นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ และเป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่มีข่าวลือว่า 'ลิซ่า BLACKPINK' และ 'เฟรเดริก อักโนลต์' (Frédéric Arnault) กำลังเดทกัน และทั้งคู่เป็นที่สนใจของสื่ออีกครั้งหลังจากที่ลิซ่าไปปรากฎตัวในงานต่างๆ ชายหนุ่มคนนี้ก็จะไปให้กำลังใจเธออยู่เกือบตลอดเวลา
แต่เรื่องที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ในแง่ของธุรกิจ ชายหนุ่มที่มักจะปรากฏตัวพร้อมกับลิซ่าคนนี้ อาจจะกลายเป็นผู้กุมชะตากรรมของแบรนด์เนมสำคัญของโลกในอนาคต
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความจักรู้กันก่อนว่า เฟรเดริก อักโนลต์ คือใคร?
1. เขามีชื่อเต็มว่า เฟรเดริก แบร์กนาร์ด ฌอง เอเชียน อักโน (Frédéric Bernard Jean Etienne Arnault) หรือที่รู้จักในชื่อ เฟรเดริก อักโนลต์ เกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 (ค.ศ. 1994) ปัจจุบัน อายุ ปี 29 ปี พ่อของเขาเป็นชาวฝรั่งเศส แม่ของเขาเป็นนักเปียโนชาวแคนาดา ดังนั้นเขาจึงมีสองสัญชาติ
2. จบการศึกษาจากสถาบันโปลีเทคนิค (École polytechnique) ซึ่งเป็นสถาบันด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงระดับโลกของฝรั่งเศส ก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ TAG Heuer แบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิส ตั้งแต่ปี 2020 หรือเมื่อเขาอายุแค่ 26 ปี ทำให้เขาเป็น CEO แบรนด์ดังที่อายุน้อยที่สุดในโลก
3. เขาเป็นเป็นบุตรชายของ แบร์กนาร์ด อักโนลต์ (Bernard Arnault) บุคคลที่รวยที่รวยที่สุดในโล เจ้าของแบรนด์แฟชั่นดังๆ มากาย ที่ไม่ใช่แค่ LVMH Moët Hennessy (แอลวีเอ็มเอช โมเอต์ เฮนเนสซี่ หลุยส์ วิตตอง) แต่ยังควบคุมธุรกิจแฟชั่นและอื่นๆ อีกมามาย ความมั่งคั่งของเขาอยู่ที่ 183,700 ล้านดอลลาร์
4. แต่ เฟรเดริก ไม่ใช่ลูกคนเดียวของ แบร์กนาร์ อักโนลต์ แต่ยังมีพี่สาวและพี่ชายต่างแม่อีก 2 คน คือ เดลฟีน อักโนลต์ (Delphine Arnault) อายุ 48 ปี และ อังตวน อักโนลต์ (Antoine Arnault) อายุ 46 ปี ทั้งสองคนเกิดจากภรรยาคนแรกของ แบร์กนาร์ อักโนลต์
5. ส่วน เฟรเดริก ยังมีพี่ชายและน้องชายอีก 2 คนจากแม่เดียวกัน คือ อเล็กซองดร์ อักโนลต์ (Alexandre Arnault) อายุ 30 ปี และ ฌอง อักโนลต์ (Jean Arnault) ซึ่งลูกคนและแม่และแม่เดียวกันกับเฟรเดริก อักโนลต์ ต่างก็รับหน้าที่บริหารแบรนด์ดังที่พ่อของเขาครอบครอง แต่ความสำคัญของแต่ละคนลดหลั่นกันไปตามแบรนด์ที่แต่ละคนบริหาร นั่นคือ
- เดลฟีน อักโนลต์ เป็นกรรมการและรองประธานบริหารของ Louis Vuitton และประธานหญิงและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Christian Dior
- อังตวน อักโนลต์ ก่อนหน้านี้เป็นรองประธาน Christian Dior ปัจจุบันเป็นหัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรของเครือบริษัท LVMH
- อเล็กซองดร์ อักโนลต์ รองประธาน Tiffany & Co.
- เฟรเดริก อักโนลต์ ก่อนหน้านี้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TAG Heuer
- ฌอง อักโนลต์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับนาฬิกาของ Louis Vuitton
โอกาสที่ เฟรเดริก อักโนลต์ จะสืบทอดธุรกิจมีแค่ไหน?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของ แบร์กนาร์ด อักโนลต์ ได้มาจากการถือหุ้น 97.5% ใน Christian Dior จากการรายงานของสำนักข่าว Bloomberg
ดังนั้น เราจะเห็นว่าคนที่มีภาษีดีที่สุดที่จะได้สืบทอดตำแหน่งใหญ่ต่อจาก แบร์กนาร์ อักโนลต์ ผู้เป็นพ่อ ก็ควรจะเป็นลูกที่ดูแลกิจการที่เกี่ยวกับ Christian Dior ซึ่งก็คือ เดลฟีน อักโนลต์ ประธานของ Dior และตอนนี้ก็เหมือนเป็นมือขวาของพ่ออยู่แล้ว ด้วยการนั่งเป็นกรรมการและรองประธานบริหารของ Louis Vuitton ซึ่งเป็นธุรกิจที่เป็นเรือธงของตระกูลอักโนลต์
เฟรเดริก อักโนลต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TAG Heuer ถึงแม้จะเป็นธุรกิจสำคัญในเครือเหมือนกัน แต่สัดส่วนความมั่งคั่งของ TAG Heuer น้อยกว่าแบรนด์แฟชั่นตัวหลัก ว่ากันตามตรงกันแล้วมันมีสถานะไม่ได้สูงมากนัก ฃในการจัดอันดับความหรู หรือ pyramid of the watch hierarchy (พีระมิดหรือลำดับขั้นสถานะของแบรนด์นาฬิกา) ที่จัดทำขึ้นโดย Watchard.com แบ่ง "คลาส" หรือสถานะของแบรนด์นาฬิกาหรูไว้ดังนี้
- แบรนด์หรูลำดับสอง (luxury brands second-class) กลุ่มนี้ถือเป็นแบรนด์หรูลำดับล่างสุด คือ Tissot, Certina, and Atlantic, Citizen and Seiko, Venezianico, Junghans
- แบรนด์หรูลำดับแรก (luxury brands first-class) กลุ่มนี้ถือเป็นแบรนด์หรูลำดับรองลงมา คือ Montblanc, Oris, Breitling, Longines, Frederique Constant, Yema, MeisterSinger, Chopard, Tag Heuer, Maurice Lacroix, Ball, Alpina, U-Boat.
