เบื้องลึกปมตั้ง "ชื่อพรรคใหม่" ทำดีลรวมพรรค "ไทยสร้างไทย-สร้างอนาคตไทย"ส่อล่ม
ปมกระแสข่าวร้อน พรรคสร้างอนาคตไทย ของ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" อดีตรองนายกรัฐมนตรี เตรียมหันกลับรังเก่าไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐของ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้น เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าว ยังปิดดีลไม่ลงตัวสำหรับการรวมตัวกันระหว่างพรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ และพรรคสร้างอนาคตไทยของ ดร.สมคิด ที่มีการเจรจามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างขั้วกลางทางเมืองในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นให้ได้
ทั้งนี้เมื่อก่อนปีใหม่แกนนำสองพรรคเปิดเเถลงข่าวยืนยันถึงการเป็นพันธมิตรทางการเมืองเพื่อจะรวมพรรค และ ล่าสุด นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคเเละนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย จะออกมายืนว่าในสองสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนในการรวมพรรค แต่ทว่าทั้งสองพรรคยังตกลงกันไม่ได้
ประเด็นจุดใหญ่ใจความสำคัญที่เป็นเงื่อนไขหลักที่ยังรวมกันไม่ได้ในเวลานี้ติดตรงชื่อพรรค โดยทางพรรคไทยสร้างไทย ต้องการให้คงชื่อเดิมไว้โดยให้เหตุผลว่า จากการหาเสียงที่ผ่านมา มีคนจำชื่อพรรคได้และมีกระแสนิยมมากขึ้นโดยเฉพาะนโยบายบำนาญประชาชน หากเปลี่ยนเกรงประชาชนจะสับสน แต่ทางพรรคสร้างอนาคตไทย ต้องการให้มีการเปลี่ยนชื่อ เนื่องจากไม่อยากให้ถูกมองว่าหมดหนทางจนต้องไปรวมกับพรรคอื่น
ในการนี้มีการเสนอชื่อพรรคใหม่ขึ้นมา นาม "พรรคสร้างไทย" แต่ทางพรรคไทยสร้างไทย อธิบายว่ามีคนจดทะเบียนพรรคนี้ไปแล้ว เพราะแรกเริ่มเดิมทีจะใช้ชื่อพรรคสร้างไทย แต่เมื่อจะไปจดทะเบียนปรากฏว่า มีมือดี นาม เจ๊ จ.จากพรรคเพื่อไทย ส่งคนไปจดทะเบียนดักหน้าเสียแล้ว จึงต้องตั้งชื่อเป็นพรรคไทยสร้างไทย
อย่างไรก็ตาม ในการเจรจาได้มีการเสนอชื่อ "พรรคไทยสร้างอนาคตไทย"แต่มีข้อท้วงติงว่าหากจะตั้งชื่อใหม่ควรจะให้สั้นเพื่อให้ประชาชนจำง่าย โดยทางฝ่ายพรรคไทยสร้างไทย ยังยืนยันให้ชื่อพรรคไทยสร้างไทย โดยให้มีสโลแกนเพื่อสร้างอนาคตไทย แต่ทางแกนนำพรรคสร้างอนาคตไทย ยังไม่เห็นด้วย โดยยังอยากจะให้เปลี่ยนชื่อล่าสุด เสนอชื่อเป็น "พรรคสร้าง"โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้ประชาชนจำง่ายขึ้น แต่มีแกนนำในพรรคไทยสร้างไทย ยังยืนยันจะใช้ชื่อพรรคไทยสร้างไทย จึงทำให้การดีลรวมพรรคยังสะดุดอยู่
สำหรับข้อตกลงในการรวมพรรคประเด็นเรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น จะมีการเสนอชื่อ คุณหญิงสุดารัตน์ และนายสมคิด คู่กันโดยไม่มีการจัดลำดับ ส่วนหัวหน้าพรรคนั้นเป็นคุณหญิงสุดารัตน์ เลขาพรรคนั้น ยังคงเป็น น.ต.ศิธา ทิวารี เนื่องจากนายสมคิด ไม่ขัดข้อง โดยให้ นายอุตตม เป็นประธานพรรค ส่วนกรรมการบริหารพรรคนั้นให้แบ่งกันฝ่ายละครึ่ง สำหรับผู้ที่จะลงสมัครหากพื้นที่ทับซ้อนกันจะใช้วิธีทำโพล
อย่างไรก็ตามระหว่างที่มีการเจราปิดดีล การรวมพรรคอยู่นั้น ทางฝ่ายพรรคพลังประชารัฐ ติดต่อมายัง พรรคสร้างอนาคตไทย ให้กลับไปรวมกับบิ๊กป้อม โดยจะให้เป็นทีมเศรษฐกิจของพรรค และ ข้อเสนอนี้มาในช่วงจังหวะ การรวมพรรคติดขิดพอดี จึงมีการปล่อยกระแสนี้ออกมา เพื่อหวังให้พรรคไทยสร้างไทยเร่งปิดดีลรวมพรรคโดยเร็วไม่เช่นนั้น พรรคสร้างอนาคตไทย ยังมีทางเลือกเพื่อไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐ
งานนี้หากท้ายสุด พรรคสร้างอนาคตไทย ต้องล้มดีลกับ พรรคไทยสร้างไทย โอกาสที่ "สมคิด" จะเลิกการเมืองไปเลี้ยงหลานมีสูง โดยปล่อยให้ " อุตตม สาวนายน" หัวหน้าพรรคเเละ "สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ไปอยู่กับพลังประชารัฐ
หมากเกมการเมืองเข้มข้นขึ้นทุกวันต้องตามกันไม่กระพริบ
