เบื้องหลังของเหตุการณ์
- สหรัฐอเมริกามีระบอบการปกครองแบบสหพันธรัฐ แต่ละมลรัฐมีอำนาจปกครองตนเอง แต่ไม่มีอำนาจด้านการทหารและกิจการระหว่างประเทศ ในเรื่องกิจการระหว่างประเทศรวมถึงการตรวจคนเข้าเมือง เป็นหน้าที่ของรัฐบาลกลาง รัฐบาลมลรัฐต้องทำตามรัฐบาลกลาง
- แต่รัฐเท็กซัสเผชิญกับวิกฤตชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐอเมริกา นั่นคือ วิกฤตผู้อพยพจากการที่ผู้อพยพผิดกฎหมายจากละตินอเมริกา รัสเซีย จีน แอฟริกา และตะวันออกกลาง ผ่านเม็กซิโก และเข้าสู่สหรัฐอเมริกาโดยส่วนใหญ่ผ่านเข้ามาทางรัฐเท็กซัส ทำให้รัฐบาลรัฐเท็กซัสต้องหาทางรับมือผู้คนที่ทะลักเข้ามา
- รัฐบาลกลางจากพรรคเดโมแครตของ โจ ไบเดน มีนโยบายค่อนข้างจะผ่อนปรนกับผู้อพยพ ตรงกันข้ามกับรัฐบาลพรรครีพับลิกันที่เข้มงวดกับผู้อพยพอย่างรุนแรง รัฐบาลรีพับลิกันชุดที่แล้วที่นำโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลก์ ทรัมป์ ถึงกับสร้างกำแพงกั้นพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก
- คนในรัฐเท็กซัสมีความภาคภูมิใจในสิทธิของตนเองสูงมาก เมื่อพวกเขารู้สึกว่าสิทธิของเขาถูกละเมิด (แม้ว่าในทางกฎหมายแล้วจะไม่เกิดการละเมิดก็ตาม) พวกเขาจะมีปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากพวกเขารู้สึกว่ารัฐบาลกลางแทรกแซง "อธิปไตย" ของพวกเขา
การเผชิญหน้าจึงเกิดขึ้น
ดังนั้น เมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2567 (2024) กองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติเท็กซัสเข้าควบคุมสวนสาธารณะเชลบี ซึ่งเป็นพื้นที่สวนสาธารณะขนาด 47 เอเคอร์ ในเมืองอีเกิ้ลพาส ริมแม่น้ำริโอแกรนด์ ซึ่งแยกสหรัฐอเมริกาออกจากเม็กซิโก และเป็นจุดที่ผู้อพยพผิดกฎหมายมักจะลักลอบเข้ามา
หลังจากเท็กซัส ผู้ว่าการรัฐ เกร็ก แอบบอตต์ ลงนามในประกาศฉุกเฉินเพื่อปิดสวนสาธารณะ โดยในคำประกาศของเขา แอ๊บบอตอ้างถึงวิกฤตชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐอเมริกา และความจำเป็นในการรักษาความปลอดภัยบริเวณชายแดน เท่ากับว่าเท็กซัสไม่ยอมให้คนของรัฐบาลกลางมาทำหน้าที่อีก
กองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติเท็กซัสได้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดนสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางจากการลาดตระเวนในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งหน่วยตระเวนชายแดนได้ใช้เพื่อควบคุมตัวผู้อพยพในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่หลังการปิดสวนดังกล่าว พบผู้อพยพ 3 รายจมน้ำตายในแม่น้ำริโอแกรนด์
หน่วยตระเวนชายแดนสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลกลาง ระบุว่า ได้แจ้งเตือนกองกำลังพิทักษ์ชาติเท็กซัสแล้วว่ามีผู้อพยพกลุ่มหนึ่งประสบกับภาวะอันตรายระหว่างการข้ามแม่น้ำบริเวณสวนสาธารณะเชลบี พาร์ค แต่กองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติเท็กซัสไม่ได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้อพยพเหล่านั้นเลย
หลังจากที่รัฐบาลกลางถูกกองกำลังชองรัฐบาลมลรัฐขวางการปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องอษัสยอำนาจของฝ่ายตุลาการมาชี้ขาด โดยอาสัยการวินิจฉัยสิทธิตามรัฐธรรมนูญมที่แต่ละฝ่ายมี ปรากฎว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคม ศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกาได้ออกคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดนของรัฐบาลกลาล สามารถตัดลวดหนาม ซึ่งกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติเท็กซัสนำมากั้นพื้นที่เชลบีพาร์ค นั่นหมายความว่าฝ่ายตุลาการเข้าข้างรัฐบาลกลางแล้ว
สงครามกลางเมืองครั้งใหม่?
