สีจิ้นผิงจะเซอร์ไพรซ์ไปเยือนมอสโกหรือไม่ หลังโจ ไบเดน บินเงียบเยือนเคียฟ ท่ามกลางสงครามยูเครนที่ขัดแย้งครบปี
เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานอ้างแหล่งข่าวระดับสูงในมอสโกว่า ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ผู้นำจีน อาจมีกำหนดการเดินทางเยือนรัสเซียเพื่อหารือแบบทวิภาคีกับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน โดยแหล่งข่าวอ้างว่าการประชุมดังกล่าวของทั้งสองผู้นำ ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเจรจาสันติภาพแก้ไขความขัดแย้งในยูเครน หลังจากที่สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนกำลังจะครบ 1 ปีในวันที่ 24 ก.พ.นี้
รายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัล สอดคล้องกับรอยเตอร์ที่อ้างแหล่งข่าวเจนกันว่า การประชุมระหว่างสองผู้นำยังอาจเกิดขึ้นในช่วง เดือนเม.ย.หรือพ.ค. แต่ยังคงไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนหรือกำหนดเวลาที่แน่นนอน ทว่าอาจเป็นช่วงใกล้เคียงวันเฉลิมฉลองแห่งชัยชนะ (Russia victory day) ที่รัสเซียจะมีการจัดพิธีสวนสนามของกองทัพอย่างยิ่งใหญ่ที่มีชัยต่อนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สอง วันที่ 9 พฤษภาคมนี้
ก่อนหน้านี้ ปธน.สี และปธน.ปูติน ได้สนทนาผ่านระบบวิดีโอลิงค์ในวันที่ 30 ธ.ค.2022 ซึ่งปธน.ปูตินได้เชิญผู้นำจีนทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2023
ทั้งนี้ เมื่อ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ปธน.ปูตินได้กล่าวในตอนหนึ่งของการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Nation Address) ต่อสมัชชาแห่งชาติรัสเซีย (สภาดูม่า) โดยว่า รัสเซียจะยังคงเดินหน้าทำสงครามในยูเครนต่อไป ทั้งว่าสหรัฐและพันธมิตรจากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เป็นฝ่ายโหมให้ไฟแห่งความขัดแย้งยังคงลุกลามจนสงครามยืดเยื้อถึงทุกวันนี้
"เราไม่สงสัยเลยว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 มีการเตรียมการสำหรับการโจมตีดอนบาส รัฐบาลกรุงเคียฟได้จัดหาอาวุธเพื่อโจมตีดอนบาสตั้งแต่ปี 2014 และได้ทำการโจมตีเรื่อยมา ความจริงที่่เกิดขึ้นตรงข้ามทั้งหมดกับรายงานของสหประชาชาติ ผมขอย้ำว่าพวกเขา (ยูเครน) เป็นฝ่ายเริ่มต้นสงครามก่อน เราจะใช้กำลังทหารยุติสงคราม"
หวังอี้ นำร่องสี พบปูติน
ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานเมื่อ 22 ก.พ.เช่นกันว่า นายหวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้เดินทางเยือนกรุงมอสโกของรัสเซียอย่างเป็นทางการ พร้อมหารือกับวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย โดยว่าความสัมพันธ์จีน-รัสเซียมีรากฐานทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่มั่นคง ทั้งมีความสงบและความสุขุมจากการทบทวนประสบการณ์ที่ผ่านมา นักการทูตอาวุโสของจีน ระบุว่าสถานะหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านแห่งความร่วมมือในยุคใหม่ระหว่างจีน-รัสเซียไม่เคยมุ่งเป้าไปยังบุคคลที่สาม และไม่ยินยอมให้มีการแทรกแซงหรือบีบบังคับจากบุคคลที่สามเช่นกัน
หวัง ซึ่งเป็นสมาชิกกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคฯ ชี้ว่าที่สำคัญกว่านั้น โลกหลายขั้วและประชาธิปไตยที่ดียิ่งขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่จีนและรัสเซียร่วมกันสนับสนุน ยังสอดคล้องตามกระแสนิยมของยุคสมัยและความปราถนาของประเทศส่วนใหญ่
หวังส่งคำทักทายอันอบอุ่นจากสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ถึงปูติน โดยระบุว่าประธานาธิบดีทั้งสองได้จัดการประชุมผ่านทางระบบวิดีโอที่สำคัญเมื่อปลายปี 2022 ซึ่งได้กำหนดแนวทางสำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคีในปีใหม่นี้
หวังกล่าวว่าปัจจุบันสถานการณ์ระหว่างประเทศมีความสลับซับซ้อนและน่าหวาดกลัว ทว่าความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย ซึ่งยืนหยัดผ่านบททดสอบการเปลี่ยนแปลงรุนแรงของสถานการณ์โลกนั้น เติบโตเต็มที่ แข็งแกร่ง และมั่นคงเสมือนขุนเขาไท่ซาน พร้อมชี้ว่าแม้วิกฤตและความวุ่นวายจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ความท้าทายและโอกาสก็เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน ซึ่งนี่คือกระบวนการวิภาษวิธีแห่งประวัติศาสตร์
นอกจากนั้นหวังเผยว่าจีนยินดีทำงานร่วมกับรัสเซียเพื่อรักษาแนวทางแก้ไขเชิงกลยุทธ์ เพิ่มความไว้วางใจทางการเมือง เสริมสร้างการประสานงานเชิงกลยุทธ์ ขยับขยายความร่วมมือในทางปฏิบัติ และปกป้องผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของจีนและรัสเซีย เพื่อให้ทั้งสองประเทศดำเนินบทบาทสร้างสรรค์ในการส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาโลก
ด้านปูตินได้ส่งคำทักทายจริงใจถึงประธานาธิบดีสีจิ้นผิง โดยกล่าวว่าการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ได้เปิดโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาของจีน
ปูตินกล่าวว่าปัจจุบันความสัมพันธ์รัสเซีย-จีนกำลังเคลื่อนไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ ขณะความร่วมมือทวิภาคีในด้านต่างๆ และการประสานงานในองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) กลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS) และองค์กรพหุภาคีอื่นๆ ล้วนประสบผลสำเร็จ
ปูตินเสริมว่าการเสริมสร้างความสามัคคีและการประสานงานในกิจการระหว่างประเทศมีความสลักสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมประชาธิปไตยที่ดียิ่งขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงความสมดุลและเสถียรภาพของภูมิทัศน์ระหว่างประเทศ
ระหว่างการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นยูเครนกับปูติน หวังชื่นชมการยืนยันของรัสเซียในความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาผ่านการพูดคุยและการเจรจา
หวังระบุเพิ่มเติมว่าจีนจะรักษาจุดยืนที่เป็นกลางและยุติธรรมเฉกเช่นเคย และจะดำเนินบทบาทสร้างสรรค์ในการแก้ไขวิกฤตด้วยวิธีการทางการเมือง