ประเมินเขี้ยวเล็บกองทัพอากาศเมียนมา อาวุธล้ำกว่าแต่ศักยภาพการรบต่ำ

ประเมินเขี้ยวเล็บกองทัพอากาศเมียนมา อาวุธล้ำกว่าแต่ศักยภาพการรบต่ำ

เบื้องหลังของเหตุการณ์
หลังจากที่กองกำลังชนกลุ่มน้อยและกองกำลังฝ่ายประชาธิปไตยเข้ายึดเมืองเมียวดีไว้ได้ และทำการโจมตีเป้าหมายต่างๆ ของกองทัพเมียนมาด้วยปฏิบัติการโดรน ต่อมากองทัพเมียนมาได้ทำการโจมตีกลับดเพื่อพยายามยึดเมียวดีคืน โดยใช้กองทัพอากาศ ถึงขนาดที่มีการโจมตีทางอากาศใกล้สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 ไปยังแม่สอดในประเทศไทยตลอดทั้งวันที่ 20 เมษายน 2567 เพื่อให้การสนับสนุนกองกำลังทหารที่เหลืออยู่ในเมียวดี ทำให้กาารรบที่เมียวดีดุเดือดขึ้นมาอีกครั้ง และมีผู้อพยพจากฝั่งเมียนมาข้ามมาลี้ภัยที่ฝั่งไทยเป็นจำนวนมาก

ทัพฟ้าเมียนมามีเขี้ยวเล็บอะไรบ้าง?
ตั้งแต่ในช่วงต้นทศวรรษที่ 2000s  กองทัพพม่าได้ก่อตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบบูรณาการแห่งเมียนมาร์ (MIADS) โดยได้รับความช่วยเหลือ จากรัสเซีย ยูเครน และจีน  และในช่วงเวลาเดียวกันมีการซื้อเครื่องบินรบจากประเทศในเครืออดีตสหภาพโซเวีตตมาใช้เป็นจำนวนมาก โดยในปีพ.ศ. 2544 กองทัพอากาศเมียนมาได้ซื้อเครื่องบินขับ  MiG-29  จำนวน 12 ลำ จากประเทศเบลารุส จากนั้นมีการซื้อเครื่องบินรบ MiG-29 อีก  20 ลำ ในปี พ.ศ. 2552 ซื้อเฮลิคอปเตอร์ติดปืน Mil Mi-35 อีก 10 ลำ 

และต่อมา ภายใต้สัญญาทวิภาคี กองทัพอากาศเมียนมายังได้สั่งซื้อเครื่องบินขับไล่ Su-30SM จำนวน 6 ลำจากรัสเซียในปี พ.ศ. 2561 และล่าสุดวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เมียนมาได้  Su-30SME จากรัสเซียมาอีก 2 ลำ เป็นต้น 

เครื่องบินขับไล่ของทัพฟ้าเมียนมายังมีเครื่องบินของจีนจำนวนไม่น้อยเลย เช่น เครื่องบินขับไล่ Nanchang Q-5  จำนวน 20 ลำ เครื่องรุ่น Chengdu J-7 จำนวน 26 ลำ และเครื่องบินรบ Shenyang J-6 จำนวน 1 ลำ โดยรุ่นหลังนี้เป็นเครื่องที่จีนสร้างตามแบบเครื่องบินขับไล่ MiG-19

นอกจากนี้  ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2558 กองทัพอากาศเมียนมายังลงนามกับปากีสถานเพื่อจัดซื้อเครื่องบินขับไล่พหุภารกิจ JF-17 Thunder ซึ่งได้รับการพัฒนาร่วมกันโดยบริษัทของจีน คึอ Chengdu Aircraft Industry Group และบริษัทปากีสถาน คือ Pakistan Aeronautical Complex ให้กับกองทัพอากาศเมียนมาร์ อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2561 มีรายงานว่าข้อตกลงในการจัดซื้อเครื่องบิน JF-17 Thunder ถูกปากีสถานระงับไว้ แต่มีการพบเห็น JF-17II จำนวน 4 ลำในงานวันกองทัพอากาศเมียนมาในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2561 

โดยการเปิดเผยของ Frontier Myanmar กลุ่มนักเคลื่อนไหวสืบสวนเผด็จการเมียนมา  Justice For Myanmar ได้กล่าวหาบริษัทด้านความมั่นคงของอินเดีย คือ Bharat Electronics Limitedว่าได้ถ่ายโอนอุปกรณ์ให้กับกองทัพเมียนมานับตั้งแต่รัฐประหาร ซึ่งรวมถึงสถานีป้องกันภัยทางอากาศด้วย หากเป็นความจริงจะหมายความว่า เผด็จการเมียนมาได้รับการสนับสนุนทั้งจากปากีสถานและอินเดีย

