กลุ่มปตท.จัดงาน PTT Group CG Day 2023 ประกาศความโปร่งใสสู่การเป็น‘วัฒนธรรมองค์กร’ ชูแนวคิด “Good to Great : CG Empowering for the Future ผสานพลังร่วม รวมพลังสร้าง สู่อนาคตยั่งยืน”
นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทในกลุ่ม ปตท. ประกอบด้วย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) และ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ร่วมแสดงพลังขับเคลื่อนธุรกิจด้วยหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ในงาน PTT Group CG Day 2023 ครั้งที่ 15 ภายใต้แนวคิด “Good to Great : CG Empowering for the Future ผสานพลังร่วม รวมพลังสร้าง สู่อนาคตยั่งยืน” ซึ่งเป็นการแสดงพลังร่วมของกลุ่ม ปตท. ที่ให้ความสำคัญและส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล และต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ
นายนพดล กล่าวว่า กลุ่ม ปตท. ร่วมกันจัดงาน PTT Group CG Day อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นเวทีแสดงพลังร่วมของกลุ่ม ปตท. ในการมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล พร้อมส่งเสริมบุคลากรในกลุ่ม ปตท. ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการต่อต้านการทุจริตและ คอร์รัปชันในทุกรูปแบบ และนำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีไปปรับใช้ในการทำงานทั้งภายในและภายนอกองค์กร
นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันของกลุ่ม ปตท. ลูกค้า คู่ค้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจสู่อนาคตที่ยั่งยืน และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน
ทั้งนี้ งาน PTT Group CG Day 2023 จัดขึ้นในรูปแบบ Hybrid เพื่อตอบjสนองต่อรูปแบบการทำงานในปัจจุบัน มีผู้ร่วมงาน ณ ห้อง Synergy Hall ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคาร C กว่า 400 คน และมีผู้ร่วมงานผ่านระบบออนไลน์จากทั่วประเทศ
ขณะเดียวกันได้จัดให้มีการสดงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารระดับสูงของกลุ่ม ปตท. การประกวดผลงานด้าน CG ของพนักงานกลุ่ม ปตท. และการเสวนาหัวข้อ CG Talk : Great of Trust โดย ผศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาเศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ
นอกจากนี้ ภายในงานมีการจัดนิทรรศการ รวมไปถึงกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้ด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี แก่ผู้บริหาร พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า แขกรับเชิญจากหน่วยงานต่าง ๆ และสื่อมวลชน อีกด้วย
สำหรับการแสดงวิสัยทัศน์ผู้บริหารระดับสูงกลุ่มปตท. นายวุฒิกร สติฐิคต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัทปตท. กล่าวว่า Greater Culture ปตท.ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน นำไปสู่ความยั่งยืน ซึ่งเชื่อว่าการกำกับกิจการที่ดีจะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการขับเคลื่อนให้ปตท.มีความยั่งยืน สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากพนักงานที่เป็นผู้ปฏิบัติขององค์กรจะต้องทำในเรื่อง CG
ดังนั้น วัฒนธรรมในการขับเคลื่อนองค์กร ที่ใช้หลักคิด SPIRIT ที่ประสบความสำเร็จแล้ว ต้องดำเนินการทั้งภายในและภายนอก ที่สำคัญหากพบเห็นการทุจริต จะมีช่องทางในการแจ้งให้ทราบ ขณะเดียวกันพนักงานต้องเข้าใจเรื่องเสี่ยง พนักงานต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง และเราไม่ยอมรับในเรื่องทุจริต
นอกจากนี้ภายนอกกับผู้ค้าต่างๆเรามีระบบสกรีนนิ่ง ประสงค์ให้ผู้ค้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งต้องการให้ปตท.เป็นองค์กรความโปร่งใสเพราะเราเชื่อว่า จะทำให้เราโตแบบยั่งยืน สร้างภูมิคุ้มกันที่ถูกต้อง
ด้านนายสัมฤทธิ์ สำเนียง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินและการบัญชี. บริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ. กล่าวว่า Greater Innovation ของปตท.สผ. นั้นในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในธุรกิจอย่างมาก ทุกบริษัทมีเรื่องของดิจิทัลเป็นองค์ประกอบ การนำระบบ Good Corporate Governance CG เข้ามาใช้ในงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดต้นทุน การพัฒนาบุคคลากร
