ตำรวจ ปส. ลุย จับ ยาบ้ากว่า 12 ล้านเม็ด และไอซ์กว่า 1.3 ตัน

ตำรวจ ปส. ลุย จับ ยาบ้ากว่า 12 ล้านเม็ด และไอซ์กว่า 1.3 ตัน
ตำรวจ ปส. ลุยหนัก จับกุมครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ของกลาง ยาบ้ากว่า 12 ล้านเม็ด และไอซ์กว่า 1.3 ตัน ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 90 ล้านบาท

สืบเนื่องจากการแถลงนโยบายของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งได้แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 12 ก.ย.67 ว่าปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วน ที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด ครบวงจร ตัดต้นตอการผลิตและจำหน่ายด้วยการร่วมมือกับ ประเทศเพื่อนบ้าน ในการสกัดกั้นลำเลียงยาเสพติด ปราบปราม และยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญ ทั้งนี้ สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.สำราญ นวลมา และ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้นำนโยบายดังกล่าวมาสู่การปฏิบัติ โดยกำหนดเป็นแผน ยุทธศาสตร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

สำหรับภาพรวมของปีงบประมาณ 2567 ได้มีการจับกุมคดียาเสพติด 260,506 คดี ผู้ต้องหา 268,679 คน อายุเฉลี่ย 30 – 50 ปี ของกลางยาเสพติด คือ ยาบ้ากว่า 1,001 ล้านเม็ด, ไอซ์ 25.4 ตัน, เฮโรอีน 1.6 ตัน, คีตามีน 5.6 ตัน และ ยึดอายัดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติด กว่า 12,000 ล้านบาท 

และในปีงบประมาณ 2568 นี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการปราบปรามเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยการขับเคลื่อนหลักยังคงเป็น บช.ปส.พล.ต.ต. สมบูรณ์ เทียนขาว  รรท.ผบช.ปส. และตำรวจภูธรภาคต่าง ๆ และได้มีการบูรณาการร่วมมือกับ ปปส., พล.ท.กัณห์ สถิตยุทธการ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ราชอาณาจักร ,พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 /รอง ผบ.นบ.ยส.24 และ พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร โดยมีการขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้ต้องหารายสำคัญ 5 เครือข่าย ดังนี้ 

บก.ปส.3 

คดีที่ 1 ยาไอซ์ 600 กิโลกรัม (ผู้นำเสนอ พ.ต.อ.กฤษณ์ มณีรมย์ ผกก.1 บก.ปส.3) 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ก.ย.67 ตำรวจได้จับกุม นายอนนต์ และนายชัยวัฒน์ พร้อมไอซ์ จำนวน 600 กก. บริเวณบ้านช่องสำราญ ต.วะตะแบก อ.เทพสถิต จว.ชัยภูมิ ต่อเนื่องริมถนนชงโคเขาน้อย ต.ลำสะพุง อ.มวกเหล็ก จว.สระบุรี จากนั้นตำรวจ บก.ปส.3 ร่วมกับ บก.ขส. นำข้อมูลเครือข่ายนี้มาสืบสวนขยายผลจนพบว่า ยาเสพติด ถูกลำเลียงมาจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ซึ่งช่วงเย็นของวันที่ 20 ต.ค.67 พบความ เคลื่อนไหวของเป้าหมายเดินทางออกจากพื้นที่ อ.ท่าคันโท จว.กาฬสินธุ์ มุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ตอนใน โดยใช้เส้นทางถนน มิตรภาพ ชุดจับกุมจึงได้วางกำลังไว้ตามเส้นทางที่คาดว่ารถเป้าหมายจะขับผ่าน จนเวลาประมาณ 21.50 พบรถต้อง สงสัยวิ่งตามกันมาบนเส้นทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมาและเข้าทางพิเศษ M6 โดยสลับกันขึ้นนำและตามตลอดเส้นทางกระทั่งเวลา 00.05 ของวันที่ 21 ต.ค.67 รถเป้าหมาย 2 คัน คือ รถกระบะโตโยต้าวีโก้สีดำ หมายเลขทะเบียน บว 35xx กาฬสินธุ์ มีนายสาธิต เป็นผู้ขับขี่ มาพร้อมกับ นางสาวเหมี่ยว ภรรยา และรถตู้ หมายเลขทะเบียน นข 36xx บุรีรัมย์ มีนายสมศักดิ์ ขับขี่ และนายรังศิธร โดยสารมาด้วย (ทราบชื่อภายหลัง) ขับเข้าไปจอด ในปั๊มน้ำมันบางจากถนนมิตรภาพ ชุดจับกุมประกอบด้วย ตำรวจ บก.ปส. 3 ร่วมกับ ศูนย์ข่าวกรองกรุงเทพมหานคร บก.ขส. และ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฎิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้แสดงตัว ขอตรวจค้น เบื้องต้นตรวจค้นรถตู้ พบกระสอบใบใหญ่ถูกวางไว้ภายในห้องโดยสารทั้งสิ้น จำนวน 15 กระสอบ ภายในบรรจุยาบ้า รวม 679 แพ็ค จำนวน 6,790,000 เม็ด จากการสอบปากคำผู้ต้องหาพบว่า ได้รับการว่าจ้าง โดยติดต่อทางโทรศัพท์ และทางแอปพลิเคชัน “ไลน์” เพื่อให้ลำเลียงยาเสพติดจำนวนดังกล่าว ทั้งนี้ ตำรวจอยู่ระหว่าง เตรียมขยายผลหาผู้สั่งการต่อไป 