มีเขี้ยวเล็บไม่สำคัญเท่าใช้เขี้ยวเล็บได้
แม้จะมีมาตรการปรับปรุงแสนยานุภาพให้ทันสมัยและมีการศื้อเครื่องบินรบอย่างต่อเนื่อง แต่ความสามารถของกองทัพอากาศเมียนมายังคงเป็นที่น่าสงสัย ตัวอย่างเช่น การปะทะตามแนวชายแดนพม่า พ.ศ. 2553–2554 ระหว่างกองทัพเมียนมากับะกองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย หรือ DKBA บริเวณเมียวดี ก็ไม่มีการส่งเครื่องบินเข้าร่วมในความขัดแย้งดังกล่าว นอกจากนี้ ภารกิจช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกับพายุไซโคลนนาร์กีสในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2551 ก็ยังไม่มีกส่งกำลังทางอากาศเข้าช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ 

เมื่อเดือนมกราคม 2567 มีบทความที่น่าสนใจของ ดร. แซคารี อาบูซา (Dr. Zachary M. Abuza) แห่งวิทยาลัยการสงคราม (National War College) แห่งชาติที่วอชิงตัน ดีซี. ประเทศสหรัฐฯ แสดงความเห็นไว้ใน Radio Free Asia ไว้ว่า ความสามารถของกองทัพอากาศเมียนมากำลังถดถอยลงจากการถูกคว่ำบาตรและการถูกฝ่ายต่อต้านโจมตี 

ดร. อาบูซา ชี้ว่า นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการ Operation 1027 ซึ่งภราดรภาพสามพี่น้องของกองกำลังชนกลุ่มน้อยเริ่มการโจมตีจีนเทาและกองทัพเทียนมา จนนำไปสู่ความพ่ายของเผด้๗การเมียนมาจนถึงวันนี้ ปรากฏว่าจนถึงเดือนมกราคมปีนี้ กองทัพเมียนมาสูญเสียเครื่องบินไปถึง 3 ลำ ได้แก่ เครื่องบินฝึกไอพ่น 2 ลำ และเฮลิคอปเตอร์บรรทุกหนัก Mi-17 หนึ่งลำ เฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-35 ลำหนึ่งก็สูญหายไปในปีที่แล้ว 

ดร. อาบูซา กล่าวว่า ตามตัวเลขบากระดาษแล้ว กองทัพเมียนมามีเครื่องบินขับไล่ไอพ่นอีกประมาณ 40 ลำ แต่เป็นเครื่องบินขับไล่รัสเซียรุ่นเก่าที่ผลิตโดยจีนในช่วงทศวรรษ 1990 และมีอายุเกินที่จะใช้งานแล้ว แม้จะมีตัวเลขบอกจำนวนเครื่องบินรบต่างๆ นานา ที่กองทัพเมียนมามีอยู่ แต่ ดร. อาบูซา ตั้งข้อสงสัยว่า "ยังไม่ชัดเจนว่าเครื่องบินรบเหล่านี้มีจำนวนเท่าใดที่ยังคงสามารถบินได้"

สาเหตุสำคัญอีกอย่างที่ทำให้กองทัพเมียนมาถดถอย คือ การคว่ำบาตรโดยรัฐบาลสหรัฐฯ  โดยมีการคว่ำบาตรบริษัทในสิงคโปร์ซึ่งเป็นผู้นำเข้าชิ้นส่วนอะไหล่รายใหญ่ และบริษัท Sky Aviator Company Limited ที่อำนวยความสะดวกในการอัพเกรดและบำรุงรักษาเครื่องบินทหารพม่า รวมถึงบริษัท Sky Royal Hero Company Limited เป็นกิจการในเมียนมาซึ่งรับเหมางานซ่อมแซมจากหน่วยงานรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตร และมีความสัมพันธ์ที่รู้จักกับบริษัทจัดซื้อด้านกลาโหมของพม่า คือ Sky Aviator Company Limited

นอกจากนี้ ยังรวมถึงปัญหาที่เกิดจากสงครามของรัสเซียในยูเครน (ซึ่งทั้งรัสเซีย ยูเครน และเบลารุส เป็นซัพพลายเออร์สำคัญของทัพอากาศเมียนมา) ไปจนถึงการที่เผด็จการเมียนมาถูกคว่ำบาตรทางการเงินจนถูกตัดท่อน้ำเลี้ยง และไม่มีเงินตราประเทศเข้ามือ 

ดังนั้น "เครื่องบินประมาณ 20% อาจไม่ปฏิบัติการได้" และ "เป็นเวลาเกือบสามปีที่กองทัพอากาศเมียนมา ออกบินถี่ขึ้นโดยไม่ต้องมีการบำรุงรักษาตามกำหนดเวลาที่จำเป็น"ผลก็คือ มีการเสียเครื่องบินเพราะการใช้งานหนักเกินไป 

แล้วยังจะ "ถูกสอย" โดยกองกำลังชนกลุ่มน้อยถี่ขึ้นทุกวันด้วย

Photo - เครื่องบินไอพ่นของกองทัพอากาศเมียนมาร์ทำการซ้อมรบบนท้องฟ้าเหนือลานสวนสนามเพื่อเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพของประเทศในกรุงเนปีดอ เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2566 (Photo by AFP)

TAGS: #เมียนมา #กองทัพอากาศ