TikTok ถูกสหรัฐ-แคนาดาจับตาอีกครั้ง รัฐบาลสั่งเจ้าหน้าที่รัฐลบแอปฯจากอุปกรณ์
สำข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวภายในทำเนียบขาวว่า ได้มีคำสั่งให้เวลาหน่วยงานรัฐบาล 30 วันในการลบแอปพลิเคชั่น TikTok ของจีนที่อยู่บนอุปกรณ์และระบบของรัฐบาลกลางทั้งหมด
รอยเตอร์อ้างอิงบันทึกตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่รัฐบาลทำเนียบขาว พบว่า ได้ให้เวลาหน่วยงานฝ่ายบริหารของรัฐบาลในการลบแอปพลิเคชั่น TikTok ออกจากโทรศัพท์มือถือภายในเวลา 30 วัน รวมถึงสั่งให้หน่วยของรัฐบาลปิดการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไปยังแพลตฟอร์มของ TikTok
มาตรการดังกล่าวมีขึ้นโดยอ้างนโยบายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐ ซึ่งรัฐบาลสหรัฐได้เข้มงวดเรื่องดังกล่าวมากขึ้น หลังจากพบบอลลูนสอดแนมของจีนลอยอยู่เหนือน่านฟ้าสหรัฐเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับเมื่อปีก่อนที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดลบแอปพลิเคชั่นออกจากอุปกรณ์ของกลาโหมทั้งหมด
ไม่เพียงแค่สหรัฐฯ ชาติเพื่อนบ้านอย่างในแคนาดาก็ได้มีคำสั่งห้ามติดตั้งแอปพลิเคชั่น TikTok ในอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นของรัฐบาล ด้วยเหตุผลเดียวกันคือกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล
รายงานระบุว่า รัฐบาลแคนาดา ออกคำสั่งห้ามติดตั้งแอป TikTok ในอุปกรณ์ของรัฐทั้งหมด บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. นี้ เพื่อยกระดับการป้องกันด้านภัยคุกคามทางไซเบอร์และความเป็นส่วนตัวที่แอปดังกล่าวอาจถูกใช้เป็นช่องทางล้วงข้อมูลของรัฐบาลผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของรัฐที่จัดสรรให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้งาน
อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีทั้งสอง ด้านบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance Ltd.) ผู้ให้บริการ TikTok ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า แอปของพวกเขาถูกแบนจากอุปกรณ์ของรัฐ โดยอ้างถึงความปลอดภัยทางข้อมูลอย่างไม่มีหลักฐานและการเจาะจงที่ชัดเจนเลย ไม่มีการติดต่อกับพวกเขาเพื่อปรึกษาใดๆ ก่อนหน้าการตัดสินดังกล่าว
สำหรับแอปพลิเคชั่น TikTok ถูกหลายชาติตะวันตกตั้งข้อสงสัยเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลมานาน ที่อาจมีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน โดยรัฐบาลหลายชาติได้สั่งห้ามไม่ให้มีการติดตั้งแอปฯดังกล่าวบนแพลตฟอร์ม เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่ห้ามใช้ TikTok เช่นกัน
ทั้งนี้ สำหรับแคนาดาซึ่งมีประชากรทั้งหมดราว 38 ล้านคน พบว่ามีประชากรผู้ใหญ่ถึง 1 ใน 4 ที่ใช้งานแอปฯ TikTok เช่นเดียวกับในสหรัฐที่มีผู้ใช้งาน TikTok ราว 100 ล้านบัญชี ซึ่งคาดว่าคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐบาลใช้งานดังกล่าวนั้น จะส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อตลาดผู้ใช้งาน TikTok ในสหรัฐฯ