ตอนนี้คนไทยกับคนเขมร (หรือชาวกัมพูชา) ทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวัน เรื่องใครเป็นต้นตำรับศิลปวัฒนธรรมของแต่ละคนกันแน่ แถมยังทะเลาะกันเรื่องเจ้าของดินแดน ทะเลาะกันเรื่องคุณภาพชีวิตของใครดีกว่ากัน ฯลฯ
คนไทยจึงหมกมุ่นอยู่กับการตอบโต้คนเขมร และคนเขมรก็ทุ่มเทเหลือเกินกับการหาเรื่องไทย
แต่เรื่องนี้ทำให้คนไทยเสียเวลามาพอสมควรแล้ว เพราะมัวแต่ "ลดตัว" ไปมีปากเสียงกับประเทศที่พัฒนาด้อยกว่าไทยในทุกเรื่อง ในขณะที่คนไทยเสียทั้งเวลา เสียทั้งโอกาสที่จะถีบตัวเองไปข้างหน้า
คนเขมรและประเทศกัมพูชา "ได้แสง" ไปเต็มๆ ด้วยการทำให้ประเทศของพวกเขามี "ที่ยืน" ขึ้นมาในเวทีโซเชียลมีเดีย
ผมจะยกตัวอย่างเช่นในวงการฟุตบอล ซึ่งกัมพูชาไม่ได้ดีเด่อะไร และไม่เคยมีที่ยืนในระดับ "โฟร์คิง" ของอาเซียน เรียกว่าเป็นพวกนอกสายตามาตลอด
แต่เพราะเอาตัวเองไปโหนกับไทย (ด้วยการหาเรื่องไทย) เวลาไทยแข่งกีฬาอะไรก็มักจะเข้ามาโหนชาติที่เป็นคู่แข่งกับไทย เพื่อหาแสงให้ตัวเอง เช่น เวลาไทยกับอินโดนีเซียเผชิญหน้ากันในเกมส์กีฬา พวกเขมรก็จะเข้ามา "มีซีน" ด้วยการช่วยอินโดนีเซียแซะไทย
จากนั้นพวก "ขบวนการเกรียนเขมร" ก็จะทำงานเป็นระบบด้วยการโยกประเด็นนี้ไปเล่นในเพจอื่นๆ ทั้งเรื่องศิลปวัฒนธรรม การพัฒนานาอาเซียน โดยโยงว่า "กัมพูชากับอินโดนีเซียเป็นพี่น้องกัน" และอื่นๆ เพื่อหาแสงให้ตัวเอง ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีส่วนอะไรด้วยกับอีเว้นต์ต่างๆ เพราะประเทศตัวเองยังด้อยพัฒนา
เขมรพวกนี้จะปั่นให้ประเทศอื่นๆ มีเรื่องกับไทย แล้วตัวเองทำตัวเป็น "เห็บ" เพื่อหาที่เกาะให้ตัวเอง ตัวเองจะได้มีคนพูดถึง นี่คือวิธีการพีอาร์ประเทศตัวเองของเขมรบางพวก
หน้าที่ของขบวนการ "โทรลเขมร" (Khmer troll) พวกนี้ไม่ธรรมดานะครับ เพราะผมเข้าไปส่องตามเพจต่างๆ ที่อ้างว่าเป็น "ตัวแทนอาเซียน" ปรากฏว่าเพจพวกนี้จำนวนหนึ่งเป็นเพจที่มีแอดมินเป็นเขมร ที่อำพรางตัวเองมาโปรโมท "อาเซียนร่วมใจ" แบบเนียนๆ เพื่อแซะไทยและเวียดนาม ซึ่งเป็นศัตรูทางธรรมชาติของ "พวกชนชั้นนำเขมร"
เราจึงเห็นว่าพวกเขมรเหล่านี้ยั่วยุไทยกับชาติอื่น แต่ไม่กล้าเล่นกับเวียดนาม แต่ก็พยายามยั่วเวียดนามแบบเดียวกับยั่วไทย
