สมบูรณ์แบบแต่ “ไร้ความหมาย” ชวนค้นหาชีวิตไปกับ “Barbie”

สมบูรณ์แบบแต่ “ไร้ความหมาย” ชวนค้นหาชีวิตไปกับ “Barbie”
การใช้ชีวิตอยู่ในเมืองบาร์บี้เหมือนการได้อยู่ในสถานที่สมบูรณ์แบบ เว้นแต่เราจะพบว่าชีวิตไร้ความหมาย หรือ เป็นเหมือนเค็น

ภาพยนตร์จากผู้เขียนบทฯ / ผู้กำกับฯ ที่เคยชิงรางวัล Oscar เกรต้า เกอร์วิก (“Little Women,” “Lady Bird”) เรื่อง “Barbie” นำแสดงโดยมาร์โกต์ ร็อบบี้ ผู้เข้าชิงรางวัล Oscar (“Bombshell,” “I, Tonya”) และไรอัน กอสลิง (“La La Land,” “Half Nelson”) ในบทบาร์บี้และเค็น 

เกอร์วิกกำกับฯ “Barbie” จากบทภาพยนตร์ของเกอร์วิกและโนอาห์ บวมแบช ผู้เข้าชิงรางวัล Oscar (“Marriage Story,” “The Squid and the Whale”) สร้างอิงจาก Barbie ของแมทเทล ผู้อำนวยการสร้างฯได้แก่ เดวิด เฮย์แมน ผู้เข้าชิงรางวัล Oscar ((“Once Upon a Time…in Hollywood,” “Marriage Story,” “Gravity”) ร็อบบี้ Robbie (“Birds of Prey,” “Promising Young Woman,” “I, Tonya”) and Oscar nominee Robbie Brenner (“Dallas Buyers Club”), อำนวยการสร้างบริหารฯ โดย เกอร์วิก, บวมแบช, ยอนครีซ, ริชาร์ด ดิคสัน, ไมเคิล ชาร์พ, โฮเซย์ แมคนามาระ, คอร์ทเนย์ วาเลนติ, โทบี้ เอ็มเมอริช และ เคท อดัมส์

วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส นำเสนอภาพยนตร์จาก a Heyday Films Production, a LuckyChap Entertainment Production, a Mattel Production เรื่อง “Barbie” ภาพยนตร์จัดจำหน่ายทั่วโลกโดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ 21 กรกฎาคม 2023 และเริ่มฉายต่างประเทศ 19 กรกฎาคม 2023

เกรต้า เกอร์วิก (ผู้กำกับฯ /ผู้เขียนบทฯ / ผู้อำนวยการสร้างบริหารฯ) 

การสร้าง “Barbie”...

“บาร์บี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เป็นที่รักและอยู่ในประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 60 ปี นับเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นสำหรับฉันในฐานะผู้เขียนบทฯ และผู้กำกับฯ ฉันมองหาความท้าทายที่สร้างความสนุกสนานมาตลอด อย่างผลงาน Little Women บาร์บี้คือสิ่งที่พวกเรารู้จักกันดี สำหรับฉันรู้สึกเหมือนเป็นตัวละครหนึ่งที่มีเรื่องราวให้ถ่ายทอด เป็นตัวละครที่ฉันเห็นความแปลกใหม่ในการพาเธอเข้าสู่โลกที่แปลกใหม่ สดใส และทันสมัย”

 การทำความเข้าใจบาร์บี้…

“ไอเดียเรื่องความหลากหลายของบาร์บี้และเคน เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกับแมทเทล ตอนที่ฉันเริ่มคุยเรื่องความแตกต่างของตัวละคร พวกเขาพูดว่า ‘ไม่นะ เราไม่มีตัวละครที่แตกต่างกัน สาวๆ ทั้งหมดนี้คือบาร์บี้’ ฉันเลยถามว่างั้นถ้าสาวๆ ทั้งหมดนี้คือบาร์บี้ แปลว่าบาร์บี้ก็คือสาวๆ ทุกคนนี้สิ พวกเขาตอบ ‘ใช่’”

