ชาวจีนตั้งคำถาม สมาร์ทคาร์ของ Huawei ปลอดภัยแน่หรือ? หลังไฟลุกท่วมติดในรถจนตาย 3

ชาวจีนตั้งคำถาม สมาร์ทคาร์ของ Huawei ปลอดภัยแน่หรือ? หลังไฟลุกท่วมติดในรถจนตาย 3

AITO M7 หรือ 问界M7 (เวิ่นเจี้ยM7) หรือ 华为问界M7 (หัวเว่ยเวิ่นเจิ้ยM7) คือรถครอสโอเวอร์ขนาดกลางซึ่งผลิตโดย Seres ค่ายรถยนต์ของจีน โดยความร่วมมือกับ Huawei (หัวเว่ย) บริษัทด้านเทคโนโลยีส่อสารของจีน โดยผลิตมาตั้งแต่ปี 2022

แต่ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 เมษายน รถยนต์ AITO M7 ของ Huawei เกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับรถบรรทุกซ่อมบำรุงและเกิดไฟไหม้ในเมืองหยุนเฉิง มณฑลซานซี ประเทศจีน จนทำให้คนในรถเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 3 คน 

มีรายงานจากสื่อภาษาจีนแหล่งต่างๆ ว่า รถที่เกิดอุบัติเหตุถูกไฟไหม้ ไม่สามารถลดกระจกลงได้ และที่จับประตูที่ซ่อนอยู่ไม่หลุดออกมา ซึ่งส่งผลต่อการช่วยเหลือบุคคลที่ติดอยู่ในรถ  จากเหตุการณ์แม้ว่าจะมีพลเมืองดีจำนวนมากได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือในที่เกิดเหตุและพยายามทุบกระจกรถด้วยวัตถุแข็งเพื่อช่วยเหลือผู้คนในรถ 

จากเหตุที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวจีนตั้งคำถามเรื่องประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยของรถยนต์ AITO M7 

นางสาวหม่า สมาชิกในครอบครัวของผู้เสียชีวิต โพสต์บนเวยป๋อ ซึ่งเป็นโชเชียลมีเดียของจีนเมื่อวันที่ 27 เมษายน ว่าคนขับคือน้องชายของเธอ และรถคันนี้ซื้อมาเมื่อ 3 เดือนก่อน สามีและลูกชายวัย 2 ขวบของเธออยู่ในรถด้วย 

นางสาวหม่า ตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับรถยนต์หลังเกิดอุบัติเหตุ เช่น ถุงลมนิรภัยไม่เด้ง มือจับประตูที่ซ่อนอยู่ไม่เด้ง ระบบ AEB (ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ) ของรถไม่มีการเบรกฉุกเฉิน และเหตุใดแบตเตอรี่จึงเกิดไฟไหม้หลังจากเกิดอุบัติเหตุการชนกัน 

อุบัติเหตุดังกล่าวก่อให้เกิดการถกเถียงกันทางอินเทอร์เน็ต คำค้นหา 问界M7起火 (เวิ่นเจี้ยM7 เกิดไฟลุก) เป็นเทรนดิ้งขึ้นสู่อันดับที่ 2 ในรายการค้นหาที่มาแรงในเช้าวันที่ 28 เมษายน ชาวเน็ตคนหนึ่งกล่าวว่า Huawei พูดเกินจริง AEB และฟังก์ชันอื่น ๆ ของรถยนต์ของพวกเขา ฟังก์ชันและการออกแบบที่ซ้ำซ้อนด้านความปลอดภัยของ Huawei อาจมีข้อบกพร่อง และยังมีอันตรายที่เกิดจากความปลอดภัยของที่จับประตูที่ซ่อนอยู่

เช่น ในช่องคอมเมนต์การเสนอข่าวนี้ของสำนักข่าวเฟิ่งหวงหว่างไฉจิง (凤凰网财经) เช่นความเห็นหนึ่งบอกว่า "ที่เปิดประตูรถที่ซ่อนเอาไว้คือการออกแบบที่ไม่เป็นมิตรกับมนุษย์" และอีกความเห็นบอกว่า "ทำไมประตูรถถึงไม่ล็อคเหมือนถุงลมนิรภัย ที่สามารถปลดล็อคอัตโนมัติหลังจากเกิดอุบัติเหตุได้? ในตอนนี้ เทคโนโลยีทรงพลังมากแล้ว ทำไมการปลดล็อคที่สามารถช่วยชีวิตถึงทำไม่ได้?

ในเพจเหลิ่งหน่วนซื่อผิน (冷暖视频) มีผู้มาแสดงความเห็นโจมตีบริษัท Huawei ทั้งทางตรงแล้วทางอ้อม โดยบางความเห็นชี้ว่า บางบริษัทใช้กลยุทธ์ในการลบคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับข่าวนี้รวมถึงการลบคลิปวิดีโอของอุบัติเหตุ

อีกหนึ่งอินฟลูเอนเซอร์ในเวยปั๋ว คือ "อิ๋งหั่วฉง ว๋านเจี่ย อี้ฝานถงเสวีย" (萤火虫玩家一凡同学) แสดงความเห็นว่า  “รถคันนี้เพิ่งจะประกาศขายว่าเป็นรถอัจฉริยะไม่ใช่เหรอ? หากไม่สามารถทำงานได้ดีด้านความปลอดภัย แล้วรถอัจฉริยะจะมีประโยชน์อะไรล่ะ หลังจากที่ Huawei ลงทุนใน Seres ชื่อเสียงก็ (ถูกปั่น) จนกลายเป็นเทพเกินไปจริง ๆ นี่เป็นความสามารถด้านการตลาดของพวกเขาจริงๆ บริษัทรถยนต์จะต้องรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุทั้งหมด หากหลีกเลี่ยงการถูกตำหนิ พวกเขาจะถูกคนใช้รถต่อว่าจนเสียหาย”

จากกรณีที่เกิดขึ้น เมื่อเผชิญกับข้อกังขาจากสาธารณชน เวิ่นเจี้ยจึงมีแถลงการณ์ตอบว่า จากข้อมูลของหน่วยงานระเบียบการจัดการการเข้าถึงข้อมูลแพลตฟอร์มระดับชาติ พบว่าความเร็วของรถอยู่ที่ 115 กม./ชม. เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ถุงลมนิรภัยใช้งานได้ตามปกติ และลักษณะของชุดแบตเตอรี่กำลังเป็นปกติ พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนี้ ผลการสอบสวนโดยเฉพาะจะต้องรายงานจากกรมตำรวจจราจรต่อไป บริษัทกำลังให้ความร่วมมืออย่างแข็งขัน กรมตำรวจจราจรในพื้นที่ดำเนินการสอบสวนอุบัติเหตุ ให้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อค้นหาสาเหตุของอุบัติเหตุ และให้การสนับสนุนครอบครัวเท่าที่จะทำได้
 

TAGS: #Huawei #รถยนต์