ทั้งนี้ CG มักจะผูกติดกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น โดยนำเรื่องดิจิทัลเข้ามาปรับใช้ ซึ่งในแวดวงทำธุรกิจ ถ้ามีข้อมูลผิดปกติเกิดขึ้นใน จะมีการส่งแมสเซทถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้สามารถแก้ไขได้เร็ว สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ด้าน นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC) กล่าวว่า Greater Living การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดี ต้องดำเนินการควบคู่ไปกับความยั่งยืนที่จะเกิดขึ้น ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาล ทั้งนี้การออกผลิตภัณฑ์พลาสติกต่างๆต้องสอดคล้องกับเทรนด์ของโลก ทำให้ชีวิตเราปลอดภัยและเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันกระบวนการผลิตต้องดีต่อโลกด้วย ดังนั้นจึงต้องนำเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียนเข้าปรับใช้ และที่สำคัญคือการทำงานของ GC ต้องดีจากข้างใน การติดต่อกบซัพพลายเออร์ ตลอดจนลูกค้าต้องมีกระบวนการทางความคิดที่ดีด้วย ซึ่งทั้งหมดต้องมีพื้นฐานหลักธรรมาภิบาลที่ดี โดยเฉพาะวัฒนธรรมองค์กรต้องเห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน
นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่. บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) กล่าวว่า Greater Sustain ของไทยออยล์อยากเป็นองค์กรที่เติบโตยั่งยืน เราผลิตน้ำมันเป็นหลัก มีอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง อนาคตสัดส่วนการใช้รถยนต์ก็เพิ่มขึ้น เป็นความท้าทายเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป สิ่งเหล่านี้ต้องมีการบริหารจัดการ โดยเฉพาะมีเป้าหมายสู่ NET ZEROในปี 2060
ขณะที่ต้องมีการสร้างความผูกพันทางสังคม และชุมชนต้องเติบโตไปด้วยกัน สำหรับการสร้างธรรมาภิบาลที่ดี สร้างความโปร่งใส่ให้เป็นที่ยอมรับ ต้องมีตัวชี้วัดภายในองค์กร มีคู่มือ CG ในการยึดถือปฏิบัติ ซึ่งผู้บริหารต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพนักงานด้วย
นายกฤษณ์ อิ่มแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการรผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) กล่าวว่า Greater People หลักของบริษัทคือคนที่จะมาขับเคลื่อนองค์กรให้ยั่งยืน เราต้องสร้างวัฒธรรมองค์กรให้พนักงานเข้าใจถึงเรื่องการบริหาร หาวิธีการบอกกล่าวหรือสื่อสารพนักงานให้มีความโปร่งใส ขณะที่ความรับผิดชอบทุกคนต้องมีบนพื้นฐานของความถูกต้อง
นอกจากนี้จะสร้างให้รับผิดชอบในสิ่งที่เราตัดสินใจ โดยทั้งหมดผ่าน G3 คือ Good Great Growth ค่านิยมของ IRPC ที่เราปฏิบัติมา อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากของธุรกิจปิโตรเคมีที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ความสามัคคี ความเป็นปึกแผ่น ความมุ่งมั่นในช่วงเวลานี้ สร้างได้ง่าย
นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) กล่าวว่า หากมองธุรกิจไฟฟ้าที่ดำเนินการอยู่ ถือกิจการที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาก แต่การใช้ไฟฟ้าจะต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทาย โดยมีการตั้งเป้าหมาย ปลายปี 2030 จะมีโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนให้ได้ 15,000 เมกะวัตต์ การส่งมอบสินค้าและธุรกิจของเราในอนาคตจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) กล่าวว่า โออาร์ดูแลใกล้ชิดกับสังคมมากเพราะเราเป็น Customer Gateway ขณะเดียวกันด้วยวิสัยทัศน์ได้ให้ความสำคัญกับนักลงทุนที่จะเติบโตร่วมกัน ปัจจุบันเรามีสถานีบริการกว่า 2,000 แห่ง มีอะเมซอน 4,000 แห่ง เราเป็นผู้ให้โอกาสกับผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดความสมดุล จะเห็นได้ว่าเรามีแบรนด์มากมาย อยากให้รู้ว่าโออาร์จะประกอบธุรกิจไปกับเอสเอ็มอีขนาดกลาง ขนาดเล็ก เพื่อที่จะเติบโตร่วมกัน
สิ่งที่ต้องทำคือนำระบบดิจิทัลเข้ามาใช้ในธุรกิจ เช่นการประเมินศักยภาพของทำเลที่ตั้งของปั๊มให้เกิดความเหมาะสม นอกจากนี้เราต้องการกระจายรายได้ในชุมชนควบคู่ไปด้วย โดยทั้งหมดเราต้องมีหลักธรรมาภิบาลที่ดี