 เรื่องราวของบาร์บี้ในอดีต…

“ฉันโตมาพร้อมกับบาร์บี้ค่ะ แต่ต้องรอเพื่อนบ้านตลอด’ เด็กๆ ต่างมีบาร์บี้ของตัวเอง และพวกเขาก็จะเอาบาร์บี้มาให้ฉันเล่นด้วย นั่นคือสิ่งสำคัญที่ฉันเฝ้ารอตลอด ฉันมีความทรงจำเกี่ยวกับบาร์บี้ที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยความสดใส และเป็นสิ่งที่มีความหมายมากค่ะ”

 มาร์โกต์ ร็อบบี้ ในฐานะผู้อำนวยการสร้างฯ…

“‘บาร์บี้มาถึงมือฉันผ่านมาร์โกต์ ร็อบบี้ค่ะ เพราะเธอคือคนที่ได้สิทธิ์และส่งต่อให้กับวอร์เนอร์ บราเดอร์ส ซึ่งเป็นผู้จัดการโปรเจ็กต์ทั้งหมด เราได้พบกันและฉันเองก็เป็นแฟนตัวยงของเธอในฐานะนักแสดง เราได้คุยกันก็ได้เห็นความน่าทึ่งของเธอในฐานะของผู้สร้างฯ ด้วย เธอฉลาดมากและมีส่วนร่วมอย่างเต็มตัว เรียกได้ว่าน่าสนใจจริงๆ”

 มาร์โกต์ ร็อบบี้ ในบทบาร์บี้…

“มาร์โกต์มีความเป็นบาร์บี้อย่างที่เราคิดภาพไว้ เหมือนที่เธอพูดไว้ในหนัง ‘ฉันคือบาร์บี้ในแบบที่ทุกคนคิดถึงบาร์บี้นั่นแหละ’ เวลาเรานึกถึงสาวแสนสวย น่ารักสดใส ผมสีบลอนด์ที่เคยผ่านตามาก็จะนึกถึงมาร์โกต์ แต่สิ่งที่ฉันอยากทำที่สุดคือให้เธอดูมีความตลกแหวกแนว เธอคือคนที่คุณจะได้ออกไปผจญภัยด้วยในหนัง และเนื่องจากเธอถ่ายทอดทุกอย่างได้เป็นธรรมชาติ เข้าใจง่าย และสะท้อนอารมณ์ได้ดีเวลาเจอเรื่องตลกและสนุกสนาน คุณจะไม่รู้สึกว่าขาดชีวิตชีวาไปเลย”  

 ไรอัน กอสลิง…

“เราเขียนบทนี้ขึ้นมาสำหรับไรอัน กอสลิงเป็นพิเศษ แม้ว่าเขาจะรับบทดราม่าได้เกง ฉันรู้ว่าเขาเป็นคนตลกมากอย่างที่เห็นจากการแสดงของเขาใน ‘Saturday Night Live’ จึงไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากไรอันเลยค่ะ”

 พูดถึงเรื่องสีชมพู…

“สิ่งแรกและสิ่งสำคัญคือฉันอยากให้บาร์บี้แลนด์เป็นดินแดนแห่งความสุข เหมือนตอนที่บาร์บี้อยู่ในจินตนาการวัยเด็กของเรา ช่วงวันแรกที่ได้พบกับ [ผู้ออกแบบฉาก] ซาราห์ กรีดวูด และทีมงานฝ่ายศิลป์ เรามองหาโทนสีชมพูทีต่างกันเพื่อดูว่าพวกเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ตอนเป็นเด็กฉันชอบสีชมพูที่สว่างสดใส แต่บาร์บี้แลนด์ก็จะเต็มไปด้วยสีสันที่สดใส สิ่งสำคัญคือต้องนึกภาพว่าสีชมพูสว่างเหล่านั้นจะต้องอยู่บนฉากของเรา มีสีชมพูพาสเทล และแน่นอนว่าจะต้องมีสีชมพูทุกโทนมาผสมระหว่างนั้นด้วย”

