ชาวไทยเปิดศึกกัมพูชา อ้างเจ้าหญิงเขมรไปออกรายการของจีนโดยใส่ชุดคล้ายไทย

เป็นเรี่องราวใหญ่โตเมื่อผู้ใช้โซเชียลมีเดียในไทยโจมตี นโรดม เจนณา (Norodom Jenna) ธิดาในพระองค์เจ้านโรดม บุปผารี และเป็นพระปนัดดาในเสมเด็จพระมหิสสรานโรดม จักรพงศ์ ซึ่งเป็นพระโอรสของพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ กษัตริย์กัมพูชาพระองค์ที่แล้ว 

สาเหตุสืบเนื่องมาจาก นโรดม เจนณา ไปปรากฏตัวในรายการของสถานีโทรทัศน์ CCTV1 ของรัฐบาลจีน โดยไปแสดงการร้องเพลงในภาษาเขมร และหลังจากนั้นให้สัมภาษณ์กับทางรายการ เรื่องการแสดง โดยชุดที่นโรดม เจนณา ใส่เป็นเรื่องแต่งกายแบบเขมรประเภทหนุ่ง คือสวมผ้านุ่งจับจีบหน้านาง คาดเข็มขัดทอง แล้วห่มสไบปักทับ ซึ่งดูคล้ายกับชุดไทยมาก แต่สิ่งที่แตกแต่งคือชุดเขมรจะปักลายสไบที่แตกต่างจากลายไทยและมีลวดลายที่หนากว่า ไม่อ่อนช้อยเหมือนของไทย

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้โซเชียลมีเดียในไทยมีความไม่พอใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ที่มีชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่งเริ่มที่จะใส่ชุดแบบดั้งเดิมที่คล้ายกับชุดไทยมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่บางชุดที่ชาวเขมรสวมใส่ทุกวันนี้ยังเหมือนกับชุดไทยประยุกต์ ที่วางจำหน่ายในร้ายค้าออนไลน์ของไทย 

ยังไม่นับข้อกล่าวหาของนักออกแบบเสื้อผ้าชาวไทยบางคนที่ชี้ให้เห็นว่าการออกแบบชุดไทยประยุกต์ของพวกเขา ถูกลอกเลียนแบบโดยชาวกัมพูชา แถมยังอ้างว่าเป็นผลงานของกัมพูชา

ความไม่พอใจเป็นทุนเดิมเหล่านี้ ทำให้ผู้ใช้โซเชียลฯ ชาวไทยโจมตี นโรดม เจนณา อย่างรุนแรง ว่านำวัฒนธรรมไทยไปอ้างว่าเป็นของกัมพูชา ซึ่งแม้ว่าชุดไทยกับชุดเขมรจะมีความคล้ายกัน แต่คนไทยยิ่งไม่พอใจมากขึ้นอีก เพราะสังเกตเห็นว่าชุดของ นโรดม เจนณา ทำให้คล้ายของไทยโดยติด "พระนพรูปหงส์คาบหยาดเพชร" ซึ่งเป็นหงส์ตัวเล็กๆ ที่ประดับที่บ่าเวลาห่มสไบ และในสายตาของคนไทยพระนพรูปหงส์คาบหยาดเพชร เป็นเครื่องประดับที่คู่กับพระบรมวงศ์ชั้นสูงของไทย

ประเด็นเรื่อง "พระนพรูปหงส์คาบหยาดเพชร" มีส่วนทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่คนไทยต่อ นโรดม เจนณา อย่างรุนแรง จนกระทั่งเข้าไปแสดงความเห็นวิจารณ์ในช่องของ CCTV1 ของรัฐบาลจีนที่ นโรดม เจนณา ไปแต่ง "ชุดคล้ายไทย" ออกรายการ จนกระทั่งทางรายการต้องปิดคอมเมนต์

แต่คนไทยจำนวนหนึ่งยิ่งไม่พอใจ กล่าวหาว่าจีนเข้าข้างกัมพูชา จนกระทั่งประเด็นการแย่งชิงวัฒนธรรมระหว่างสองชาติลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งที่โยงไปถึงประเทศที่สามไปแล้ว 

ดราม่าครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป