ผลโหวตประธานสภาโยงเลือกนายกฯพิธา

ผลโหวตประธานสภาโยงเลือกนายกฯพิธา
การที่พรรคภูมิใจไทย งดออกเสียงนั้น มีการประเมินว่า เพื่อจะทอดไมตรีกับพรรคเพื่อไทย ในการร่วมรัฐบาลกันในอนาคต หาก ส.ว.ไม่โหวตให้ นายพิธา  เป็นนายกฯ

ผลการเลือกประธานสภา จบลงไปแล้ว เป็นไปตามคาด โดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภา  นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภาคนที่  1 และ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาล  ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาคนที่ 2

ทั้งนี้ในส่วน ประธานสภา และรองประธานสภาคนที่ 2 พรรคฝ่ายค้านไม่ส่งคนแข่ง แต่ในการเลือกรองประธานสภาคนที่ 1นั้น พรรคฝ่ายค้านส่ง นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ลงแข่งกับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล  ซึ่ง ผลปรากฏว่า มติที่ประชุมเลือกนายปดิพัทธ์  ด้วยคะแนน 312 เสียง ส่วน นายวิทยา ได้ 105 คะแนน โดยมีผู้ งดออกเสียง 77 เสียง บัตรเสีย 2 ใบ จากสมาชิกที่มาลงมติทั้งหมด 496 คน 

ผลคะแนนจากการโหวตดังกล่าว ได้สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการเมืองที่อาจจะโยงไปถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในอีกไม่กี่วันข้างหน้าได้ ทั้งในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายค้าน

โดยในส่วนของฝ่ายรัฐบาลนั้น เสียงแน่นปึ้กได้ถึง  312 เสียงถือว่าสอบผ่านด่านลองของ จากพรรคฝ่ายค้าน  ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมีเสถียรภาพของพรรครัฐบาล 8 พรรค ในการที่จะโหวตให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อไป

แต่ทว่าอีกมุม การเลือกแข่งเฉพาะคนของพรรคก้าวไกล โดยที่ไม่แข่งกับคนพรรคเพื่อไทย แสดงให้เห็นว่า ในรัฐสภา พรรคก้าวไกล มีแรงต้านมากกว่าพรรคเพื่อไทย

ในส่วนของพรรคฝ่ายค้านที่เสียงแตกนั้น เบื้องต้นน่าจะมาจากที่พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง  งดออกเสียง และ พรรคประชาธิปัตย์ 25 เสียง ฟรีโหวต จนทำให้คะแนนงดออกเสียงมีมาก และคะแนนของพรรคร่วมรัฐบาลได้คะแนนเพิ่ม

อย่างไรก็ตามการที่ฝ่ายค้านเสียงแตกนั้น ไม่ได้หมายความว่า จะมีผลดีต่อพรรคก้าวไกล เนื่องจากพรรคภูมิใจไทย และ พรรคก้าวไกล ต่างประกาศไม่ร่วมรัฐบาลด้วยกัน  แต่การที่พรรคภูมิใจไทย งดออกเสียงนั้นมีการประเมินว่า เพื่อจะทอดไมตรีกับพรรคเพื่อไทย ในการร่วมรัฐบาลกันในอนาคต หาก ส.ว.ไม่โหวตให้ นายพิธา  เป็นนายกฯ เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่พร้อมจะเป็นรัฐบาลกับพรรคไหนขั้วไหนก็ได้

ฉะนั้นการเมืองจากนี้ไปต้องโฟกัสไปยังการเลือกนายกรัฐมนตรี  ซึ่งคงหนีไม่พ้นด่านของ ส.ว.ที่จะเป็นตัวชี้ขาดว่า นายพิธา จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งนายพิธา ต้องการเพียง 64 เสียงจาก250 เสียง ถึงขณะนี้พรรคก้าวไกลยังมั่นใจว่าจะได้ครบ และ ยิ่งเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลแน่น312เสียง "พิธา"ก็ยิ่งมันใจว่าจะได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี

ในขณะที่พรรคการเมืองอื่นทั้งในฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เชื่อว่า ส.ว.จะไม่โหวตให้นายพิธา สูง จึงได้มีการเตรียมสูตรจัดตั้งรัฐบาลไว้ล่วงหน้ากัน 

ฉะนั้นการโหวตเลือกประธานสภาครั้งนี้จึงถูกโยงไม่ยังการเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 
 

TAGS: #รัฐบาลก้าวไกล #พิธา #ประธานสภา