สถานการณ์ทางการเมือง หากประเมิน ณ เวลานี้ สูตรการตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งเบื้องต้นน่าจะมีด้วยกัน 5 สูตร โดยมีตัวเก็งนายกรัฐมนตรี 5คน "อุ๊งอิ๊งค์-เศรษฐา-บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม-อนุทิน"

การเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ บรรดานักวิเคราะห์ทางการเมือง ได้มีการประเมินความเป็นไปได้ถึงสูตรในการจัดตั้งรัฐบาลกันล่วงหน้าแล้ว โดยเบื้องต้นสูตรที่มีความเป็นไปได้มากสุดในเวลานี้ มีอยู่ด้วยกัน 5 สูตร

สูตรแรก  มี น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊งค์ และ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย เป็น นายกรัฐมนตรี โดยที่สูตรนี้ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ต้องได้เสียงสส.รวมกันเกิน 250 เสียง แล้วดึงพรรคพลังประชารัฐ ของลุงป้อม มาร่วมรัฐบาล เพื่อต้องการเสียงส.ว.มาร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยมีพรรคเข้าร่วมรัฐบาล อาทิ  เพื่อไทย/ก้าวไกล/พปชร.และพรรคอะไหล่ บางพรรค (ไทยสร้างไทย/ชาติไทยพัฒนา/ชาติพัฒนากล้า/ประชาชาติ/เสรีรวมไทย)

อย่างไรก็ตามสูตรนี้ จะเกิดขึ้นได้นั้น ทางพรรคก้าวไกลอาจต้องลดเงื่อนไขแก้ ม.112 ลง เนื่องจากพรรคเพื่อไทยไม่ต้องการกระแสต่อต้าน อีกทั้งพรรคก้าวไกลจะต้องยอมรับพปชร.ได้อีกด้วย ถึงจะตั้งรัฐบาลได้ แต่หากพรรคก้าวไกล ไม่ยอมลดเงื่อนไข ก็นำไปสู่การเกิดสูตรที่ 2

สูตรที่ 2 มี น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊งค์ และ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย เป็น นายกรัฐมนตรี โดยมีพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย เพื่อไทย/ภูมิใจไทย/พปชร.+ส.ว.ครึ่งหนึ่ง/พรรคอะไหล่ บางพรรค (ไทยสร้างไทย/ชาติไทยพัฒนา/ชาติพัฒนากล้า/ประชาชาติ/เสรีรวมไทย) สูตรนี้ จะเกิดขึ้นกรณีพรรคก้าวไกล ไม่ยอมลดเงื่อนไขข้างต้น ซึ่งทางเพื่อไทยต้องการรัฐบาลมีเสถียรภาพอาจดึง พรรคภูมิใจไทย มาเสียบแทน พรรคก้าวไกล

ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นสูตร1 หรือ สูตร2 คือผลการเลือกตั้งของขั้วฝ่ายค้านเดิม คือพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล รวมกันต้องได้เสียงส.ส.เกิน250 ที่นั่งก่อน เพราะจะทำให้การจะดึงพรรคการเมืองต่างๆมาร่วมรัฐบาลก็ไหลลื่นเป็นการสลายขั้วเดิมทันที ไม่ว่าจะเป็น พรรคพลังประชารัฐของลุงป้อม และพรรคภูมิใจไทยของเสี่ยหนู ที่พร้อมมาร่วมด้วย  เพราะหากสองพรรคตั้งเงื่อนไขข้อต่อรองสูงโอกาสเป็นฝ่ายค้านสูง

สูตรที่3 "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็น นายกรัฐมนตรี โดยที่พรรคการเมืองขั้วรัฐบาลเดิม ชนะเลือกตั้งโดยรวมกันแล้วได้เสียงสส.เกิน 250 เสียง พรรคร่วมรัฐบาลประกอบด้วย ภูมิใจไทย/ รวมไทยสร้างชาติ+ส.ว.ครึ่งหนึ่ง/พลังประชารัฐ +ส.ว.ครึ่งหนึ่ง/ประชาธิปัตย์/พรรคอะไหล่ บางพรรค (ชาติไทยพัฒนา/ชาติพัฒนากล้า/ไทยภักดี )โดยที่สูตรนี้พรรคลุงตู่ต้องได้ส.ส.มากกว่า พรรคลุงป้อม เพราะถ้าได้เสียงน้อยกว่าก็จะเกิดสูตรที่ 4 ขึ้น

สูตรที่ 4 "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แคนดิเดตนายกฯจากพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยที่สูตรนี้ พรรคพลังประชารัฐต้องได้ส.ส.มากกว่า พรรครวมไทยสร้างชาติของ "ลุงตู่"แต่ยังรวมอยู่ในขั้วรัฐบาลเดิม ประกอบด้วย ภูมิใจไทย/ รวมไทยสร้างชาติ+ส.ว.ครึ่งหนึ่ง/พลังประชารัฐ +ส.ว.ครึ่งหนึ่ง/ประชาธิปัตย์/พรรคอะไหล่ บางพรรค (ชาติไทยพัฒนา/ชาติพัฒนากล้า/ไทยภักดี )

สูตรที่ 5 "เสี่ยหนู"นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี โดยที่สูตรนี้ทางขั้วพรรคร่วมรัฐบาลเดิมชนะเลือกตั้งได้เสียงรวมกันเกิน250 เสียง โดยที่ นายเนวิน ชิดชอบ และ  นายอนุทิน สวมหัวใจสิงห์ไม่กลัวพรรคสีเขียว ยืนกรานจะเป็นนายกรัฐมนตรีเอง ในฐานะเป็นพรรคอันดับสอง รองจากพรรคเพื่อไทยที่ได้สส.มากสุด โอกาสของนายอนุทิน ก็มีสูงเช่นกัน โดยสูตรนี้มีพรรคร่วมประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย/ รวมไทยสร้างชาติ+ส.ว.ครึ่งหนึ่ง/พลังประชารัฐ +ส.ว.ครึ่งหนึ่ง/ประชาธิปัตย์/พรรคอะไหล่ บางพรรค (ไทยสร้างไทย/ชาติไทยพัฒนา/ชาติพัฒนากล้า/ไทยภักดี )

อย่างไรก็ตามการเมืองพลิกไปตามกระแส หลังการเลือกตั้งทุกพรรคยึดสมการตัวเลขเป็นหลักในการจัดตั้งรัฐบาล ฉะนั้นโอกาสเกิดสูตรต่างๆก็ย่อมเกิดขึ้นได้ แต่หากประเมินในสถานการณ์นี้ ในช่วงเวลานี้ โอกาสเป็นไปตาม 5 สูตรนี้ย่อมมีสูง