Bloomberg สำรวจความเห็นนักลงทุนทั่วโลก เห็นพ้องท่ามกลางปัจจัยยากจะคาดการณ์ ถ้าอยากเกษียณแบบสบาย ควรมีเงินเก็บอย่างน้อย '100 ล้านบาท'
ท่ามกลางความผันผวนทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ตลอดจนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วและยากจะคาดการณ์ในอนาคตจึงเกิดคำถามว่า เราควรวางแผนทางการเงินอย่างไรให้สามารถรับมือต่อความผันผวนเหล่านั้นได้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้ทำการสำรวจความคิดเห็นจากนักลงทุนทั่วโลกราว 553 ราย โดยชี้ว่าหากต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีหลังเกษียณควรมีเงินเก็บอย่างน้อย 3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 100 ล้านบาท
บรรดานักลงทุนที่ตอบแบบสำรวจยังมั่นใจอีกว่าภายในสิ้นปี 2023 นี้ เงินออมขั้นต่ำเพื่อการเกษียณจะสูงขึ้นกว่าปี 2022 ซึ่งนักลงทุนยังเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะเข้าใกล้เป้าหมายการเกษียณอายุมากขึ้น แต่สิ่งที่ไม่ชัดเจนคือพวกเขาจะยังมีเงินเก็บเพียงพอสำหรับมาตรฐานค่าครองชีพในอนาคตหลังจากเกษียณจากการทำงานหรือไม่
การขาดความเชื่อมั่นในมาตรฐานครองชีพสส่วนใหญ่ได้รับปัจจัยจากภาวะอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น นับตั้งแต่สงครามรัสเซียบุกยูเครน โดยจากข้อมูลของ Vanguard Group ที่ปรึกษาด้านการลงทุนของสหรัฐ พบว่า รายรับชาวอเมริกันวัยเกษียณผ่านเงินออมในกองทุนต่างๆ มีรายรับลดลงเฉลี่ย 20% จากปัจจัยของดอกเบี้ยธนาคารกลางที่สูงขึ้น เงินเฟ้อ ตลอดจนการลดลงของราคาหุ้นและพันธบัตร
แม้ว่าด้วยราคาหุ้นทั่วโลกที่พุ่งสูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น จะทำให้มูลค่าของเงินออมเพื่อการเกษียณอายุเหล่านั้นมีมูลค่าสูงขึ้นตาม ทว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน ทำให้ความคาดหวังสำหรับผลตอบแทนจากสินทรัพย์ยังคงไม่ชัดเจนในปีนี้
ทั้งนี้ แม้จะมีอนาคตทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน แต่นักลงทุนราว 56% ที่ตอบผลสำรวจของบลูมเบิร์กมองว่า พวกเขายังไม่ได้เปลี่ยนแผนการเกษียณอายุ ขณะที่ร้อยละ 8 ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าพวกเขายังไม่รู้จะเกษียณอายุเมื่อใด