ทำไมคำทำนายของนอสตราดามุสถึงเชื่อถือไม่ได้

ทำไมคำทำนายของนอสตราดามุสถึงเชื่อถือไม่ได้
ทำไมถึงเชื่อถือไม่ได้? ทำนายของนอสตราดามุส จริงๆ แล้วมันไม่ได้แม่นเหมือนที่คุยกันไว้

ข้อมูลเบื้องหลัง

  • มิเชล เดอ นอสเตรดาม (เกิดธันวาคม ค.ศ. 1503 – ตายกรกฎาคม ค.ศ. 1566) หรือที่รู้จักกัรโดยทั่วไปในชื่อภาษาลาตินว่า "นอสตราดามุส" เป็นนักโหราศาสตร์ เภสัชกร แพทย์ และผู้ทำนายเหตุการณ์ชาวฝรั่งเศส ผู้มีชื่อเสียงจากหนังสือ Les Prophéties (ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1555) ชุดบทกวี 942 บท ที่ถูกกล่าวหาว่าทำนายเหตุการณ์ในอนาคต
  • ในช่วงหลายปีนับตั้งแต่ตีพิมพ์ Les Prophéties มีผู้เชื่อถือนอสตราดามุสจำนวนมาก ซึ่งรวมทั้งสื่อยอดนิยมบางฉบับให้เครดิตเขาว่าสามารถทำนายเหตุการณ์สำคัญๆ ของโลกได้อย่างแม่นยำหลายเหตุการณ์
  • แต่วงการวิชาการปฏิเสธความคิดที่ว่านอสตราดามุสมีความสามารถเหนือธรรมชาติในการทำนายอย่างแท้จริง และยืนยันว่าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเหตุการณ์ต่างๆ ในโลกกับบทกวีของนอสตราดามุสนั้นเป็นผลมาจากการตีความผิดหรือการแปลผิด หรือบางครั้งจงใจ
  • นักวิชาการเหล่านี้ยังโต้แย้งว่าคำทำนายของนอสตราดามุสมีลักษณะเฉพาะที่คลุมเครือ ซึ่งหมายความว่าสามารถนำไปใช้โยงได้แทบทุกอย่าง ดังนั้นงานเขียนพวกนี้จึงไม่มีประโยชน์ในการนำมาใช้ตัดสินว่าผู้เขียนมีพลังทำนายจริงหรือไม่

ทำไมคำทำนายถึงไม่แม่น?

เจมส์ แรนดี (James Randi) ซึ่งเป็นนักตีแผ่ความจริงทางวิทยาศาสตร์ ชี้ว่าว่าชื่อเสียงของนอสตราดามุสในฐานะผู้มีญานวิเศษในการพยากรณ์ เป็นสิ่งคนยุคใหม่ที่ชื่นชอบเขาสร้างขึ้นมันขึ้นมา คนเหล่านี้จะนำเอาข้อเขียนของนอสตราดามุสมาโญงเข้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วหรือกำลังจะเกิดแน่ๆ จนทำดูเหมือนมันเป็นคำพยากรณ์ที่แม่นยำขึ้นมา 

การทำแบบนี้เรียกว่า "การมีญาณทิพย์ย้อนหลัง" (retroactive clairvoyance) หรือบางครั้งเรียก การทำนายย้อนหลัง (postdiction) ข้อสังเกตอย่างหนึ่งก็คือ บทกวีของนอสตราดามุสที่ถูกตีความว่าเป็นการทำนายเหตุการณ์ต่างๆ นั้น บทกวีส่วนใหญ่จะไม่ระบุชัดๆ ว่าเหตุการณ์นั้นๆ จะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่มันมีแต่การใช้คำศัพท์แสงที่คลุมเครือ ความคลุมเครือนี้ทำให้บทกวีที่ว่ากันว่าเป็นคำพยากรณ์สามารถนำไปใช้โยงกับกับเหตุการณ์อื่นๆ มากเท่าใดก็ได้ 

ดังนั้น "คำพยากรณ์" ของนอสตราดามุสจึงมักถูกโยงเข้ากับเหตุการณ์มากกว่าที่จะเป็นการทำนายเหตุการณ์ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ตีความมีความสามารถในการโน้มน้าวให้ผู้คนเชื่อการตีความ "คำพยากรณ์ของนอสตราดามุส" ได้แค่ไหน 

เช่น คำพยากรณ์ที่โด่งดัง ที่บอกว่า "“ไฟภูเขาไฟจากใจกลางโลกจะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนไปทั่วเมืองใหม่ หินใหญ่สองก้อนจะทำสงครามกันเป็นเวลานาน จากนั้นอาเรตูซา (เทพธิดาในตำนานกรีกที่หมายถึงน้ำพุ) จะทำให้แม่น้ำสายใหม่กลายเป็นสีแดง” จากบทที่ I:87 คำพยากรณ์นี้ถูกตีความว่าหมายถึงเหตุการณ์วินาศกรรม 9/11 แต่มันไม่ได้สะท้อนเหตุการณ์นั้นตรงๆ ยกเว้นคำบางคำเช่น "หินใหญ่สองก้อน" ที่อาจหมายถึงเครื่องบินสองลำที่พุ่งชน "ตึกคู่" เวิร์ลเทรดเซนเตอร์ แต่คำอื่นๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ  9/11 เลย เช่น "ไฟภูเขาไฟ" และ "อาเรตูซา"