 ท้าทายเรื่องแรงโน้มถ่วง…

“ในบาร์บี้แลนด์ไม่มีพื้นที่สำหรับกฎของนิวตัน  ไมมีลม ไม่มีดวงอาทิตย์ ไม่มีแรงโน้มถ่วง และไม่มีน้ำ แต่ผู้สร้างภาพยนตร์อยู่ในโลกที่มีเรื่องฟิสิกส์ เมื่อต้องสร้างความสมจริงให้บาร์บี้แลนด์ จึงมีการสร้างกฎในบาร์บี้แลนด์และกฎสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ จนได้ผลลัพธ์จากการผสมผสานกันของทั้ง 2 สิ่ง ฉันหลงรักละครเวทีมิวสิเคิลยุค 1950 เป็นดินแดนที่สร้างขึ้นมาอย่างน่าทึ่ง และเพราะบาร์บี้ผลิตขึ้นเมื่อปี 1959 ทำให้รู้สึกว่าเรานำมาใช้อ้างอิงได้ทุกอย่างและไม่ต้องยกความดีความชอบให้กับอะไร ฉันอยากให้ทุกคนรู้สึกว่าสามารถสัมผัสในจอภาพยนตร์และทุกอย่างได้ เพราะนั่นคือข้อดีของตุ๊กตาและของเล่น ฉันจำตอนที่ยืนในร้าน Toys ‘R Us และดูบาร์บี้ ข้าวของเครื่องใช้พลาสติกของพวกเธอได้ ฉันรู้สึกอยากเข้าไปอยู่ในนั้นและหยิบจับทุกอย่างเลยค่ะ!”

 เพลงประกอบภาพยนตร์และเสียงดนตรี…

“ในภาพยนตร์มีเสียงเพลงเยอะมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญกับฉันสุดๆ บาร์บี้มีการมองโลกในแง่ดีสูงมาก ตอนที่เราเขียนบทฯ ต้องถ่ายทอดความสนุกสนานกับบรรยากาศที่ ‘ไม่มีใครอยากลุกขึ้นมาเต้น?’ ออกมาให้ได้ มาร์ค[รอนสัน] ตั้งใจหาศิลปินที่จะมาสร้างความมหัศจรรย์ให้บทเพลง ทั้ง Dua Lipa, Lizzo, Nicki Minaj, Karol G… อีกหลายคนเลย! นับว่าโชคดีมากที่ได้ร่วมงานกับศิลปินทุกคน มาร์คและแอนดรูว์ ไวแอตต์ ผู้ร่วมงานของเขาได้สร้างบรรยากาศความวุ่นวายของเค็นที่ไรอันเป็นคนร้องออกมาได้อย่างอลังการ เรามีเพลงช้าที่ทำให้ฉันร้องไห้ได้ตอนที่ฟังเพลง มาร์คและแอนดรูว์แต่งเพลงและทำนองในอีกหลายฉากเลยค่ะ”

 มาร์โกต์ ร็อบบี้ (“บาร์บี้” / ผู้อำนวยการสร้างฯ)

 สำหรับการสร้างฯ “Barbie”…

“บาร์บี้คือแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก สร้างความผูกพันให้กับผู้คน การสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับบาร์บี้ขึ้นมานับเป็นโอกาสสุดพิเศษ อย่างหนึ่งเราคิดว่าทำให้เราสร้างความพิเศษขึ้นมาได้อย่างที่ไม่คาดคิด สร้างความตื่นเต้นและพิถีพิถัน อย่างที่เกรต้าบอกไว้ว่ามันยังน่ากลัวด้วย! เรารู้ว่ามันเต็มไปด้วยความรับผิดชอบ ในฐานะของผู้ชมคนหนึ่งเข้าใจดีว่าทุกคนจะคิดและรู้สึกอย่างไรกับบาร์บี้ มันจะดีหรือไม่ดีกันแน่ เรียกได้ว่าเป็นความท้าทายครั้งใหญ่แต่เราก็พร้อมจะเผชิญหน้ากับมันค่ะ”