บก.ปส.2 

คดีที่ 2 ยาบ้า 4,000,000 เม็ด (ผู้นำเสนอ พ.ต.อ.เฉลิมชัย ไวยสุระสิงห์ ผกก.3 บก.ปส.2) 

สืบเนื่องจากวันที่ 6 ก.ค.67 ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 ได้จับกุม นายสมศักดิ์ พร้อมไอซ์ จำนวน 500 กก. บริเวณ สี่แยกไฟแดงบ้านธาตุ ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จว.สกลนคร จึงสืบสวนขยายผลรถยนต์ของเครือข่ายที่หลบหนีการจับกุม เมื่อวันที่ 6 ก.ค.67 ไป ตำรวจจึงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว กระทั่งวันที่ 20 ต.ค.67 พบมีการเปลี่ยนป้ายทะเบียน รถยนต์จาก งพ 70xx ชลบุรี เป็น 8กอ 78xx กรุงเทพมหานคร และขับเข้ามาในพื้นที่ อ.เมือง จว.นครพนม ตำรวจจึง วางกำลังตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่ารถยนต์คันดังกล่าวจะใช้ในการลำเลียงยาเสพติด จนเวลาประมาณ 00.15 น. ของ วันที่ 21 ต.ค.67 รถยนต์คันดังกล่าวกำลังวิ่งอยู่บนถนนนิตโย มุ่งหน้า อ.กุสุมาลย์ จว.สกลนคร กระทั่งมาจอดติดไฟ แดงบริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านธาตุ ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จว.สกลนคร ชุดจับกุมจึงเข้าสกัดทันที พบ นายธวัชชัย คนขับ และ นายณัฐนนท์ คนโดยสาร ก่อนจะควบคุมทั้ง 2 คน มาตรวจค้นรถ พบกระสอบสีรุ้งภายในรถ จำนวน 10 กระสอบ ภายในบรรจุยาบ้ากระสอบละ 400,000 เม็ด รวมยาบ้า 4,000,000 เม็ด สอบถามผู้ต้องหา 2 คน ยอมรับว่า ยาบ้าของกลางดังกล่าว เป็นของตนเองจริงและจะนำไปส่งให้กับลูกค้าที่กรุงเทพมหานคร 

คดีที่ 3 ไอซ์ 300 กิโลกรัม (ผู้นำเสนอ พ.ต.อ.เฉลิมชัย ไวยสุระสิงห์ ผกก.3 บก.ปส.2) 

