คอลัมน์ 'Growth and Sustainability' โดย 'วิฑูรย์  สิมะโชคดี'

ปัจจุบันประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมีอิทธิพลต่อธุรกิจอุตสาหกรรมและการค้าการลงทุนมากขึ้นทุกที  เพราะผู้บริโภคมีความอ่อนไหวต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และลูกค้ายินดีที่จะอุดหนุนผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย

ดังนั้นการลดปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม (การประกอบกิจการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม) ผู้บริหารจึงนิยมแก้ปัญหาดังกล่าว  โดยยึดหลักการบริหารจัดการแบบ “ป้องกันไว้ก่อน” คือ จัดทำ “ยุทธศาสตร์การจัดการสิ่งแวดล้อมเชิงรุก” (Proactive Environmental Strategy : PES)

ยุทธ์ศาสตร์การจัดการสิ่งแวดล้อมเชิงรุก คือ การวางแผนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องสำหรับโรงงานหรือสถานประกอบการเพื่อให้การประกอบกิจการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการมีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด

ปัจจัยสำคัญของยุทธศาสตร์การจัดการสิ่งแวดล้อมเชิงรุก (PES)  ได้แก่

1. การจัดทำยุทธศาสตร์ (Strategy) หมายถึง การตั้งเป้าหมายและกำหนดแผนการทำงานอย่างเป็นขั้นตอนเพื่อที่จะให้บรรลุตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้
2. การจัดการสิ่งแวดล้อม (Environmental Management) หมายถึง การดำเนินการด้วยมาตรการป้องกันเพื่อที่จะทำให้สิ่งแวดล้อมอยู่ในมาตรฐานที่กำหนด
3. การพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการสิ่งแวดล้อมเชิงรุก (PES) หมายถึง การวางแผนดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีการทำธุรกิจอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป็นแนวทางให้มีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

               การจัดทำยุทธศาสตร์การจัดการสิ่งแวดล้อมเชิงรุกนี้ จะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจอุตสาหกรรมสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดค่าใช่จ่าย  จากการลดการใช้วัตถุดิบ ลดการใช้พลังงาน และลดของเสียที่ต้องกำจัด  รวมทั้งสามารถสร้าง “คุณค่าสินค้า” ด้วยการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมออกวางขายในตลาด

ทุกวันนี้บริษัทชั้นนำของโลกและบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว จะมีการพัฒนายุทธศาสตร์ในการจัดการสิ่งแวดล้อมเชิงรุกสำหรับบริษัทตนเองซึ่งจะมีลักษณะเฉพาะเจาะจงและเหมาะสมกับความสามารถในการแก้ปัญหาและการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม รวมตลอดถึงด้านงบประมาณของบริษัทด้วย

เรื่องที่สำคัญที่สุด ก็คือ ความพร้อมด้านบุคลากร ครับผม !