 พูดถึงเกรต้า เกอร์วิก…

“เกรต้าเป็นผู้กำกับฯ ผู้เขียนบทฯ ที่น่าทึ่งมากค่ะ เธอมีส่วนร่วมเต็มที่เพื่อจะสร้างยุคของพวกเราออกมา และความมหัศจรรย์ของเธอคือการเชื่อมโยงระหว่างโลกการสร้างภาพยนตร์แบบสมัยก่อนกับความเข้าใจ ความหลงใหลที่เธอมีเกี่ยวกับภาพยนตร์นับร้อยปี ผสมกับมุมมองที่ทันสมัยของมนุษย์โลกปัจจุบันนี้ค่ะ”

 “เกรต้ามีพลังวิเศษในการสื่ออารมณ์ที่สร้างขึ้นมาบนฉาก ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่เราอยากให้บาร์บี้แลนด์เป็น คือมีความสดใส ความสุข และสร้างแรงผลักดัน เกรต้าเป็นผู้กำกับฯ ที่เต็มไปด้วยความสุข น่ารัก และให้การสนับสนุนเต็มกำลัง แถมยังมีความสามารถพิเศษเหลือเชื่อด้วย มีพลังของบาร์บี้จริงๆ เลยค่ะ”

 ไรอัน กอสลิง…

“ฉันเห็นภาพไรอันมาตลอดค่ะ คุณอาจคิดถึงอีกหลายคนที่มารับบทเค็นได้ แต่ความจริงไม่ใช่เลย ไรอันมีคุณสมบัติครบทุกข้อ เขาเป็นนักแสดงบทดราม่าที่เก่ง เข้าใจเลือก เล่นบทโรแมนติกและคอมเมดี้ได้ ที่สำคัญคือเขาดูเหมือนเค็นและมีเสน่ห์ค่ะ”

 บาร์บี้แลนด์…

“เต็มไปด้วยความเรียบง่าย คุณมีรถ มีบ้าน และมีเค็นด้วย นั่นคือความสนุกของบาร์บี้แลนด์ เป็นโลกที่ต่างจากความจริงเพราะผู้ชายต้องคอยทำนั่นทำนี่ ส่วนบาร์บี้แลนด์จะตรงกันข้าม สาวๆ คือเหล่าบาร์บี้ต้องทำทุกสิ่ง”

“พวกเราจะเห็นว่าบาร์บี้ทุกคนมีบ้านในฝันของบาร์บี้เป็นของตัวเอง เมื่อพวกเธอตื่นตอนเช้าก็จะโบกมือทักทายกัน มองเห็นกันได้เพราะไม่มีผนังกั้น พวกเธอรักแบบนั้น ไม่มีอะไรต้องอาย เหมือนกับสวนแห่งเอเดนก่อนที่จะต้องสวมใส่เสื้อผ้า นั่นคือบาร์บี้แลนด์ต่างกันตรงที่พวกเธอสวมเสื้อผ้า และดูดีมีเสน่ห์มากด้วย!”

 การสวมชุดแบบบาร์บี้…

“การสวมเสื้อผ้าคือส่วนหนึ่งของวันที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับบาร์บี้ พวกเธอตื่นขึ้นมาบนเตียง โบกมือทักทายเพื่อนบ้าน แปรงฟัน อาบน้ำสระผม แต่งชุดสวยๆ เพราะออกไปใช้ชีวิต เธอเปิดประตูออกไปและสิ่งเดียวที่ต้องทำคือหมุนตัวและจัดการร่างกายตัวเอง เมื่อเธอออกไปข้างนอก เสื้อผ้าชุดใหม่สำหรับวันต่อไปก็อยู่ในตู้เสื้อผ้าด้านหลังเรียบร้อย”