- แบรนด์หรูที่มีสถานะสูง (prestigious brands and well-established brands) นี่คือแบรนด์หรูที่ก่อตั้งแบรนด์มาอย่างมั่นคงและมีสถานะสูง คือ Omega, Fortis, IWC, Blancpain, Hublot, De Witt, Roger Dubuis, Zenith, Eberhard
- แบรนด์หรูที่มีชื่อเสียงยาวนาน (historic watch brands creating works of art) นี่คือระดับสูงสุด เป็นกลุ่มแบรนด์หรูระดับประวัติศาสตร์และมีผลิตภัณฑ์ชั้นศิลปะ คือ Patek Philippe, Vacheron Constantin, A. Lange & Söhne, Audemars Piguet, Breguet, Vacheron Constantin
จากการจัดอันดับนี้ TAG Heuer อยู่ในกลุ่มรองอันดับสุดท้าย หรือแบรนด์หรูชั้นแรก แต่กระนั้นก็ตาม TAG Heuer ก็ยังถือเป็นธุรกิจสำคัญของครอบครัว และในแง่ของอุตสาหกรรมนาฬิกาชั้นสูง มันเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าของตระกูลนี้ ดังนั้นมันจึงถูกส่งมอบให้กับลูกชายคนที่สาม
และไม่ว่าการจัดอันดับจะบ่งบอกสถานะใดก็ตาม มันก็ยังเป็นแบรนด์ชั้นนำของโลก และการเป็นหัวเรือใหญ่ TAG Heuer ของ เฟรเดริก อักโนลต์ ย่อมหมายถึงต้องการพิสูจน์ความสามารถของเขาอย่างแน่นอน เฟรเดริก อักโนลต์ สามารถทำได้ดีในสายตาของสื่อ เช่น จากการรายงานของสื่อในยุโรปให้คะแนนเขาในแง่ของการนำพาแบรนด์ก้าวไปในทิศทางที่ทันสมัยมากขึ้น ในขณะที่ยังคงรักษาแนวทางดั้งเดิม
การบริหารแนวนี้มีความเสี่ยง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะก้าวข้ามความเสี่ยงนั้นได้แล้ว เพราะจากการประมาณการของบริษัท Morgan Stanley ยอดขายของ TAG Heuer อยู่ที่ 729 ล้านฟรังก์สวิส (784 ล้านยูโร) ในปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 682 ล้านฟรังก์สวิส (733 ล้านยูโร) ในปี 2564
ในการให้สัมภาษณ์กับ New York Times ในปี พ.ศ. 2021 เฟรเดริก อักโนลต์อธิบายว่า TAG Heuer เป็น "นาฬิกาสำหรับคนที่กำลังจะก้าวไปสู่ความสำเร็จ ไม่ใช่สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จแล้ว (นั่นเพราะฉ ผู้คนมักจะมองหาความสำเร็จครั้งต่อไป”
เส้นทางใหม่ของ เฟรเดริก อักโนลต์ ที่กว้างใหญ่กว่าเดิม
อาจจะเป็นด้วยความสำเร็จเหล่านี้ที่ทำให้ให้เขาก้าวขึ้นมาอีสเต็ปหนึ่ง เมื่อเดือนมกราคมปีนี้ เขาได้รับการเลื่อนสถานะจากซีอีโอของ TAG Heuer ให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายนาฬิกาของเครือบริษัท LVMH หรือ CEO ของ LVMH Watches
CEO ของ LVMH Watches เป็นตำแหน่งใหม่ที่ตั้งขึ้นมาสำหรับเขาโดยเฉพาะ ที่นั่นหมายความว่า เขาจะรับหน้าที่ดูแลทุกอย่างที่เกี่ยวกับธุรกิจนาฬิกาของเครือบริษัท รวมถึง TAG Heuer และนาฬิกาอื่นๆ ที่ผลิตในเครือนี้ คือ Hublot และ Zenith (แต่ยังไม่ชัดเจนว่าอำนาจหน้าที่ของเขาครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับนาฬิกาของ Louis Vuitton ที่น้องชายของเขา คือ ฌอง อักโนลต์ ดูแลอยู่หรือไม่?)
นี่คือก้าวสำคัญของ เฟรเดริก อักโนลต์ จากการเป็นซีอีโอของบรแนดืนาฬิกาเพียงแบรนด์เดียว มาสู่ผู้ควบคุม "อาณาจักรนาฬิกา" ภายใต้ "จักรวรรดิแบรนด์เนม" ของเครือบริษัท LVMH ที่ยิ่งใหญ่ในมือของพ่อเขา
ส่วนเขาจะก้าวขึ้นมาสูงก่านั้นหรือไม่ ผลงานการบริหารของเขาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์
Photo by Ludovic MARIN / AFP