ธนาคารกลางทุกชาติทั่วยุโรปจับตารายชั่วโมง หลังธนาคารกลางสวิสโดดอุ้มเครดิตสวิส หวั่นแบงก์ใหญ่ในยุโรปล้มเป็นโดมิโน่
หน่วยงานด้านการกำกับด้านการเงินของธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ประกอบพร้อมมอบว่าช่วยเหลือด้านสภาพคล่องแก่ธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) สถาบันการรายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศเป็นจำนวนเงินสูงถึง 50 พันล้านฟรังก์ หรือราว 1.8 ล้านล้านบาท เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังหุ้นของเครดิตสวิสดิ่งลงเกือบ 30% ในเวลาเพียงวัน จากความวิตกของนักลงทุนต่อสถานะการเงินบริษัท
การตัดสินใจปล่อยกู้ของธนาคารกลางสวิส มีขึ้นอย่างรวดเร็วหลังมูลค่าหุ้นของบริษัทแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อติดกันเป็นวันที่ 2 หลังจากที่นักลงทุนรายใหญ่ของธนาคารแห่งชาติซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของเครดิต สวิส บอกว่าไม่สามารถให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติมได้ เนื่องจากธนาคารแห่งชาติซาอุเคยให้ความช่วยเหลือต่อเครดิต สวิส มาต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่สามแล้วล
เกิดอะไรขึ้นกับเครดิต สวิส
เมื่อปีที่แล้วลูกค้าของเครดิต สวิส ถอนเงินไปไม่น้อยกว่า 123 พันล้านฟรังก์สวิส (133 พันล้านดอลลาร์) ในไตรมาสที่ 4 นั่นทำให้ธนาคารชะลอการแถลงผลประกอบการประจำปีออกไป เพราะธนาคารมีผลขาดทุนสุทธิประจำปีอยู่ที่เกือบ 7.3 พันล้านฟรังก์สวิส มากที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตซัพไพร์มเมื่อปี 2008
ด้วยความที่ธนาคารขาดทุนสูงเกือบ 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 300,000 ล้านบาท ในช่วงที่ผ่านมาเครดิต สวิส ได้เผชิญกับปัญหาด้านเงินทุนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างธนาคารแห่งชาติซาอุดิอาระเบีย ปฏิเสธการเพิ่มลงทุนในเครดิตสวิส เพราะนักลงทุนซาอุฯ ได้เพิ่มสัดส่วนในเครดิต สวิสเป็นจำนวนถึง 9.8 % และหากเพิ่มทุนอีกสัดส่วนนี้ก็จะเพิ่มขึ้นเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ก็จะมีปัญหาด้านกฎระเบียบ
การประกาศไม่เพิ่มทุนของธนาคารซาอุฯ ส่งผลให้บรรดานักลงทุนกังวลว่าอนาคตของธนาคารเครดิต สวิสอาจไม่สู้ดีนัก ประกอบการวิตกกังวลของบรรดานักลงทุนที่สืบเนื่องจากการล่มสลายของแบงก์ในสหรัฐอย่าง SVB และ Silvergate ส่งผลให้มีแรงเทขายหุ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากนับจากจุดสูงสุดของหุ้นเครดิตสวิสที่เคยทำไว้ตอนนกลางปี 2022 หุ้นของ Credit Suisse ลดลงกว่า 85%
กรณีของเครดิตสวิส ส่งผลให้บรรดาธนาคารกลางหลายชาติทั่วยุโรปต่างเฝ้าจับตากันเป็นรายวันหรือแทบจะรายชั่วโมง เนื่องจากธนาคารเครดิต สวิส เป็นธนาคารที่มีส่วนเชื่อมโยงกับระบบธนาคารกลางในหลายชาติในแง่ของการออกแบงก์การันตี ไปจนถึงการถือครองตราสารหนี้และสินทรัพย์ของธนาคารกลางในยุโรปหลายแห่ง
เครดิต สวิส ใหญ่เกินจะล้ม
ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า หาก เครดิต สวิส มีปัญหา ธนาคารกลางสวิสจต้องโดดเข้ามาอุ้มทันที ที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพราะว่า เครดิต สวิส เป็นธนาคารที่สำคัญกว่า ซิลิคอน แวลลีย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank) มากหากเทียบกับมูลค่าสินทรัพย์ที่มีกว่า 600,000 ล้านดอลลาร์
โดยเครดิต สวิสธนาคารขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสวิส มีอายุ 167 ปี ฝังรากลึก มีโครงข่ายเชื่อมโยงกับธนาคารต่าง ๆ ในยุโรป และสหรัฐอเมริกาอย่างลึกซึ้ง จึงใหญ่เกินไปที่จะปล่อยให้ล้ม เพียงผลจากเมื่อคืนนี้แค่ความกังวลใจที่หุ้นของเครดิตสวิสดิ่ง ต่างก็ทำให้หุ้นธนาคารอื่น ๆ ในยุโรปก็ร่วงตามเป็นแถว
ขณะที่ตลาดหุ้นอังกฤษ สเปน อิตาลี ก็ร่วงไปประมาณ 4% ภายใน 1 วัน จนกระทั่งธนาคารกลางอังกฤษ ต้องจัดประชุมฉุกเฉินกับกลุ่มธนาคารกลางอื่น ๆ เพื่อหารือแนวทางที่จะดูแล
แม้เครดิต สวิส มีปัญหาเฉพาะในหลายเรื่อง ต่างจากธนาคารอื่น ๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งกรณีของสหรัฐฯ และยุโรป บ่งชี้ถึงความเปราะบางในระบบสถาบันการเงินโลกที่เพิ่มขึ้นมาก จากการขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเกินคาดมา 1 ปีเต็ม ของบรรดาธนาคารกลางหลายแห่งที่หวังสกัดเงินเฟ้อ
ทำให้สถาบันการเงินจำนวนมากจัดการความเสี่ยงได้ไม่หมด มีความเสียหายซ่อนไว้ในพอร์ตพันธบัตรที่ถือจากการลงทุนที่ไปลงไว้ และยิ่งเมื่อเศรษฐกิจซบเซาลงจากหนี้เสียต่าง ๆ ก็จะอ่อนแอลงไปเพิ่มทำให้ทุกคนพร้อมวิ่งเมื่อมีประเด็นเกิดขึ้น นายกอบศักดิ์ ระบุ