- แต่ปรากฏว่าเรื่องไม่จบง่ายๆ ทั้งยังทำให้การเผชิญหน้ารุนแรงขึ้น เมื่อวันที่ 24 มกราคม แอ๊บบอต ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ตอบโต้ว่าเท็กซัสจะปฏิเสธที่จะให้หน่วยงานรัฐบาลกลางเข้าถึงสวนสาธารณะแห่งนี้ โดยให้คำมั่นว่าจะ "ปกป้องอธิปไตยของรัฐของเรา"
- ภายหลังคำตัดสินของศาลสูง ผู้ว่าการรัฐต่างๆ ที่สังกัดพรรครีพับลิกันอีก 25 คน (ผู้ว่าการรัฐของพรรครีพับลิกันทุกคน ยกเว้นฟิล สก็อตต์จากเวอร์มอนต์) ได้ประกาศสนับสนุนรัฐเท็กซัสในเรื่องข้อพิพาทนี้ เช่นเดียวกับไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา
- สถานการณ์เริ่มคล้ายวสงครามกลางเมืองเข้าไปทุกที เมื่อ รอน ดีแซนติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมสุดโต่งจากพรรครีพับลิกัน มุ่งมั่นที่จะส่งกำลังช่วยเหลือเท็กซัสเพื่อรับมือกับรัฐฐาลกลางเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ส่งกองกำลังพิทักษ์ชาติฟลอริดาเพื่อเสริมกำลังให้กับรัฐบาลเท็กซัส
- ในขณะ ผู้ว่าการรัฐโอคลาโฮมา เควิน สติตต์ ให้คำมั่นว่าจะจัดกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติโอคลาโฮมาเพื่อสนับสนุนเท็กซัส เจ้าหน้าที่พรรครีพับลิกันของรัฐและระดับชาติอื่น ๆ สนับสนุนเท็กซัสกันอย่างพร้อมหน้า เพื่อตอบโต้กับรัฐบาลกลาง ซึ่งขณะนี้มีผู้นำมาจากฝ่ายตรงข้ามกับพวกเขา คือพรรคเดโมแครต
- แล้วมันก็กลายเป็น "สงครามกางเมือง" ของฝ่ายการเมืองไปด้วย โดยเมื่อวันที่ 24 มกราคม วาคีน คาสโตร และเกร็ก คาซาร์ ผู้แทนจากพรรคเดโมแครตเท็กซัส เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ สถาปนาการควบคุมของรัฐบาลกลางเหนือดินแดนแห่งชาติเท็กซัส
นิติสงครามหรือสงครามแท้ๆ?
ความขัดแย้งทางทหารระหว่างหน่วยงานของมลรัฐและรัฐบาลกลางในเรื่องการบริหารผู้อพยพ ถือเป็นเรื่องใหม่ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ในเรื่องนี้ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ ชาร์ลส "ร็อคกี้" โรดส์ และกองบรรณาธิการใน San Antonio Express-News กล่าวว่า นี่อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเริ่มต้นของวิกฤตรัฐธรรมนูญ
หากเกิดวิกฤตรัฐธรรมนูญ วิธีการแก้ไขคือการพิจารณาเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ เพื่อหาจุดที่ทุกฝ่ายตกลงกันได้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มที่จะคล้ายสงครามกลางเมืองเข้าไปทุกที โดยเฉพาะการที่ 'รัฐพันธมิตร' ส่งกำลังทหารมาช่วยเท็กซัส
ในเรื่องนี้ 'ศัตรู' ของสหรัฐฯ จับตาสถานการณ์อยู่เช่นกัน ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซียและหนึ่งในกำลังสำคัญของ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซียคนปัจจุบัน แสดงความคิดเห็นโดยย้ำคำทำนายในอดีตของเขาที่ว่าเท็กซัสจะแยกตัวออกจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสิ่งที่มลรัฐหนึ่งๆ ไม่มีความสามารถที่จะทำได้ทางกฎหมาย และอาจก่อให้เกิดสงครามกลางเมือง
เมดเวเดฟ กล่าวว่า “มีหลายกรณีในประวัติศาสตร์ที่บางรัฐพยายามแยกตัวออกจากสหภาพและก่อตั้งสมาพันธรัฐ ผลลัพธ์สุดท้ายคือสงครามกลางเมืองอันนองเลือดซึ่งคร่าชีวิตผู้คนหลายพันคน ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด อเมริกาสามารถเผชิญกับวิกฤติทางรัฐธรรมนูญที่แก้ไขไม่ได้ และตกอยู่ในห้วงลึกแห่งการเผชิญหน้าจากสงครามกลางเมืองครั้งใหม่ที่อาจสร้างความเสียหายยิ่งกว่านั้นอีกยาวนาน และโลกตะวันตก ต้องกลั้นหายใจจะจ้องมองความยุ่งเหยิงของอเมริกาด้วยความกลัว ยังไงซะ มันเป็นปัญหาของพวกเขา”
Photo - ทหารรักษาดินแดนแห่งชาติยืนเฝ้าริมฝั่งแม่น้ำริโอแกรนเดที่สวนสาธารณะเชลบีพาร์ค เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2024 ในเมืองอีเกิลพาส รัฐเท็กซัส กองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติเท็กซัสยังคงปิดล้อมและเฝ้าระวังเชลบีพาร์คต่อไปเพื่อพยายามยับยั้งการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย กระทรวงยุติธรรมกล่าวหาว่ากองกำลังพิทักษ์ชาติเท็กซัสขัดขวางเจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดนจากการปฏิบัติหน้าที่ริมแม่น้ำ (Photo by Brandon Bell / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP)