มันคือโควิดกลายพันธุ์หรือไม่? ตอบคำถามเรื่องเชื้อไมโคพลาสมาระบาดที่จีน
สิ่งที่กำลังระบาดในจีนที่ชาวโลกเริ่มให้ความสนใจในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน คือ โรคปอดบวมไมโคพลาสมา (Mycoplasma pneumonia) เป็นโรคปอดบวมแบบหนึ่ง เกิดจากแบคทีเรียสายพันธุ์ Mycoplasma pneumoniae โดยรวมแล้วมีอาการคล้ายกับโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) พบมากที่สุดในเด็ก แม้ว่าคนทุกวัยจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อก็ตาม
มันใช่การกลายพันธุ์ของโควิดหรือไม่? คำถามนี้กลายเป็นแฮชแท็กในโซเชียลมีเดียของจีน คือ #支原体肺炎是新冠的变异吗# (โรคปอดบวมไมโคพลาสมาคือการกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่) แต่กระแสวิตกนี้ มีคำตอบโต้มาจากแพทย์จีน คือ ดร.ไหลจื้อเหวิน กล่าวว่า "ทั้งสองไม่เหมือนกัน (อย่างหนึ่งเป็น)ไวรัส และ (อีกอย่างคือ) ไมโคพลาสมา ต่างสายพันธุ์กันแต่รักษายากทั้งคู่"
ดร.ไหลจื้อเหวิน กล่าวในเพจเวยปั๋วของเขาว่า "ไม่มีวิธีรักษาเฉพาะสำหรับโรคโควิด-19 การดื้อยาไมโคพลาสมาก็รุนแรงมากขึ้นเช่นกัน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายคุณ" ทั้งนี้ วิธีการรักษา โรคปอดบวมไมโคพลาสมา มักใช้ยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์เฉพาะกับเชื้อโรคที่ทำให้เกิดโรคนี้ แต่ หลัวอีจวิน ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมโรคของไต้หวันกล่าวว่า โรคปอดบวมจากเชื้อไมโคพลาสมามีความต้านทานต่อยาปฏิชีวนะสูงในประเทศจีน
ดร.ไหลจื้อเหวิน เทียบตัวอย่างของสหรัฐที่มักมีผู้เสียชีวิตหลายพันหรือนับหมื่นคนต่อปีจากการระบาดของไข้หวัดใหญ่ แต่สิ่งที่น่ากลัวว่าก็ยังเป็นโควิด ดังนั้น ดร.ไหลจื้อเหวิน จึงแนะนำว่า "ดังนั้นทุกคนควรสวมหน้ากากอนามัย! ชีวิตไม่ใช่ของได้มาง่ายๆ จงป้องกันตัวเอง"
ด้านสื่อในจีน คือ China Media Group (หรือ 中央广播电视总台) ได้เชิญศาสตราจารย์จางเหวินหง แห่งโรงพยาบาลหัวซาน ในเครือมหาวิทยาลัยฟู่ต้าน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน, หลิวชิงเฉวียน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนปักกิ่ง ในเครือ Capital Medical University (首都医科大学) และ ถงเจาฮุย รองประธานโรงพยาบาลปักกิ่งเฉาหยาง ในเครือ Capital Medical University และผู้อำนวยการสถาบันโรคทางเดินหายใจแห่งปักกิ่ง ผู้เชี่ยวชาญอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจที่มีความเข้าใจผิดแพร่หลายบนอินเทอร์เน็ต
ถงเจาฮุย กล่าวว่า ทั้งทั้งโควิดและเชื้อไมโคพลาสมาไม่เกี่ยวข้องกัน มนุษย์ค้นพบจุลินทรีย์ไมโคพลาสมาเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 และไม่ได้ถูกกำหนดให้เป็นเชื้อโรคจนกระทั่งปลายศตวรรษที่ 20 ส่วนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทุกคนรู้จักมันในช่วงปลายปี 2019 ส่วนสาเหตุว่าทำไมเด็กจึงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไโคพลาสมาเป็นพิเศษ? ถงเจาฮุย กล่าวว่าระบบภูมิคุ้มกันของเด็กยังไม่พัฒนาเต็มที่ และการต้านทานยังไม่ดีเท่าผู้ใหญ่ ดังนั้นพวกเขาจึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากกว่า
กับคำถามว่าทำไมถึงต้องมีการใช้วิธีการให้ยาทาง IV หรือการให้ยาทางสายหรือการฉีดเข้าหลอดเลือดดำ (ซึ่งภาพที่ออกมาทำให้เกิดความกังวลว่าการระบาดรุนแรง) แต่จางเหวินหงกล่าวว่า โดยทั่วไปการให้ยาทาง IV จะจำกัดเฉพาะผู้ป่วยอาการหนักที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น หรือยาบางชนิดไม่สามารถรับประทานได้ และให้ได้ผ่านการให้ยาเท่านั้น สำหรับโรคไข้หวัดทั่วไปยารับประทานจะทำงานได้ดีกว่า
ตามข้อมูลที่จีนให้กับองค์การอนามัยโลก (WHO) การระบาดของโรคปอดบวมจากเชื้อไมโคพลาสมาในจีนเริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคมปีนี้ โดยมณฑลทางตอนเหนือของจีนมีรายงานการเจ็บป่วยของโรคนี้เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 5 สัปดาห์นับตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม หลังจากเดือนตุลาคม โรคระบบทางเดินหายใจระบาดเพิ่มขึ้นทั่วประเทศในจีน เนื่องมาจากเชื้อโรคหลายชนิดแพร่หลาย แต่เป็นเชื้อโรคที่รู้จักกัน ซึ่งรวมถึงไวรัสที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจด้วย
การระบาดรุนแรงขึ้นเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ของเดือนพฤศจิกายนเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนๆ คิดเป็นร้อยละ 6.2 ของผู้ป่วยที่ได้รับรายงานทั้งหมดที่โรงพยาบาลทางตอนเหนือของจีน ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.5 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันในช่วงสามปีที่ผ่านมา