สำนักข่าว Radio Free Asia หรือ RFA ภาคภาษาลาวรายงานว่า ในขณะนี้ลาวต้องการเงินจำนวนมากในการพัฒนาประเทศ แต่เศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ และความหวังที่จะดึงการลงทุนจากต่างประเทศเป็นเรื่องที่ยาก โดยรายงานนี้มีชื่อว่า "รัฐบาลขาดเงินมหาศาลในการพัฒนาประเทศ"

ในการประชุมสมัชชาแห่งชาติครั้งล่าสุดได้รับรองแผนพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมปี 2567 โดยลาวต้องการเงินจำนวนมหาศาลในการพัฒนาประเทศ ปีนี้ปีเดียว สปป.ลาวต้องการเงินทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมสูงถึง 56,784,000 ล้านกีบ ซึ่งก็คือ เท่ากับร้อยละ 19 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP ของประเทศ 

รัฐบาลลาวและรัฐสภาหวังว่าเงินทุนที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาส่วนใหญ่จะมาจากภาคเอกชนในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะลงทุนสูงถึง 32,435,000 ล้านกีบ หรือประมาณร้อยละ 57 ของการลงทุนทั้งหมด รองลงมาเป็นเงินทุนช่วยเหลือระหว่างประเทศซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 15,449,000 ล้านกีบ หรือคิดเป็นร้อยละ 27 ของเงินลงทุนทั้งหมด ที่เหลือรัฐบาลลาวคาดว่าจะเป็นผู้ลงทุนประมาณ 5,000,000 ล้านกีบ หรือร้อยละ 8.8 ของการลงทุนทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม RFA ได้สัมภาษณ์ ชาวนครหลวงเวียงจันทน์ที่ไม่เปิดเผยนาม ซึ่งได้แสดงความเห็นไว้เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ว่าการดึงดูดนักลงทุนเอกชนในประเทศและต่างประเทศให้มาลงทุนในลาวอาจทำได้ยากขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจของลาวกำลังถดถอย กีบลาวยังอ่อนค่าลงบ่อยครั้งและยังขาดแคลนแรงงานอีกด้วย

แม้ว่ารัฐบาลลาวจะจัดงบประมาณเพื่อการพัฒนาหลายพันล้านกีบ แต่รัฐบาลยังขาดงบประมาณจำนวนมาก โดยเฉพาะงบประมาณในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและถนนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ไฟป่า และแผ่นดินไหว

เช่น เจ้าหน้าที่แขวงไซยะบุรีที่ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อและตำแหน่ง กล่าวกับ RFA ว่า ที่ผ่านมาแขวงไซยะบุรีได้รับผลกระทบจากพายุมากกว่า 4 ครั้ง ทำให้โครงสร้างพื้นฐาน เช่น สะพาน ถนน และบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย เสียหายหนักแต่ไม่มีงบประมาณในการสร้างและซ่อมแซม

ทั้งนี้ ทุกปี สปป.ลาว ได้รับเงินจำนวนมากจากองค์กรระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนา เนื่องจากรัฐบาลลาวไม่มีเงินเพียงพอที่จะปฏิบัติตามแผนและโครงการพัฒนาต่างๆ

นอกจากนี้ RFA ยังรายงานด้วยว่า "ข้าราชการ" หรือ "รัฐกร" (เจ้าหน้าที่รัฐ) ในประเทศลาวจำนวนหนึ่งได้ลาออกจากงาน เพื่อไปทำงานในต่างประเทศมากขึ้น เช่น ประเทศไทย และเกาหลีใต้ เนื่องจากเงินเดือนของคนงานในประเทศลาวต่ำเกินไปจนไม่เพียงพอต่อการยังชีพ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักเพราะในลาวอัตราเงินเฟ้อสูง กีบอ่อนค่า และราคาสินค้าเพิ่มขึ้นทุกวัน 

RFA ได้ข้อมูลจากคนงานลาวจำนวนมาก เช่น ข้าราชการคนหนึ่งในเวียงจันทน์ที่ลาออกจากราชการเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 บอกเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ว่าเธอลาออกจากราชการเพราะเงินเดือนต่ำมาก ไม่พออยู่-ไม่พอกิน หลังจากลาออกเธอก็สมัครไปทำงานในเกาหลีใต้แต่ยังไม่ถูกเรียกตัวไป เธอยังเผยว่า ก่อนที่เธอจะลาออกจากที่ทำงาน  ข้าราชการสองคนได้ลาออกแล้ว เมื่อเธอลาออก เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของเธอก็ลาออกพร้อมกับเธอ และหลังจากที่เธอลาออก ก็ยังมีข้าราชการอีกสามคนที่จะลาออกในไม่ช้า

