัด มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)
การขยายช่องทางการตลาด ได้แก่ บริษัท เทลสกอร์ จำกัด บริษัท ลาซาด้า จำกัด บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เฟเวอรี่ จำกัด บริษัท แอสเสทเวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) - เออีซี เทรดเซ็นเตอร์ พันธุ์ทิพย์ (ประตูน้ำ) Bank of China (Thai) Public Company Limited บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน ได้แก่ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย บริษัท มีท่ีมีเงิน จำกัด และกองทุนการออมแห่งชาติ
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถเลือกเข้าร่วมกิจกรรมหรือใช้สิทธิพิเศษ อาทิ ส่วนลดค่าบริการ หรือการให้คำปรึกษาจากหน่วยงานพันธมิตร ของ สสว. ตามเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละแห่ง ขณะเดียวกัน สสว. ก็มีการจัดกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร เพื่อร่วมมือส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการควบคู่กันไปด้วย อาทิ การจัดสัมมนา – UPSKILL SME “ยอดขายโตทั่วไทย ด้วยโซลูชันจาก LINE” ในจังหวัดชลบุรี ขอนแก่น และเชียงใหม่ การจัดแคมเปญ “SUPER SME MARKET” จำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Shopee การจัดกิจกรรม “SME Privilege Club Business Matching: The Exclusive Match” กิจกรรมเจรจาธุรกิจด้านเงินทุนและการตลาด กับหน่วยงานพันธมิตร ของ สสว. การนำผู้ประกอบการร่วมงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจ HKTDC Food Expo Pro 2024 ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และงานแสดงสินค้านานาชาติด้านอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน
“ผู้ประกอบการสามารถเลือกเข้าร่วมกิจกรรม ใช้บริการหรือส่วนลดจากพันธมิตรของ สสว. ได้โดยตรงตามความต้องการและขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหรือระยะเวลา แต่ขณะเดียวกันก็สามารถเลือกเข้าร่วมกิจกรรมที่ สสว. ร่วมมือกันจัดพันธมิตรได้ด้วย ตัวอย่างในปีที่ผ่านมา การจัดสัมมนา – UPSKILL SME “ยอดขายโตทั่วไทย ด้วยโซลูชันจาก LINE” ได้รับความสนใจมากจากผู้ประกอบการในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ที่ไปจัดงาน เพราะเป็นแอปพลิเคชันที่ทุกคนคุ้นชินกันอยู่แล้ว เมื่อนำมาเสริมการทำธุรกิจได้ก็ยิ่งช่วยให้ผู้ประกอบการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาส่งเสริมสินค้าและบริการได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการพาผู้ประกอบการไปจำหน่ายสินค้าและเจรจาธุรกิจที่ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ก็ช่วยทั้งในเรื่องการหาช่องทางตลาดใหม่ๆ และเสริมประสบการณ์ด้านการจัดการต่างๆ อาทิ การผลิต การนำเข้า/ส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ การขนส่ง และอื่นๆ รวมถึงเรายังจัด “SME Privilege Club Business Matching” อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้หน่วยงานพันธมิตรและผู้ประกอบการได้พบปะกัน เกิดการต่อยอดของหน่วยงานพันธมิตรได้ร่วมมือกันเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการด้วย สำหรับภาพรวมในปีนี้ถือว่าน่าพอใจ คาดว่าจะเกิดมูลค่าเศรษฐกิจได้ถึง 254 ล้านบาท โดยกิจกรรมที่มีเสียงตอบรับจากผู้ประกอบการดีก็จะหาช่องทางจัดเพิ่มขึ้น รวมทั้งหาแนวทางสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ เพื่อปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ก้าวสู่เศรษกิจสีเขียว GREEN TRANSFORMATION ด้วย โดยผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปที่สนใจสิทธิประโยชน์ต่างๆ สามารถลงทะเบียนเข้ารับบริการกับ สสว. ผ่านช่องทาง SME CONNEXT ซึ่งใช้การยืนยันตัวตนด้วย SME ONE ID โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อรับทราบข้อมูลข่าวสารและสิทธิประโยชน์ รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรม ภายใต้ความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรทั้งหมดของ สสว.” รักษาการแทน ผอ.สสว. กล่าว