ธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยแรงแค่ไหน หลังธนาคาร Silicon Valley Bank ล้มประกอบกับมูดีส์หั่น เครดิตระบบธนาคารสหรัฐ สู่ "เชิงลบ"
รอยเตอร์รายงานว่า หลังเหตุการณ์ธนาคารธนาคารซิลิคอนแวลลีย์ หรือ SVB (Silicon Valley Bank) ล้มเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ธนาคารแห่งนี้ล้ม สืบเนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องดังกล่าวช่วงวันที่ 21 มีนาคมนี้ คณะเจ้าหน้าที่ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (Federal Reserve) มีกำหนดหารือร่วมกันเพื่อพิจารณาเรื่องดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้มีหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25 ทว่าการล้มของธนาคาร SVB ที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับที่ 16 ของสหรัฐ อาจไม่ได้ทำให้เฟดระงับการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อก็ตาม แต่กรณีของธนาคาร SVB ทำให้เฟดอาจต้องดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวังยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้การขึ้นดอกเบี้ยส่งผลต่อภาคการธนาคารและเศรษฐกิจของสหรัฐไปมากกว่านี้
บ็อบ ชวาร์ซ นักเศรษฐศาสตร์จาก Oxford Economics ให้ความเห็นว่า ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะชะงักงั้นต่อระบบธนาคารจากการปิดของธนาคาร SVB ค่อนข้างน้อย แต่อย่างไรก็ตามผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวมอาจทำให้เฟดต้องระแวดระวังในการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อช่วงเดือนมกราคมจนถึงกุมภาพันธ์ ยังพบว่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่ามูลค่าจีพีดีสหรัฐจะขยายตัวแตะระดับ 2.6% ซึ่งสูงกว่าระดับ 2% ที่เคยคาดไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังมีความจำเป็นที่เฟดต้องควบคุมดอกเบี้ยต่อไปเพื่อให้เงินนเฟ้ออลงมาอยู่ที่รระดับเป้าหมาย 2%