RFA ยังได้ข้อมูลว่า นอกจากข้าราชการคนนี้แล้วยังมีพี่สาวอีกคนที่เป็นครู ได้ลาออกเมื่อปลายปีที่แล้วและตอนนี้ได้ไปทำงานที่ประเทศไทยแล้ว พี่สาวก็มีเหตุผลที่ต้องลาออกเหมือนกับข้าราชการคนอื่นๆ คือ เงินเดือนไม่เพียงพอ

พี่สาวคนนี้จะทำงานที่ไทยต่อไปเพราะได้รับเงินเดือนสูงถึง 12,000 บาทหรือประมาณ 8 ล้านกีบ ซึ่งมากกว่าเงินเดือนในประเทศลาวถึง 4 เท่า ส่วนน้องสาวคิดว่าระหว่างรอไปเกาหลีใต้จะไปทำงานที่เมืองไทยก่อนเพราะมีพี่สาวและญาติมาทำงานที่เมืองไทย หลายคน เธอหวังว่าจะไปอย่างถูกกฎหมายโดยไม่ต้องผ่านตัวแทนเพราะมีสถานที่ทำงานที่ได้รับการรับรองอยู่แล้วและหากเธอคิดถึงครอบครัวเธอก็สามารถกลับไปหาเขาได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ ภรรยาของตำรวจนายหนึ่งในเวียงจันทน์เล่ากับ RFA ว่า สามีซึ่งทำงานเป็นตำรวจ กำลังคิดจะลาออกไปทำงานต่างประเทศด้วย โดยสามีอยากไปทำงานที่เกาหลีใต้เพราะเห็นว่าหลังจากทำงานเพียง 3 ถึง 5 เดือนก็สามารถหาเงินกลับบ้านได้มากมาย คนลาวหลายคนที่ไปเกาหลีใต้แล้วกลับมามีเงินเยอะเมื่อเทียบกับลาว โดยสามีของเธอเป็นตำรวจชั้นผู้น้อย ที่ได้รับเงินเดือนเพียง 1.6 ล้านกีบต่อเดือน (ประมาณ 2,734 บาท)  ซึ่งไม่พอกิน ต้องติดลบทุกเดือน และเป็นหนี้สิน

ภรรยาตำรวจชั้นผู้น้อยรายนี้เสริมว่าถึงแม้คิดถึงลูกเพราะยังเด็ก แต่สามีก็อยากไปทำงานที่เกาหลีใต้ซึ่งสามารถไปทำงานตามฤดูกาลได้ 3-5 เดือนแล้วกลับมาพร้อมเงินมากมาย แต่ถ้าเขาไม่มีโอกาสไปเกาหลีใต้เขาจะไปประเทศไทย ถ้าไปเมืองไทยก็อยากไปถูกกฎหมาย ไม่อยากเสี่ยงกับปัญหาการไปผิดกฎหมาย

ตำรวจหญิงคนนี้ยังกล่าวกับ RFA อีกว่า นอกจากตำรวจแล้ว ทหารลาวชั้นผู้น้อยจำนวนมากยังต้องการลาออกจากงานเพราะเงินเดือนต่ำมาก ทหารจำนวนมากได้รับเงินเดือนเพียง 800,000 กีบ (ประมาณ 1,366 บาท) แม้ว่าบางคนอาจได้ล้านกีบ

RFA ยังได้ทราบมาจากเจ้าหน้ทที่แรงงานในแขวงเวียงจันทน์ก็พูดทำนองเดียวกันว่าในที่ทำงานของเขามีข้าราชการ 3 คนที่ลาออกไปทำงานต่างประเทศและข้าราชการกรมสาธารณสุขก็ลาออกจำนวนมากเช่นกัน เนื่องจากเงินเดือนน้อยเกินไป เช่นบางคนได้รับเงินเดือน 1.8 ล้านกีบ (ประมาณ 3,075 บาท) 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แรงงานรายนี้ยังต้องการให้พรรครัฐ (รัฐบาลลาว) พยายามหยุดยั้งการลาออกของข้าราชในประเทศ

Photo by Jack TAYLOR / AFP