แต่เวียดนามเข้ากล้าหาญกว่าไทย ตรงที่พอเขมรพวกนี้ห้าวล้ำเส้น เวียดนามก็จะเข้าไปรุมด่า "พวกชนชั้นนำเขมร" ที่เชื่อกันว่าอยู่เบื้องหลังขบวนเกรียนเหล่านี้ (เพราะแน่นอนว่าการเกรียนแบบมีระบบและใช้ต้นทุนพวกนี้ไม่มีทำงานให้ฟรีๆ แน่ๆ) เราจึงเห็นพวกเวียดนามเข้าไปถล่มเพจของ ฮุน เซน จนเละเทะ เมื่อไม่นานมานี้
พูดตรงๆ ว่าผมก็สงสัยมานานว่าขบวนเกรียนเขมรเหล่านี้ไม่ธรรมดา เพราะเป็นพวกมีความรู้ (แต่ปราศจากความละอาย) และระดมยิงเพจเก่ง ขยันสร้างคอนเทนต์ ซึ่งเรื่องพวกนี้ต้องใช้เงินทุน จึงน่าสงสัยว่ามีเบื้องหลังเป็นพวกคนใหญ่คนโตของกัมพูชา ที่ชอบปั่นชาตินิยม (Khmerism) ให้คนเขมรเกลียดไทย เพื่อตัวเองจะได้เป็นฮีโร่
คนไทยหลงกลพวกนี้นิสัยคนไทยรักสงบ แต่พอถูกยั่วยุก็จะรบใจขาด แต่เวียดนามนั้น "รบเป็น" คือไม่เสียเวลาลงไปเล่นกับพวกนี้ และไม่ได้หมกมุ่นเหมือนคนไทย ซึ่งรักชาติบ้านเมือง ศิลปะวัฒนธรรมของเราเองอย่างมาก จนตกหลุมพรางได้ง่าย กลายเป็นต้องเสียเวลา เสียพลังงาน และเสียทรัพยากรไปกับการต่อล้อต่อเถียงเกรียนเขมรพวกนี้
ผลคืออะไรครับ? เขมรพวกนี้ไม่ได้สำนึกอะไร ไม่ได้เปลี่ยนแปลงทัศนะอะไร ต่อให้คนไทยเอาข้อมูลที่ถูกต้องไปชี้แนะอย่างมีมารยาท พวกนั้นก็ไม่แยแส แถมยังด่ากลับ เพราะเป้าหมายก็คือ การทำให้โลกรู้ว่า "ไทยคือผู้เลียนแบบกัมพูชา" และ "ดินแดนของไทยเคยเป็นของกัมพูชา"
ดังนั้น เราไม่ต้องไปเสียเวลาต่อล้อต่อเถียงครับ ในเมื่ออีกฝ่ายไม่คิดจะมีอารยธรรม เราก็ไม่ต้องไปให้แสงสว่างกับพวกเขา สิ่งที่พวกนั้นต้องการคือ "ยอดเอนเกจเมนต์" ไม่ใช่ความจริง
การเสียเวลากับเขมรไร้คุณภาพพวกนี้ คือการฉุดตัวเองให้ต่ำ ลดตัวเองให้เตี้ย ทำลายมาตรฐานของคนไทยที่คุยด้วยเหตุผล จนเดี๋ยวนี้คนไทยหลายคนตามก้นเขมรไม่รู้ตัว ด้วยการกลายเป็นเกรียนเสียเอง
นี่คือความตกต่ำของคนไทย เพราะเสียเวลาไปทำตัวเองให้คุณภาพลดลง แต่คนที่มีแต่ได้กับได้ คือพวกเขมรหิวแสง
ในขณะที่เวียดนามมีเป้าหมายเพื่อไล่ตามไทยให้ไทย ปรากฏว่าคนไทยทุกวันนี้ ไม่ได้มีเป้าหมายจะไล่ตามใครเขาเลย แต่กลับปล่อยตัวลดต่ำ ไปต่อล้อต่อเถียงเพื่อให้เขมรขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับเราเสียอีก
ต่อไปคงไม่แคล้วไทยถูกเวียดนามไล่ทัน แล้วถูกถีบลงไปอยู่ในระดับเดียวกับกัมพูชา
ลองคิดดูครับ ว่าเราจะทำตัวให้ตกต่ำแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน?
