BRANDi เปิดตัว SDG Cafe ที่แรกในไทย ชวนสร้างบรรยากาศแห่งความยั่งยืนเกิดขึ้นได้จริง หลังพบองค์กรไทย 25% พร้อมไปสู่อนาคตได้ทันก่อนปี 2030  

ปิยะชาติ (อาร์ม) อิศรภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ จำกัด ที่ปรึกษากลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านระบบ (Systematic Transformation) กล่าวว่าปัจจุบัน BRANDi ก้าวสู่การดำเนินธุรกิจปีที่ 12 ให้บริการองค์กรธุรกิจครอบคลุมมากกว่า 23 อุตสาหกรรม อาทิ ภาคพลังงาน การศึกษา และ การเงิน รวมถึงกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ด้วยโมเดลเกรท ทู โกรทธ์ (Great to Growth) ที่ปรึกษาพร้อมบ่มเพาะเอสเอ็มอีเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ร่วมกันในอนาคต  

ด้วยทิศทางของประเทศไทยนับจากนี้ไปจะต้องไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กับความยั่งยืน จาก 3 ส่วน คือ คน (People) โลก (Planet) และ กำไร (Profit) มาประกอบกัน เพื่อผลักดันไปสู่ ความพร้อมทางเศรษฐกิจในอนาคต (Future Ready Economy) ให้ได้ทันในอีก 6 ปีข้างหน้า หรือในปีค.ศ. 2030 ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ของแต่ละประเทศดำเนินการร่วมกันที่ตกลงร่วมกันในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น)

ขณะที่องค์กรธุรกิจ/ภาคเอกชนไทย จะเป็นกลไกหลักสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยั่งยืนในอนาคต ด้วยการนำรูปแบบ(Model)การกระจายความมั่งคั่ง (Wealth Distribution) มาใช้วางกลยุทธ์องค์กร จากโมเดลเดิมมุ่งเน้นสร้างความมั่งคั่ง (Wealth Create) ที่ใช้เป็นกลยุทธ์หลักไปสู่ความสำเร็จธุรกิจ

ด้วยปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง จากหลายปัจจัยเสี่ยงซึ่งมีผลกระทบต่อโลกต่ออย่างมาก อาทิ ความไม่แน่นอนของทรัพยากรโลก อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นจากการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม การเข้ามาของเทคโนโลยี ทำให้สายงานหลายล้านตำแหน่งถูกแทนที่ด้วยเอไอ รวมไปถึงปัญหารัฐศาสตร์การเมือง ก่อให้เกิดสครามการค้าโลก เป็นต้น  

ปิยะชาติ กล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านองค์กรอย่างเป็นระบบด้วยแนวคิดแบบโกลบอล สตราติจิก เพื่อเตรียมความพร้อมไปสู่ความยั่งยืนร่วมกันทั้งคน โลก และ กำไร ด้วยไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงหรือเจอความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมากแค่ไหน องค์กรก็ยังไปต่อได้

“ในปัจจุบันมีภาคองค์กรในไทยราวหนึ่งในสี่ หรือ 25% มีความพร้อมที่จะไปสู่เศรษฐกิจไทยในอนาคต”  ปิยะชาติ กล่าว

โดยการที่ประเทศไทยจะเปลี่ยนผ่านจากการเติบโตที่เปราะบาง ไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนนั้น สามารถทำได้อยู่สามระดับใหญ่ ๆ ได้แก่

1. การปรับจุดยืนของแบรนด์ หรือ Re-positioning  เปลี่ยนจากการ Capture Trend เป็นการ Capture Value
2. การปรับโมเดลของตลาด หรือ Re-modeling  เปลี่ยนจากการสร้างผลกำไร (Profitability Incentive) เป็นการสร้างผลกระทบเชิงบวก (Impact Incentive)
3. การปรับระบบของเศรษฐกิจ หรือ Re-engineering  เปลี่ยนจากการเติบโตโดยพึ่งพาทรัพยากร (Natural Resource-dependent Growth) เป็นการเติบโตโดยพึ่งพาทุนมนุษย์ (Human Capital-dependent Growth)

นอกจากนี้ เพื่อสร้างให้เกิดความเชื่อมโยงเพื่อไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG)ของยูเอ็น ตามกรอบที่กำหนดไว้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ล่าสุด BRANDi เปิดตัวต้นแบบ (Prototype) ‘เอสดีจี คาเฟ่ บาย แบรนดิ’ (SDG Café’ by BRANDi) พื้นที่ชวนคิดแห่งความคิดสร้างสรรค์เพื่อความยั่งยืนเป็นแห่งแรกในไทย ตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่แบรนดิ BRANDi HopeQuarter บนทำเลย่านเลียบด่วนรามอินทรา ด้วยบรรยากาศ (VIBES) หลายส่วนประกอบกัน พร้อมจุดประกายให้ นักคิด นักลยุทธ์การวางเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ตรงจากสภาพแวดล้อมภายในแบรนดิ โฮปควอเตอร์ แห่งนี้

“การสร้างบรรยากาศด้วยสภาพแวดล้อม ที่คำนึงถึงความยั่งยืนที่เกี่ยวโยงกันอย่างแท้จริง ผ่านการนำเสนอด้านต่าง ๆ ภายใน แบรนดิ โฮปควอเตอร์ เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยสร้างแรงบันดาลให้กับนักกลยุทธ์เอสดีจี ที่จะพาองค์กรไปสู่ความยั่งยืนให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น พร้อมวางแผนขยายสาขาเอสดีจี คาเฟ่ฯ เพิ่มขึ้นในระยะต่อไป ” ปิยะชาติ กล่าว