อีกบทหนึงที่ถูกตีความว่าอาจทำนายถึงกรณี 9/11 เช่นบทที่ VI.97 ที่บอกว่า "ห้าสี่สิบองศา ท้องฟ้าจะลุกเป็นไฟ ไฟจะเข้ามาใกล้เมืองใหม่ที่ยิ่งใหญ่ เปลวไฟจะลุกลามและปั่นป่วนด้วยความเดือดดาล เมื่อพวกนอร์มันพยายาจะทำให้จบสิ้น"  มีการตีความว่า "ห้าสี่สิบองศา" เป็นละติจูดของนิวยอร์กซิตี้ (ละติจูดของนิวยอร์กอยู่ที่ 40°47') และถูกตีความว่าเป็น "40.5 องศา" และ "เมืองใหม่" (cité neufve) หมายถึงนิวยอร์ก ซึ่งเป็น "เมืองยอร์กแห่งใหม่" (ตั้งชื่อตามเมืองยอร์กในอังกฤษ) 

แต่คำว่า "เมืองใหม่ในคำทำนาย คือ cité neufve ยังอาจหมายถึงเมืองใหม่ที่อื่นได้ด้วย เช่น เนเปิลส์ในประเทศอิตาลี ซึ่งชื่อมีความหมายว่าเมืองใหม่ (มาจากภาษากรีกว่า Neapolis แปลว่าเมืองใหม่) ดังนั้น จึงมีผู้ชี้ว่ามันไม่ใช่คำทำนาย แต่เป้นการเล่าว่าเนปิลส์เคยถูกพวกนอร์มันรุกรานในปี ค.ศ. 1139 ระหว่างหนึ่งปีที่เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงของภูเขาไฟวิสุเวียสที่อยู่ใกล้เคียงกับเมืองเนเปิลส์ อย่างที่คำทำนายระบุไว้ว่า "ท้องฟ้าจะลุกเป็นไฟ"  

ส่วนบทกวีที่มีวันที่ของการทำนายชัดเจนก็ยังไม่ชัดเจนอีกในแง่ของ "สิ่งที่จะเกิดขึ้น" เช่น บทที่ III.77 ซึ่งทำนายว่า "ในปี ค.ศ. 1727 ในเดือนตุลาคม กษัตริย์แห่งเปอร์เซีย [จะถูก] จับตัวโดยพวกอียิปต์" ซึ่งเป็นคำพยากรณ์ที่ได้รับการตีความย้อนหลังไปโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วอีกเหมือนกัน แต่ประเด็นก็คือเหตุการณ์ที่พวกอียิปต์จับตัวกษัตริย์แห่งเปอร์เซียในปี ค.ศ. 1727 ไม่เคยเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือความขัดแย้งและการประนีประนอมระหว่างจักรวรรดิออตโตมันและเปอร์เซีย ซึ่งก็ยังมีความพยายามโยงเข้าไปอีกว่าอย่างน้อยอียิปต์ก็ถือเป็นดินแดนสำคัญของจักรวรรดิออตโตมันในเวลานั้น 

แม้แต่คำทำนายอันโด่งดัง คือคำทำนายที่ระบุ "1999" ในบทกวีที่ X.72 ที่บอกว่า "ผู้นำที่ยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัวจะออกมาจากท้องฟ้า" ในปี 1999 กับอีก 7 เดือน "เพื่อฟื้นคืนชีพกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่จากอองกูมัวส์" ซึ่งถูกตีความกันทั่วไปว่าหมายถึงวันสิ้นโลกในปีนั้น แต่มันก็ไม่ได้บรรยายถึงเหตุการณ์ใดที่เฉพาะเจาะจงเลย และไม่มีเหตุการณ์ไหนที่เข้ากับสิ่งเข้ากับสิ่งที่บรรยายไว้เลย ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังปี 1999 แต่ปราฏในช่วง Y2K คำทำนายนี้เป็นที่นิยมกันมาก เกิดกระแสกลัววันสิ้นโลกจากการที่จะมีสิ่ง "น่าสะพรึงกลัวจะออกมาจากท้องฟ้า"  แม้แต่วงการบันเทิงในช่วงนั้นก็ยังปล่อยภาพยนต์ที่เกี่ยวกับดาวหางชนโลกหลายเรื่อง เช่น  Deep Impact กับ Amageddon 

หลังจากผ่านทศวรรษที่ 2000 โดยโลกไม่แตกตามที่ตีความกันไว้ ก็ยังมีความพยายามที่จะโยงกันไปเรื่อยๆ นักโหราศาสตร์บางคนพิจารณาว่าคำทำนายนี้อาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในโลกที่เริ่มต้นในปี 2020 เช่นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก การหยุดชะงักของเงินเฟ้อทั่วโลก และวิกฤตห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

TAGS: #คำทำนาย #นอสตราดามุส