สืบเนื่องจากช่วงสายของวันที่ 4 ก.ย.67 ตำรวจได้ทำการจับกุม นายพิพัฒน์ กับพวกรวม 3 คน พร้อมยึด ของกลางยาบ้า 1,500,000 เม็ด ได้ที่บริเวณภายในปั๊มน้ำมันคาล์เท็กซ์ อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะขยายผลพบว่าเครือข่ายดังกล่าว ยังมีการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ภาคกลางอย่างต่อเนื่อง กระทั่งช่วง เช้าของวันที่ 21 ต.ค.67 ตำรวจชุดจับกุมหน่วยปราบปรามยาเสพติดอุดรธานี กก.3 บก.ปส.2 ร่วมกับศูนย์ ข่าวกรองยาเสพติดอุดรธานี และกรุงเทพมหานคร บก.ขส. พบรถเป้าหมายขับเข้าไปในพื้นที่ริมแม่น้ำโขง ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จว.เลย และได้ติดตามอย่างใกล้ชิด ต่อเนื่องวันที่ 22 ต.ค.67 เวลาประมาณ 07.15 น. ชุดจับกุมจึงนำกำลังเข้าสกัดรถเป้าหมายเป็นรถยนต์โตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีเทา ทะเบียน ชศ 45xx กทม. ได้บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 201 มุ่งหน้าจังหวัดขอนแก่น ต.ห้วยส้ม อ.ภูกระดึง จว.เลย พบ นายเอกชัย คนขับขี่ ได้พยายามเปิดประตูรถวิ่งหลบหนีลอดรั้วลวดหนามเข้าไปในสวนริมถนน ก่อนจะถูก จับกุมตัว และนำมาตรวจค้นภายในรถยนต์ พบกระสอบต้องสงสัยถูกวางในห้องโดยสาร จำนวน 4 กระสอบ และกระโปรงท้ายรถยนต์ จำนวน 3 กระสอบ รวม 7 กระสอบ ภายในบรรจุไอซ์ น้ำหนัก 300 กก. นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ต้องหา ได้พกพาอาวุธปืนพกลูกโม่ ขนาด .38 นิ้ว มาด้วย 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 55 นัด

คดีที่ 4 ยาบ้า 1,000,000 เม็ด ไอซ์ 160 กิโลกรัม คีตามีน 40 กิโลกรัม (ผู้นำเสนอ พ.ต.อ.อัคควิทย์ กำแพงนิล ผกก.2 บก.ปส.2) 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ส.ค.67 หน่วยปราบปรามยาเสพติดนครราชสีมา กก.2 ร่วมกับ ศูนย์วิเคราะห์ ข่าว บก.ปส.2 จับกุม นายศักดิ์สิทธิ์ และนายอนุชิต พร้อมยาบ้า จำนวน 6,702,400 เม็ด, ยาอี จำนวน 1,000 เม็ด, Ecstasy หรือ MDMA จำนวน 10 ก้อน น้ำหนัก 1 กก., ยาไฟว์ไฟว์ จำนวน 1,400 เม็ด, ระเบิดลูกเกลี ้ยง M 26 จำนวน 7 ลูก บริเวณภายในใบทองธารารีสอร์ทใน ต.คลองกระจัง อ.ศรีเทพ จว.เพชรบูรณ์ จึงสืบสวน ขยายผลจากกลุ่มลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว จนวันที่ 15 ต.ค.67 พบกลุ่มรถยนต์ที่เฝ้าระวังจำนวน 3 คัน มีความ เคลื่อนไหวเข้ามาในพื้นที่ชายแดน จว.หนองคาย และจว.บึงกาฬ จึงได้จัดกำลังติดตาม จนมาพบรถยนต์ทั้ง 3 คัน คือ รถยนต์ TOYOTA ALTIS สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆษ 21xx กทม. รถยนต์ HONDA ACCORD สี ขาว หมายเลขทะเบียน ขห 91xx เชียงใหม่ และรถยนต์ MITSUBISHI PAJERO สีดำเทา ทะเบียน ฎข 29xx กทม. วิ่งบนถนนในพื้นที้ จว.ขอนแก่น และ จว.เพชรบูรณ์ ก่อนที่รถยนต์ทั้ง 3 คัน ขับเข้าไปบริเวณบ้าน สวนเกษตรรีสอร์ท ต.ท่าพล อ.เมือง จว.เพชรบูรณ์ ชุดจับกุมจึงนำกำลังเข้าจับกุม ผู้ต้องหา จำนวน ๔ คน คือ 1.นายเอกรินทร์, 2.น.ส.เสาวรส, 3.นายอรรถพงษ์ และ 4.นายมนัส ตรวจสอบภายในรถยนต์ TOYOTA ALTIS สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆษ 21xx กทม. พบยาเสพติดถูกวางไว้ภายในห้องโดยสาร เป็นยาบ้า จำนวน 1,000,000 เม็ด, ไอซ์ จำนวน 160 กก. และคีตามีน จำนวน 40 กก. และได้นำตัวนายเอกรินทร์ มาทำการตรวจค้น รถยนต์ TOYOTA ALTIS หมายเลขทะเบียน กบ 32xx ฉะเชิงเทรา ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย สอบถาม นายเอกรินทร์ให้การว่านำรถยนต์คันดังกล่าวมาจอดไว้เพื่อรอถ่ายยาเสพติด เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่าย ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน ) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็น การกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนอันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อ ความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” 