ป.ล.
ข้างต้นผมเขียนตำหนิพวก "เกรียนเขมร" เป็นหลัก และขอติงคนไทยที่หมกมุ่นกับการทำสงครามออนไลน์กับเขมรพวกนั้น
แต่ผมไม่ได้รังเกียจประเทศกัมพูชา ตรงกันข้าม มีความหวังเสมอว่าอยากให้กัมพูชาพัฒนาทัดเทียมอารยะประเทศ เพราะยิ่งเพื่อนบ้านพัฒนา ประเทศไทยก็จะยิ่งสุขสบายไปด้วย และยินดีทุกครั้งที่เห็นคนเขมรสำนึกบุญคุณที่ได้มีงานมีกินในประเทศไทย คนเหล่านี้แหละที่คนไทยต้องสนับสนุน เพราะเป็นประชากรคุณภาพของกัมพูชา
เพียงแต่สิ่งที่เขมรบางคนทำนั้นไม่ใช่ "อารยะ" (Civilized) จึงขอเตือนไว้ว่าหากยังทำแบบนี้ ประเทศจะอับจนตลอดไป เพราะถ้าวิธีคิดต่ำกว่าอารยะ ก็จะทำให้มาตรฐานชีวิตก็ป่าเถื่อนกันต่อไป
กับคนไทยด้วยกัน ผมขอแนะว่า ควรเลิกต่อปากต่อคำกับเขมรด้อยคุณภาพ เดี๋ยวจะป่าเถื่อนตามไปด้วย
ถ้าถามว่า "ทำแบบนี้ไม่กลัวพวกเขมรเคลมสิ่งที่เป็นไทยของเราหรือไง?" ขอตอบว่า ถ้าเขมรทำแบบนั้นได้สำเร็จ ผมว่าเราก็ยอมเป็นลูกน้องเขาเถิดครับ เพราะเท่ากับว่าสติปัญญา เทคโนโลยี และอิทธิพลการเมืองของไทยได้ถดถอยลงยิ่งกว่าชาติเขมรแล้ว
ในความเป็นจริงก็คือ ไทยเราเหนือกว่าทุกด้าน โดยเฉพาะเครดิตในเวทีระหว่าประเทศ การที่ประเทศที่ด้อยกว่าจะมาอ้างโน่นอ้างนี่ของไทยเป็นของตัวเองนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะหลักฐานและอำนาจต่อรองเราเหนือกว่าทุกด้าน
ดังนั้น อย่าตีตนไปก่อนไข้หรือเป็นกระต่ายตื่นตูม แต่ให้ตอบรับพวกเกรียนเขมรด้วยความเป็น "ผู้ดี" โดยไม่เล่นสกปรก ไม่ทำตัวเหมือนเด็กอมมือ และไม่เกรียน เพราะสังคมไทยได้ก้าวพ้นความไร้อารยธรรมแบบนั้นมาแล้ว
ถ้ากลัวมากว่าเขมรจะดังกว่าไทย ก็ลองเผยแพร่ความจริงเป็นภาษาอังกฤษสิครับ เพื่อบอกกับโลก ไม่ต้องไปโต้เถียงกับพวกนั้นด้วยภาษาไทย มันจะมีประโยชน์อะไรนอกจากความสะใจ แล้วก็ติดหล่มติดเลน เป็นของเล่นให้เกรียนเขมรไปเรื่อยๆ ในขณะที่เพื่อนบ้านเขามุ่งไปข้างหน้า
ลองคิดดูครับ ว่าเราจะไล่คว้าดาวข้างบน หรือลดตัวลงมาเล่นกับขี้โคลน
บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการ แบะบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better
Photo by TANG CHHIN Sothy / AFP