ตำรวจเนปาลระบุเมื่อวันที่ 10 มกราคมว่า พวกเขาได้จับกุมผู้นำทางจิตวิญญาณคนหนึ่งซึ่งบรรดาสาวกเชื่อว่าเขาเป็นพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิด หรือที่เรียกกันว่า 'บุดด้าบอย' (Buddha boy) จากข้อกล่าวหาว่าเขาเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของผู้คนและเกี่ยวข้องกับการข่มขืนที่อาศรมของเขา
ราม พหาทุร พามชาน (Ram Bahadur Bomjan) ซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้ศรัทธาในนาม "เด็กชายพุทธะ" (Buddha Boy) มีชื่อเสียงตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น หลังจากที่สาวกกล่าวว่าเขาสามารถนั่งสมาธิโดยไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลาหลายเดือนโดยไม่มีน้ำ อาหาร หรือการนอนหลับ
พามชาน 33 ปีรายนี้มีผู้ศรัทธาติดตามเขาอย่างเหนียวแน่น แต่ถูกกล่าวหามานานแล้วว่าล่วงละเมิดผู้ศรัทธาของเขาทั้งทางร่างกายและทางเพศ และซ่อนตัวจากการติดตามตัวของทางการมาหลายปีแล้ว
“เขาถูกจับกุมหลังจากหลบหนีมาหลายปี” คูเบอร์ กาดายัต โฆษกตำรวจ กล่าวกับเอเอฟพี
“เขามีข้อกล่าวหาหลายประการเกี่ยวกับการหายตัวไปของผู้คนและการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ”
มีการยื่นฟ้อง พามชาน เรื่องการทำร้ายร่างกายหลายสิบครั้งในปี 2553 เขาบอกว่าเขาทุบตีเหยื่อเพราะพวกเขารบกวนสมาธิของเขา
แม่ชีวัย 18 ปี กล่าวหาว่า พามชาน ข่มขืนเธอที่วัดแห่งหนึ่งเมื่อปี 2561
เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษของตำรวจเริ่มการสอบสวนในปี 2562 ภายหลังการร้องเรียนจากครอบครัวที่มีสมาชิก 4 คนและศรัทธาในตัวพามชาน คนเหล่านี้หายตัวไป และเชื่อว่าหายตัวไปจากอาศรมแห่งหนึ่งของเขา
ในอีกกรณีหนึ่งมีการยื่นฟ้องเขาเรื่องการแสวงหาประโยชน์ทางเพศในเมืองซาร์ลาฮี ทางตอนใต้ของกรุงกาฐมาณฑุ ในปีถัดมา
ก่อนที่เขาจะหลบหนี พามชานยังคงมีผู้ติดตามจำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกันข้อกล่าวหาที่มีต่อเขาก็เพิ่มมากขึ้น
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผู้คนนับหมื่นมารวมตัวกันเพื่อเป็นสักขีพยานในปาฏิหาริย์อันโด่งดังของเขา นั่นคือการนั่งสมาธิที่ดิ่งลึกโดยไม่ขยับเขยื้อนตัวใต้ต้นไม้กลางป่า
ขณะที่อายุ 16 ปี พามชานหายตัวไปเป็นเวลาเก้าเดือนเพื่อท่องไปในถิ่นทุรกันดารทางตะวันออกของเนปาล การหายตัวไปของเขา ทำให้บรรดาพระสงฆ์ต้องพากันสวดภาวนาไม่หยุด 24 ชั่วโมงเพื่อสวดภาวนาขอให้เขากลับมาอย่างปลอดภัย
Photo - ภาพของ ราม พหาทุร พามชาน (อายุ 15 ปี) กำลังนั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นไทร ซึ่งว่ากันว่าเขาไม่ได้กินอาหารและน้ำในเวลานั้น ขณะนั่งสมาธิที่ป่าในป่าเขตพาระ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 150 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ผู้คนหลายพันคนเยี่ยมชมสถานที่นี้ทุกวันและ เชื่อว่าเขาเป็นอวตารของพระพุทธเจ้าและบางคนคิดว่ามันเหลือเชื่อเกินไป (ภาพโดย STRINGER / AFP)