บก.ปส.4 

คดีที่ 5 ไอซ์ 300 กิโลกรัม (ผู้นำเสนอ พ.ต.ท.พิชญุตม์ เกียรติกิตติคุณ รอง ผกก.1 บก.ปส.4) 

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือน ส.ค.67 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ได้จับกุม ผู้ต้องหา พร้อม ไอซ์ จำนวน 549 กรัม ในพื้นที่ อ.เมือง จว.กาญจนบุรี ตำรวจหน่วยปราบปรามยาเสพติดกาญจนบุรี บก.ปส.4 ได้เข้าสอบปากคำเพื่อขยายผล กระทั่งพบเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดรายใหญ่ จากนั้นตำรวจจึงเฝ้าติดตามความ เคลื่อนไหวของเครือข่ายนี้ กระทั่งวันที่ 14 ต.ค.67 พบรถยนต์เป้าหมายคือ MU-X หมายเลขทะเบียน กธ 8xxx ประจวบคีรีขันธ์ ขับจากพื้นที่ภาคใต้ ขึ้นไปยังพื้นที่ภาคกลาง และขับกลับเข้ามาในพื้นที่ อ.ท่ามะกา จว. กาญจนบุรี มาพบกับรถยนต์ D-MAX หมายเลขทะเบียน 1 กส 2xxx กรุงเทพมหานคร ในลักษณะขับนำหน้า และตามหลังกันมา ชุดจับกุมจึงทำการประสานตำรวจ สภ.ท่ามะกา ภ.จว.กาญจนบุรี เพื่อตั้งจุดสกัดที่ถนนแสงชู โต บ้านท่ามะกา ม.4 ต.ท่ามะกา อ.ท่ามะกา จว.กาญจนบุรี ตำรวจ กก.1 บก.ปส.4 หน่วยปราบปรามยาเสพติด กาญจนบุรี ร่วมกับตำรวจในพื้นที่ , ทหาร และ ป.ป.ส.ภาค 7 จึงเรียกรถต้องสงสัยให้หยุด เพื่อตรวจสอบ พบรถยนต์ D-MAX หมายเลยทะเบียน 1 กส 2xxx กรุงเทพมหานคร มีนายมาโนชญ์ เป็นผู้ ขับขี่ และ น.ส.โชติกา โดยสารมาด้วย ตรวจสอบไม่พบสิ่งของต้องสงสัย เบื้องต้นทราบว่า เป็นรถขับสำรวจ เส้นทาง ส่วน รถยนต์คันที่ 2 MU-X หมายเลขทะเบียน กธ 8xxx ประจวบคีรีขันธ์ มีนายเรวัตร เป็นผู้ขับขี่มี น.ส.อริสรา โดยสารมาด้วย ตรวจค้นภายในรถพบกระเป๋าเป้ใบใหญ่จำนวน 8 ใบ และใบเล็ก จำนวน 1 ใบ ถูกวางไว้บริเวณเบาะนั่งแถว 2 และ 3 ภายในห้องโดยสาร ในกระเป๋าพบ ไอซ์ ถูกบรรจุอยู่ในหีบห่อของถุงใบ ชาสีทอง รวมทั้งสิ้น จำนวน 300 กก. สอบปากคำนายเรวัตร ยอมรับว่า มีนายแชมป์ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ว่าจ้างให้ตนเองลำเลียงไอซ์ จาก อ.เมือง จว.อ่างทอง เพื่อไปส่งให้ลูกค้าที่ อ.รัตภูมิ จว.สงขลา จริง ซึ่งตำรวจ อยู่ระหว่างเตรียมขยายผลไปยังผู้จ้างวานต่อไป 

สำหรับ การปราบปรามยาเสพติดตั้งแต่ 1 – 20 ตุลาคม 2567 กองบัญชาการตำรวจปราบปราม ยาเสพติด สามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ 12 คดี ผู้ต้องหา 29 คน ของกลางเป็นยาบ้า 12,866,006 เม็ด, ไอซ์ 1,367 กก., เฮโรอีน 28.6 กก. และ คีตามีน 40 กก. ยึดอายัดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบ มูลค่าประมาณ 92 ล้านบาท    

TAGS: #ตำรวจ #ปส.