3 ทศวรรษ ‘เอ็กโก กรุ๊ป’ ย้ำยั่งยืน ‘คนอยู่ได้ ป่าอยู่ได้’ สะท้อนผ่านเลนส์ ‘ง่าย-งาม: Simply the Best’

3 ทศวรรษ ‘เอ็กโก กรุ๊ป’  ย้ำยั่งยืน ‘คนอยู่ได้ ป่าอยู่ได้’  สะท้อนผ่านเลนส์ ‘ง่าย-งาม: Simply the Best’
‘เอ็กโก กรุ๊ป’ ดำเนินธุรกิจถึงปัจจุบันร่วม 32ปี หนึ่งในองค์กรรายใหญ่ของไทยที่มุ่งขับเคลื่อนอุตฯพลังงานของไทย ให้เติบโตร่วมกับระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องอย่างยั่งยืน ด้วยความเชื่อ ‘ต้นทางดี ก่อให้ผลลัพธ์ดี'

จากจุดเริ่มต้น บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก (EGCO) ในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่รายแรกของไทย ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2535 ถึงในวันนี้บริษัทได้ขยายการทำธุรกิจในรูปแบบบริษัทร่วมทุน (โฮลดิง) ทั้งการถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ ในการผลิต จำหน่ายกระแสไฟฟ้า และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า รวมทั้งเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าเพื่อผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า

โดยการทำงานของ ‘เอ็กโก กรุ๊ป’ ที่ล่วงมาถึง 3 ทศวรรษในวันนี้ ยังสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจที่เผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและโลกที่เกิดขึ้นตลอดช่วงที่ผ่านมา ไปพร้อมกับให้ความสำคัญการสร้างความแข็งแรงร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในระบบนิเวศ (Ecosystem) ให้เติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน โดยส่วนหนึ่งผ่านการก่อตั้งและสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิไทยรักษ์ป่า องค์กรสาธารณกุศลเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าต้นน้ำที่สำคัญของประเทศ

เทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป และประธานกรรมการมูลนิธิไทยรักษ์ป่า กล่าวว่า “เอ็กโก กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจด้วยความเชื่อที่ว่า ‘ต้นทางดี จะก่อกำเนิดผลลัพธ์ปลายทางที่ดี’ จึงได้ส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าต้นน้ำที่สำคัญของประเทศ ซึ่งเป็นต้นทางของสรรพชีวิตและพลังงาน ผ่านการก่อตั้งและสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิไทย รักษ์ป่ามาอย่างต่อเนื่องกว่า 21 ปี”  

‘คนอยู่ได้ ป่าอยู่ได้’ สะท้อนผ่านเลนส์

ด้าน ‘มานนีย์ พาทยาชีวะ’ เลขาธิการมูลนิธิไทยรักษ์ป่า กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานชองมูลนิธิฯ ร่วม 2 ทศวรรษที่ผ่านมาอยู่บนหลักการที่ว่า ‘คนอยู่ได้ ป่าอยู่ได้’ พร้อมขับเคลื่อนภารกิจหลัก 3 ด้าน ได้แก่

  1. การอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้
  2. การสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายชุมชน
  3. การปลูกจิตสำนึกอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในเยาวชนและประชาชน

ล่าสุด เอ็กโก กรุ๊ป และ มูลนิธิฯ ได้หยิบภารกิจด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ โดยนำมาสื่อสารร่วมกับในสังคมวงกว้างทั่วไป ถึงความสัมพันธ์ของระบบนิเวศร่วมกันระหว่างคนและสัตว์ป่าซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ ด้วยยังเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ผ่านการจัดงาน ‘ง่าย-งาม: Simply the Best’ นิทรรศการภาพถ่ายที่ถ่ายทอดชีวิตสัตว์ป่าเมืองไทยในธรรมชาติที่งดงาม ด้วยมุมมองที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังของกลุ่มช่างภาพสัตว์ป่า

นำโดย คุณณรงค์ สุวรรณรงค์ และ 4 ช่างภาพเยาวชน ได้แก่ จอมทัพ เจริญลาภนำชัย, ธรรมบุญ อุยยานนวาระ, กตัญญู วุฒิชัยธนากร และ อันดร มีศรีดี

รวมถึงจัดแสดงผลงานภาพถ่าย ‘นกกินปลีหางยาวเขียวและกวางผา’ สัตว์ป่าที่โดดเด่นในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ EGCO Group และมูลนิธิไทยรักษ์ป่าดำเนินงานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 20 ปี  โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดจำหน่ายภาพถ่ายในนิทรรศการฯ จะมอบให้แก่องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์สัตว์ป่าเมืองไทย เช่น มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก เป็นต้น ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิทรรศการฯ ได้ที่ Facebook: ง่าย-งาม : Simply the Best Wildlife Photography Exhibition

มานนีย์  กล่าวต่อถึง แผนการดำเนินงานของมูลนิธิฯปี 2567 ในด้านการปลูกจิตสำนึกอนุรักษ์ป่าต้นน้ำและทรัพยากรธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนงานสำคัญ อีก 3 กิจกรรม ได้แก่

  • ค่ายเยาวชนเอ็กโกไทยรักษ์ป่า รุ่นที่ 57 ในเดือน มี.ค. 67 จะนำเยาวชนระดับชั้น ม.ปลาย ที่ผ่านการคัดเลือกประมาณ 60 คน นั่งรถไฟไปพักกางเต็นท์ที่  ป่าต้นน้ำ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เป็นเวลา 7 วัน 6 คืน เพื่อเรียนรู้ระบบนิเวศป่าต้นน้ำผ่านห้องเรียนธรรมชาติ โดยเยาวชนจะได้ร่วมเดินเท้าในเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานที่มีความหลากหลายด้านภูมิประเทศและชีวภาพ ตลอดจนได้รับมิตรภาพจากเพื่อนใหม่ทั่วประเทศ
  • การพัฒนาและปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 1 แห่ง ใน จ.ชัยภูมิ เพื่อให้เป็น “ห้องเรียนธรรมชาติ” สำหรับเยาวชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว ได้สัมผัสคุณค่าและความสำคัญของป่าต้นน้ำและทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนช่วยกันรักษาไว้เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นต่อไป
  • การอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชุมชนใน ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม โดยใช้กลไกคาร์บอนเครดิตเป็นแห่งแรกใน อ.แม่แจ่ม จำนวน 835 ไร่

ด้วยแผนงานผ่านกิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มสำคัญของ ‘เอ็กโก กรุ๊ป’ ในการวางรากฐานให้กับเยาวชนไทย เพื่อสร้างความผูกพันธ์ของคนและป่าให้อยู่ได้อย่างสมดุลและนำไปสู่ความยั่งยืน อันเป็นเป้าหมายร่วมกันในที่สุด

TAGS: #เอ็กโก #กรุ๊ป #EGCO