 “คุณจะเห็นข้าวของเครื่องใช้ชาแนลเยอะมาก บาร์บี้ชอบชาแนล! ฉันมีชุดชาแนลที่ต้องสวมในเรื่องด้วย ภาพที่คิดไว้เกี่ยวกับบาร์บี้คือเธอมีเครื่องประดับทุกชิ้น และมักจะมีหมวก โบว์ ต่างหู และเครื่องประดับ พวกเครื่องประดับจะมีขนาดใหญ่สำหรับตุ๊กตา มีทั้งสร้อยคอและต่างหูพลาสติกใหญ่ๆ หมวกคือสิ่งที่ปกป้องพวกเธอจากแสงแดด และยังมีเครื่องประดับอื่นอย่างพวกกระเป๋า รองเท้า มีครบเลยค่ะ! เป็นอะไรที่สนุกมากเลย”

 “ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายของเรา แจ็คเกอลีน เดอร์แรน มีความน่าทึ่งมากค่ะ ความละเอียดอ่อนของเธอที่มีต่อภาพยนตร์ อาจไม่ใช่สิ่งที่เราสังเกตได้จากการดูหนังครั้งแรก แต่ถ้าอ่านถึงตรงนี้และได้ดูภาพยนตร์ คุณจะเห็นได้จากพัฒนาการผ่านแฟชั่นของบาร์บี้ในช่วง 10 ปี บาร์บี้ของเธอเริ่มจากการถูกจำกัด ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย เสื้อผ้าของเธอก็จะถูกจำกัดไปด้วย การตัดแต่งที่ดูสะอาด มีสิ่งก่อสร้างมากมายและใช้สีสันที่โดดเด่นเธอมีการพัฒนาตลอดเรื่องราว จนเริ่มเปลี่ยนแปลงเสื้อผ้าและดูสีสันอ่อนโยนลง”

 ไรอัน กอสลิง (“เค็น”)

บทภาพยนตร์…

“บทเรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงทุกอย่างที่ผมรักในช่วงที่โตขึ้นมา แต่มีความต่างจากสิ่งที่เคยเห็นมาก่อน มีความสนุกสนานไม่แพ้เรื่องราวสะเทือนใจ มีความไร้สาระไม่แพ้กับเรื่องที่ชวนให้คิดลึกซึ้ง มีครบทุกอย่างในเรื่องเลยครับ”

 เกรต้า เกอร์วิก…

“เธอมีสปิริตเหลือเชื่อ เป็นคนฉลาดที่พร้อมผลักดันทุกคนรอบตัว ไม่ให้ทุกคนจำกัดความสามารถตัวเอง ทำให้เราเข้าถึงบทบาทได้ทั้งดราม่าหรือคอมเมดี้”

 เค็น…

ตัวละครเค็นของผมถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเฝ้าดูความน่าทึ่งของบาร์บี้ ในเรื่องมีประโยคที่เขาพูดว่าเขารู้สึกอบอุ่นเวลาที่บาร์บี้มองดูเขา เขาไม่มีจุดยืนเป็นของตัวเองเลยมักจะพบเรื่องชวนปวดหัว แต่เขามีงานทำที่ ‘ชายหาด’ เขาไม่แน่ใจนักว่างานนั้นคืออะไรกันแน่ แต่เขาก็อยากทำให้ดีที่สุด”

 การผจญภัยของเค็น…

“สิ่งที่กระตุ้นให้เค็นออกไปผจญภัยร่วมกับบาร์บี้ คือเขาถูกเรียกว่าแฟนของเธอ แม้ว่าจะไม่เห็นความพิเศษอะไรในความสัมพันธ์นัก แต่พวกเขาก็ถูกจับคู่กันและเป็นเหตุผลที่มีเขาขึ้นมา มันเลยเป็นเรื่องยากสำหรับเค็นที่จะปล่อยให้เธอไปโดยไม่มีเขา”

 

TAGS: #Barbie #บาร์บี้ #เค็น #รีวิว #ภาพยนตร์